บัณฑิตหนุ่มพกแสตนดี้รูปคุณแม่ผู้ล่วงลับมาร่วมงานรับปริญญา เพราะเป็นความฝันที่พวกเขามีร่วมกัน

บัณฑิตหนุ่มพกแสตนดี้รูปคุณแม่ผู้ล่วงลับมาร่วมงานรับปริญญา เพราะเป็นความฝันที่พวกเขามีร่วมกัน

เรื่องราวสุดทราบซึ้งที่เกิดขึ้นกับบัณฑิตหนุ่มจบใหม่คนหนึ่ง เขาได้โพสต์รูปภาพในTwitter ของเขาชื่อว่า Paulo John บัณฑิตจากมหาวิทยาลัย Lyceum of the Philippines ที่พกสแตนดี้รูปคุณแม่ผู้ล่วงลับของเขามาร่วมถ่ายภาพในงานรับปริญญาของเขา เพราะเป็นความฝันที่เขาและคุณแม่เคยมีร่วมกัน แต่ในวันนี้เหลือเพียงแค่ตัวเขา และเขาทำเช่นนี้เพื่อให้รู้สึกว่าแม่ยังอยู่กับเขาตลอดเวลา

 

บัณฑิตหนุ่มพกแสตนดี้รูปคุณแม่ผู้ล่วงลับมาร่วมงานรับปริญญา เพราะเป็นความฝันที่พวกเขามีร่วมกัน

 

เขาได้โพสต์รูปภาพพร้อมแคปชั่นสุดซึ้งว่า “ถึงคุณแม่คนที่สวยที่สุดของผม ลูกชายคนโตของแม่เรียนจบแล้วนะ ผมหวังว่าคุณแม่จะมีความสุขในดินแดนของพระเจ้า ที่ผมบากบั่นเรียนจนจบเพราะนี่เป็นสิ่งที่แม่ต้องการมาตลอด ผมรักแม่มากนะ” 

 

บัณฑิตหนุ่มพกแสตนดี้รูปคุณแม่ผู้ล่วงลับมาร่วมงานรับปริญญา เพราะเป็นความฝันที่พวกเขามีร่วมกัน

 

บัณฑิตหนุ่มพกแสตนดี้รูปคุณแม่ผู้ล่วงลับมาร่วมงานรับปริญญา เพราะเป็นความฝันที่พวกเขามีร่วมกัน

 

ชาวเน็ตที่ได้เห็นข้อความของเขาต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและต่างรู้สึกซาบซึ้งใจกับเรื่องราวความรักระหว่างเขาและคุณแม่

 

บัณฑิตหนุ่มพกแสตนดี้รูปคุณแม่ผู้ล่วงลับมาร่วมงานรับปริญญา เพราะเป็นความฝันที่พวกเขามีร่วมกัน

 

ต่อมาได้มีผู้สื่อข่าวก็เข้าไปสัมภาษณ์บัณฑิตคนนี้ เขาซึ่งเล่าให้ฟังว่าจริงๆ แล้วมันเป็นความฝันของเขาที่จะได้เข้าพิธีรับปริญญาโดยที่มีแม่มายืนอยู่ข้างๆแต่ว่าคุณแม่ก็จากไปเมื่อปี 2016 จากภาวะแทรกซ้อนของโรคปอดบวม 

เขาเล่าอีกว่าสแตนดี้ของคุณแม่นี้ เขาได้ขอให้ทางร้านทำให้มีความสูงเท่าตัวจริงของคุณแม่ เพื่อให้มีความเสมือนจริงมากที่สุด สแตนดี้นี้จึงมีความสูงอยู่ที่ 157 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อสแตนดี้ถูกส่งถึงเขา Paulo ก็บอกว่าเขาร้องไห้ออกมาเพราะคิดว่านี่เป็นเรื่องจริงที่แม่ของเขากลับมาหาอีกครั้ง

เขากล่าวว่า “ผมทำแสตนดี้นี้ขึ้นมาเพื่อให้อย่างน้อยก็รู้สึกได้ว่าแม่อยู่กับผมในวันที่ผมเรียนจบ การเรียนจบจากวิทยาลัยของผม เป็นความฝันที่เราทั้งคู่มีร่วมกัน” 

 

บัณฑิตหนุ่มพกแสตนดี้รูปคุณแม่ผู้ล่วงลับมาร่วมงานรับปริญญา เพราะเป็นความฝันที่พวกเขามีร่วมกัน

 

และ “ผมกันแม่ เราสนิทกันมากๆ แม่เลี้ยงผมมาคนเดียวตลอดระยะ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ส่งผมเรียนแม่ก็ไม่เคยขอจากพ่อเลี้ยงเลย นี่เป็นเงินของแม่กับคุณป้าที่ช่วยกันส่งเสียผม” 

ก่อนที่เขาจะกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “การได้พาสแตนดี้คุณแม่มางานพิธีรับปริญญา ผมมีความสุขมากๆ เพราะผมรู้สึกว่าแม่ของผมอยู่กับผมตรงนี้ด้วย”