สามียายโอดครอบครัวเด็กอายุ 13 ปี ซิ่งบิ๊กไบค์ ยังไม่ติดต่อเยียวยา

สืบเนื่องจากกรณี เด็กชายวัย 13 ปี ขี่บิ๊กไบค์ 1,000 ซี.ซี. ชนเข้ากับรถจักรยานยนต์คันหนึ่งที่วิ่งมาตามทาง ก่อนไถลไปชนกับรถยนต์อีกคัน จนเป็นเหตุให้เด็กชายบาดเจ็บสาหัส ซึ่งในเวลาต่อมาทางด้านผู้ปกครองได้โพสต์ข้อความขอโทษผู้ใช้รถใช้ถนน พร้อมทั้งยืนยันว่าทางครอบครัวได้อบรมสั่งสอนน้องตลอด พาไปอบรมและไปเรียนมาแล้วก่อนจะซื้อบิ๊กไบค์ให้ขี่ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดคลิป เด็ก 13 ซิ่งบิ๊กไบค์ (คลิป)


 

สามียายโอดครอบครัวเด็กอายุ 13 ปี ซิ่งบิ๊กไบค์ ยังไม่ติดต่อเยียวยา

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายประสิทธิ์ สุยะนนท์ 67 ปี สามีของ นางศุภลักษณ์ (คู่กรณีเด็กชายวัย 13 ปี) เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุภรรยาขี่รถออกจากหมู่บ้าน โดยมีนายลักษณ์ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ออกมาด้วย และได้ถูกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ของเด็กชายวัย 13 ปีชนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสันกำแพง และแพทย์ได้อนุญาตให้มารักษาตัวที่บ้าน

 

สามียายโอดครอบครัวเด็กอายุ 13 ปี ซิ่งบิ๊กไบค์ ยังไม่ติดต่อเยียวยา


 

"ภรรยายังไม่สามารถออกไปทำงานได้ตามปกติ เนื่องจากยังบาดเจ็บอยู่ ซึ่งในขณะนี้ทางด้านครอบครัวของฝั่งคู่กรณียังไม่ได้ติดต่อมาเยียวยารับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด"

 

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพง ได้มีการนำรถที่เกิดอุบัติเหตุมาเก็บไว้ตรวจพิสูจน์ที่โรงพัก และจะเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนอีกครั้ง ในส่วนของ เด็กชายวัย 13 ปี ไม่มีใบขับขี่ ก็ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาขับขี่รถโดยไม่ได้รับอนุญาต และขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้เฉี่ยวชนรถผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและได้รับความเสียหายด้วย

 

สามียายโอดครอบครัวเด็กอายุ 13 ปี ซิ่งบิ๊กไบค์ ยังไม่ติดต่อเยียวยา

 

ด้าน นายสุวิทย์ บิดาของเด็กชายวัย 13 ปี เผยถึงสาเหตุที่ซื้อมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ให้ลูกชาย เพราะลูกชายชื่นชอบการเเข่งรถมอเตอร์ไซค์มาก จึงส่งไปเรียนขับรถบิ๊กไบค์ และเรียนเพื่อใช้แข่งขันที่สนามแม่ลาว เซอร์กิต ซึ่งลูกชายเรียนไปถึงระดับสูง ขั้นเเอดวานซ์ ลงแข่งในสนามจริง จนคว้ามาได้หลายรางวัลแล้ว ซึ่งตนมั่นใจว่าถึงลูกชายอายุยังน้อยแต่ก็มีทักษะและความสามารถไม่แพ้ผู้ใหญ่

 

สามียายโอดครอบครัวเด็กอายุ 13 ปี ซิ่งบิ๊กไบค์ ยังไม่ติดต่อเยียวยา

 

"หลังจากประสบอุบัติเหตุ ลูกชายตนก็เอ่ยปากบอกว่า รถมอเตอร์ไซค์ที่มีก็ให้ขายหมดเลย ส่วนเรื่องคดีความนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเรียกคู่กรณีทั้งหมดมาสอบสวน เเละเจรจา ว่าใครเป็นฝ่ายผิด ก็จะต้องชดใช้ค่าเสียหาย"