วิธีป้องกันบัตรเครดิต-เดบิต ถูกขโมยไปใช้งาน ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

ในปัจจุบันคนเรานิยมใช้บัตรเครดิตมากกว่าการพกเงินสด เรียกว่ากลายเป็นสังคมไร้เงินสดไปแล้ว ทั้งนี้ทางเพจ กองปราบปราม ได้เผยแพร่ข้อมูลถึงกรณีวิธีป้องกัน บัตรเครดิต-เดบิต ถูกขโมยไปใช้ เพื่อให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

ในปัจจุบันคนเรานิยมใช้บัตรเครดิตมากกว่าการพกเงินสด เรียกว่ากลายเป็นสังคมไร้เงินสดไปแล้ว ทั้งนี้ทางเพจ กองปราบปราม ได้เผยแพร่ข้อมูลถึงกรณีวิธีป้องกัน บัตรเครดิต-เดบิต ถูกขโมยไปใช้ เพื่อให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ โดยระบุข้อความว่า

 

วิธีป้องกันบัตรเครดิต-เดบิต ถูกขโมยไปใช้งาน ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

 

10 วิธีป้องกันบัตรเครดิต-เดบิต ถูกขโมยไปใช้ ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

1. อย่าปล่อยให้บัตรคลาดสายตา

เพื่อป้องกันการถูกขโมยข้อมูลบนบัตร หรือถูกนำบัตรไปรูดซื้อสินค้าอื่นๆ จึงควรสังเกตบัตรของตนเองอยู่เสมอเวลายื่นให้พนักงานตอนจ่ายเงิน

2. ตั้งรหัสให้เดายาก 

แนะนำว่าไม่ควรตั้งรหัสเป็นเลขซ้ำกัน เช่น 1111 หรือเลขเรียงกัน เช่น 1234, 6789 หรือเป็นเลขที่เกี่ยวข้องกับตัวเองจนคนร้ายเดาได้ง่าย เช่น เลขวันเกิด หรือบัตรประชาชน เป็นต้น

3. ใช้บัตรกับร้านค้าที่น่าเชื่อถือเท่านั้น 

การซื้อของผ่านบัตรสิ่งสำคัญเลยคือต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือมากกว่าปกติ เพราะมีโอกาสถูกโกงได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะถ้าเป็นการซื้อของออนไลน์ยิ่งควรเลือกร้านที่น่าเชื่อถือไว้ใจได้เท่านั้น หรือเป็นร้านที่มีหน้าร้านชัดเจนก็จะปลอดภัยมากกว่า

 

วิธีป้องกันบัตรเครดิต-เดบิต ถูกขโมยไปใช้งาน ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

 

4. เปิดใช้งานแจ้งเตือนผ่าน SMS 

เพื่อให้เรารู้ถึงความเคลื่อนไหวเมื่อมีการใช้บัตร และจะทำให้เรารู้ด้วยหากมีคนแอบนำบัตรของเราไปใช้

5. ตรวจสอบยอดใช้จ่ายอยู่เสมอ 

ต้องคอยเช็กการใช้จ่ายอยู่เสมอว่าตรงกับราคาสินค้าที่เราจ่ายไปจริง ๆ ไหม ทั้งก่อนเซ็นเซลล์สลิป และหลังจากใช้จ่ายไปแล้วในใบแจ้งบัญชีประจำเดือน

 

วิธีป้องกันบัตรเครดิต-เดบิต ถูกขโมยไปใช้งาน ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

6. ปิดรหัสเลข 3 หลัก CVV ไว้ 

รหัส CVV คือเลข 3 หลักที่อยู่หลังบัตร ซึ่งเป็นรหัสเพื่อการยืนยันตัวตนในการชำระเงินออนไลน์ และหากมิจฉาชีพได้รหัสนี้ไป ก็มีโอกาสที่จะนำไปซื้อสินค้าได้ง่าย ๆ โดยเราสามารถป้องกันได้ ด้วยการจดจำตัวเลขหรือจดบันทึกรหัสไว้ในที่ปลอดภัย แล้วขูดรหัส CVV ด้านหลังบัตรทิ้ง หรืออาจจะใช้วิธีติดสติ๊กเกอร์ปิดรหัส CVV ไว้ ก็ได้เช่นกัน

7. ใช้กระเป๋าป้องกัน RFID 

ลองสังเกตบัตรเดบิต-บัตรเครดิตของตัวเองดูดี ๆ ว่าเป็นบัตรประเภท Visa Paywave ที่ใช้แตะจ่ายผ่านเครื่องได้หรือเปล่า เพราะหากเป็นแบบนั้นแล้ว ก็มีโอกาสที่เหล่ามิจฉาชีพจะนำเครื่องที่ชื่อว่า RFID Scanners แอบมาแตะบัตรของเราเพื่อขโมยข้อมูลไปอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ดี เราสามารถป้องกันได้ด้วยการหาซื้อกระเป๋าป้องกัน RFID มาใช้งาน ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับกระเป๋าสตางค์ทั่วๆ ไปเลย

 

วิธีป้องกันบัตรเครดิต-เดบิต ถูกขโมยไปใช้งาน ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

8. อย่าบอกข้อมูลบัตรกับคนอื่น 

เพราะเป็นเหมือนการเปิดช่องโหว่ให้มิจฉาชีพเข้ามาขโมยบัตรของเราไปใช้ได้ง่าย ๆ เลย ซึ่งรวมถึงการกรอกข้อมูลต่าง ๆ บนเว็บไซต์ด้วย

9. หากพบความผิดปกติติดต่อธนาคารทันที 

หากบัตรของเราสูญหาย หรือมียอดใช้จ่ายที่ผิดปกติ สิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือ การแจ้งธนาคารผู้ออกบัตรทันทีเพื่อทำการอายัดบัตร หลังจากนั้นควรรีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจด้วย เพื่อจะได้ติดตามและป้องกันความเสียหายได้ทันท่วงที

10. สมัคร Verified by Visa, MasterCard Secure Code หรือ JCB J/Secure 

เป็นบริการที่ผู้ออกบัตรร่วมกับ Visa, MasterCard และ JCB พัฒนาขึ้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิต โดยจะให้เราใช้งานบัตรด้วยรหัสผ่าน (Password) และข้อความยืนยันส่วนตัว (Personal Assurance Message: PAM) เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า แม้จะมีคนขโมยบัตร หรือจำเลขบัตรของเราไป ก็จะไม่สามารถนำไปใช้จ่ายออนไลน์ได้นั่นเอง

ด้วยความห่วงใยจากกองปราบ

#วิธีป้องกันบัตรเครดิตถูกขโมย #กองปราบ #กองปราบปราม #CSD#CSDthailand

 

วิธีป้องกันบัตรเครดิต-เดบิต ถูกขโมยไปใช้งาน ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : กองปราบปราม

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

หนุ่มเจอคุณตาวัย 92 ปี นั่งขายลอตเตอรี่

ยกย่องครูดอยสาว ทิ้งความสุขสบาย อุทิศตนสอนเด็กด้อยโอกาส บนถิ่นทุรกันดาร

เจ้าของปล่อยห้องให้คนเช่า 9ปีเต็ม ประวัติดี แต่งตัวสะอาด เรียบร้อย พอวันย้ายออกเข้าไปเจอสภาพห้อง แทบรับไม่ได้

คำสารภาพจากคนขับรถชนยายขายข้าวต้มมัด