เปิดเบื้องหลังครูนักบินสละชีวิต อยู่บังคับเครื่องบินขับไล่จนพ้นชุมชนก่อนตก

เปิดเบื้องหลังครูนักบินสละชีวิต อยู่บังคับเครื่องบินขับไล่จนพ้นชุมชนก่อนตก

สืบเนื่องจากกรณีเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่ 1 (L-39) สังกัดฝูงบิน 411  กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ เกิดอุบัติเหตุบริเวณพื้นที่บ้านเกาะกลาง ต.ป่าแดด อ.เมือง  จ.เชียงใหม่ ทำให้นักบินที่ทำการบินบาดเจ็บ 1 นาย คือเรืออากาศโท ธนวัฒน์  คูณขุนทด (นักบินที่ 1) และเสียชีวิต 1 นาย คือ นาวาอากาศตรี ณฤพล เลิศกุศล (นักบินที่ 2) ซึ่งเป็นครูการบิน 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเกิดเหตุเครื่องบินตก ที่เชียงใหม่

เปิดเบื้องหลังครูนักบินสละชีวิต อยู่บังคับเครื่องบินขับไล่จนพ้นชุมชนก่อนตก

 

ทั้งนี้ นาวาอากาศตรี ณฤพล ที่เสียชีวิตนั้น เป็นผู้เสียสละชีวิตตนเอง โดยให้ เรืออากาศโท ธีรวัฒน์ ที่เป็นลูกศิษย์ซึ่งมาฝึกบิน ได้กดปุ่มเพื่อดีดตัวออกจากเครื่องไปก่อน ส่วนตนเองพยายามบังคับเครื่องให้ไปในทิศทางป่า เพื่อไม่ให้ตกลงในชุมชน บ้านเรือนประชาชน แต่ก่อนที่เครื่องจะตกได้พยายามดีดตัวเองออกมาจากเครื่อง แต่ด้วยความสูงที่ไม่ได้ระดับ เพียง 2,000 ฟุต ทำให้ร่มกางไม่ทัน จึงทำให้ร่างของ น.ต.ณฤพล กระแทกเข้ากับต้นไม้และตกลงสู่พื้นเสียชีวิต

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องทราบชื่อผู้ประสบเหตุเครื่องบินตก ที่เชียงใหม่แล้ว

 

เปิดเบื้องหลังครูนักบินสละชีวิต อยู่บังคับเครื่องบินขับไล่จนพ้นชุมชนก่อนตก

 

ด้านเฟซบุ๊ก "สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่" มีการโพสต์ข้อความอาลัยว่า สดุดีทหารกล้า อยู่บังคับเครื่องจนวินาทีสุดท้าย นาวาอากาศตรี ณฤพล เลิศกุศล (นักบินที่ 2 ซึ่งเป็นครูการบิน) บังคับเครื่องจนวินาทีสุดท้าย เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่เบื้องล่าง

 

เปิดเบื้องหลังครูนักบินสละชีวิต อยู่บังคับเครื่องบินขับไล่จนพ้นชุมชนก่อนตก

 

ซึ่งเป็นสิ่งที่นักบินทั่วโลกทำกัน ต่อให้รู้ว่ามีเวลาเหลือน้อยมากที่จะดีดตัวออกมา แต่ก็ต้องทำเพื่อรักษาชีวิตคนอีกหลาย 10 คนหรือ 100 คนที่อยู่เบื้องล่าง ซึ่งเวลาที่เครื่องตกเป็นเวลาเลิกเรียน เลิกงานของประชาชน ดังนั้นนักบินต้องประคองเครื่องให้ตกในพื้นที่ ที่คิดว่าประชาชนจะได้รับความเสียหายน้อยที่สุด ต่อให้รู้ว่าตัวเองจะมีโอกาสรอดเพียง 1% ก็ตาม ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียบุคคลอันเป็นที่รักกับเหตุการณ์ครั้งนี้

 

เปิดเบื้องหลังครูนักบินสละชีวิต อยู่บังคับเครื่องบินขับไล่จนพ้นชุมชนก่อนตก

 

ขอบคุณ : สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่