คู่หนุ่มสาวช่วยเจ้าตูบตกน้ำ แถมพาไปเลี้ยงดูที่บ้านอย่างดี

เมื่อหนุ่มสาวคู่รัก ผ่านไปเจอลูกหมาจรตกน้ำ แล้วช่วยชีวิตไว้ได้ทัน

ถือเป็นเรื่องราวความน่ารัก ที่สะท้อนถึงความเมตตาของคน ที่มีต่อเจ้าตูบตัวน้อย เมื่อหนุ่มสาวคู่รัก ผ่านไปเจอลูกหมาจรตกน้ำ แล้วช่วยชีวิตไว้ได้ทัน แต่หลังจากนั้น มันก็มีอาการป่วยบ้าง ตามประสาลูกหมาที่ขาดแม่ ไร้คนดูแล หนุ่มสาวคู่นี้จึงอาสาไปดูแล จนหมาน้อยหายป่วย และพามาอยู่ที่บ้าน เลี้ยงดูอย่างดี 

คู่หนุ่มสาวช่วยเจ้าตูบตกน้ำ แถมพาไปเลี้ยงดูที่บ้านอย่างดี

 

 

โดยเรื่องราวดังกล่าว ได้รับการเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊ก Kanokpon Onjunprasert ที่ได้มีการโพสต์ภาพ พร้อมเล่าว่า "วันนั้นเรากับแฟนผ่านไปให้ข้าวหมาจรแถวนั้นพอดีเลย และรู้สึกหิวกันเลยจอดรถหาซื้อของกิน พ่อค้าขายลูกชิ้นปิ้งเล่าให้ฟังว่ามีลูกหมาตกน้ำ แม่เขาทิ้ง แต่ยังหาตัวไม่เจอเลยไม่รู้ไปทางไหนแล้ว เรากับแฟนก็รีบเดินหากันสองคน พอชาวบ้านแถวนั้นเห็นก็เลยมาช่วยกันเดินหาอีกแรง 


หาตามข้างคลองน้ำป่าหญ้า หายังไงก็ไม่เจอ ทั้งมืดป่ารก เราสงสาร แช่น้ำนานๆ ด้วย กลัวลูกหมาหนาวตายเพราะขึ้นจากน้ำไม่ได้ หรือสัตว์ลากเอาไปกิน เราพยายายเดินหาอีกที สุดท้ายเราได้ยินเสียงลูกหมาร้องแว่วๆ มา เรารีบเดินตามเสียงไปเจอลูกหมาตัวน้อยนอนขดตัวร้องอยู่ในโพรงหญ้าตัวสั่นด้วยความกลัว เพราะขึ้นฝั่งเองไม่ได้ ตลิ่งสูงมาก 

 

 

 

 

คู่หนุ่มสาวช่วยเจ้าตูบตกน้ำ แถมพาไปเลี้ยงดูที่บ้านอย่างดี

 

ถ้าวันนั้นแม่ไม่ผ่านมาป่านนี้ไม่รู้หนูจะเป็นไงบ้าง ตั้งแต่เล็กๆ หมาน้อยภูมิต้านทานโรคน้อยร่างกายไม่ค่อยดีเจ็บป่วยบ่อย 3 วันดี 4 วันไข้ เราป้อนยาดูแลมาจนเขาหายร่างกายแข็งแรงปกติ นิสัยหมาน้อย ร่าเริง น่ารัก ขี้เล่น อ้อนเก่ง และกินจุมาก นับจากวันนั้น 2 เดือนแล้วที่ข้าวเหนียวมาอยู่กับแม่ออยนะลูก"

 

 

คู่หนุ่มสาวช่วยเจ้าตูบตกน้ำ แถมพาไปเลี้ยงดูที่บ้านอย่างดี

 


ปัจจุบันเจ้าตูบน้อย มีชีวิตที่ดีขึ้น สุขภาพแข็งแรง และหน้าตาสดใส แววตาของมันบ่งบอกถึงความสุขที่มีบ้านอยู่ ทำให้บรรดาคนรักน้องหมา ต่างชื่นชมในความใจบุญของหนุ่มสาวคู่นี้ ที่มีเมตตาช่วยเหลือชีวิตน้อยๆ พร้อมขอให้ทั้งสองเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป มีความสุขทุกประการ 

 

 

คู่หนุ่มสาวช่วยเจ้าตูบตกน้ำ แถมพาไปเลี้ยงดูที่บ้านอย่างดี

 

 

คู่หนุ่มสาวช่วยเจ้าตูบตกน้ำ แถมพาไปเลี้ยงดูที่บ้านอย่างดี

 

คู่หนุ่มสาวช่วยเจ้าตูบตกน้ำ แถมพาไปเลี้ยงดูที่บ้านอย่างดี

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Kanokpon Onjunprasert