สัตว์คู่ปรับมนุษย์ มีการพัฒนา เพื่อความอยู่รอด

แมลงสาบพัฒนาส่งต่อยีนส์ดื้อให้แก่กัน

แมลงสาบถือเป็นสิ่งมีชีวิตอันดับต้นๆที่ใครหลายๆคนหวาดกลัวและขยะแขยง ด้วยรูปลักษณ์และกลิ่นของมัน หลายๆคนเห็นแล้วต้องหลีกหนีให้ห่าง และในหลายๆครั้งที่มันมักจะโผล่มารบกวนเราในพื้นที่ส่วนตัวทำให้เราต้องการทางกำจัดมันอยู่ร่ำไป และตัวเลือกหลักๆที่คนใช้กำจัดมันก็คือฉีดยาฆ่าแมลงใส่มันนั่นเอง

 

สัตว์คู่ปรับมนุษย์ มีการพัฒนา เพื่อความอยู่รอด

 

ทว่าจากข้อมูลล่าสุด มีรายงานว่านักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐอเมริกาค้นพบว่าแมลงสาบกำลังเพิ่มจำนวนและพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้แมลงสาบรุ่นใหม่ต่อต้านสารเคมีและยาฆ่าแมลงของมนุษย์ ทำให้ถูกกำจัดได้ยากขึ้น

 

สัตว์คู่ปรับมนุษย์ มีการพัฒนา เพื่อความอยู่รอด

 

สัตว์คู่ปรับมนุษย์ มีการพัฒนา เพื่อความอยู่รอด

 

 

โดยงานวิจัยนี้เป็นของมหาวิทยาลัยเพอร์ดู เมือง เวสต์ลาเฟียตต์ ในรัฐอินเดียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า แมลงสาบที่รอดชีวิตจากยาฆ่าแมลง จะใช้เวลาพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็วกลับมาต่อต้านยาชนิดดังกล่าว และส่งยีนส์นี้ให้ลูกหลานของพวกมัน ทำให้สายเลือดของพวกมันเริ่มมีการส่งต่อยีนส์ดื้อยาฆ่าแมลงของมนุษย์ไปจากรุ่นสู่รุ่น

 

สัตว์คู่ปรับมนุษย์ มีการพัฒนา เพื่อความอยู่รอด

 

นอกจากการพัฒนาตัวเองให้ดื้อยาขนิดที่เคยโดนแล้วยังนำไปสู่การสร้างยีนส์ต่อต้านยาฆ่าแมลงขนิดอื่นๆ อีกด้วย เรียกว่า การดื้อยาข้ามกลุ่ม  

โดยศาสตราจารย์ไมเคิล ชาร์ฟ หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า แมลงสาบกำลังพัฒนาตัวเองให้ต่อต้านสารเคมีหลายชนิดภายในคราวเดียว ส่งผลให้การกำจัดแมลงสาบด้วยสารเคมีอย่างเดียวจะไม่ได้ผลอีกต่อไป

ด้านการทดลองนักวิทยาศาสตร์ใช้การพ่นยาฆ่าแมลง 3 ชนิด ต่อแมลงสาบใยรัฐอินเดียนา และอิลลินอยส์ โดยจะเปลี่ยนชนิดของยาวนไปจนครบ 3 ชนิด ทุกๆ 6 เดือน พบว่า จำนวนของแมลงสาบคงที่ และไม่ได้ลดลง

นักวิจัย ระบุว่า “เราไม่เคยทราบมาก่อนว่าเรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้รวดเร็วขนาดนี้” และว่า “แมลงสาบสามารถพัฒนาความสามารถในการต่อต้านยาฆ่าแมลงที่ใช้กับพวกมันได้ 4-6 เท่า ในช่วงเจเนอเรชั่นเดียว”

ทว่าอย่างไรเสียการใช้สารเคมีก็ยังคงเป็นวิธีการหลักในการควบคุมประชากรของพวกแมลงสาบเช่นเดิมนั่นเอง

 

สัตว์คู่ปรับมนุษย์ มีการพัฒนา เพื่อความอยู่รอด