เปิดผลการตรวจสอบ เก๋งระเบิดไฟลุกกลางสี่เเยก ลพบุรี (คลิป)

   กรณีเหตุการณ์สุดระทึก  บนถนนนเรศวรแยกสัญญาณไฟแดงสะพาน 33 ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี  ได้มีรถเก๋งสีดำเกิดระเบิดขึ้น ขณะที่ขับอยู่บนท้องถนนตามปกติ จนชิ้นส่วนกระจายไปทั่ว  คันโครงเหล็กบานประตูขั้นนอกทั้ง 4 บานฉีกขาด หลังคารถฉีกขาดออกไปหมดกระเด็นไปไกลประมาณ 50 เมตร เศษกระจกหน้าและชิ้นส่วนรถแตกเป็นชิ้นลอยไปไกลในรัศมี 50 เมตร   โชคดีที่ได้ พลเมืองดี รีบไปช่วยเหลือ  หนุ่มคนขับ ออกมาจากรถได้อย่างปลอดภัย   มีบาดเเผลเล็กน้อยจะจากถูกสะเก็ดไฟที่ระเบิด (คลิป)

 

 

โดยได้มีภาพจากกล้องวีดีโอติดหน้ารถ เหตุการณ์รถนั่งส่วนบุคคลเกิดเหตระเบิดขณะขับขี่บนทางหลวงหมายเลข 3016 ช่วงห้าแยกไฟแดงสะพาน 33 ภายในตัวเมืองลพบุรี  ซึ่งในที่เกิดเหตุพบรถนั่งส่วนบุคคลฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน ษค-2597 กทม. ขณะขับกำลังจะถึงแยก จู่ๆได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้หลังคาหลุดปลิวไปไกลกว่า 20 เมตร ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้วิ่งเข้าไปช่วยเหลือผู้ขับขี่ออกจากตัวรถ ทราบชื่อผู้ขับขี่นายสมเดช โพธิ์แตง อายุ 39 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด มีเพียงเส้นผมที่ถูกไฟไหม้เท่านั้น

 

 

 

ทั้งนี้ตรวจสอบทราบชื่อคนขับรถเก๋งคือนายสมเดช โพธิ์แตง อยู่บ้านเลขที่ 304/53 หมู่ที่ 2 กกโก อำเภอเมืองลพบุรี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถูกสะเก็ตไฟลวก ภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุพบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวได้ขับเข้ามาจอดเป็นคันที่ 2 รอสัญญาณไฟอยู่ๆก็เกิดระเบิดตูมไฟลุกท่วมทั้งคัน ประชาชนที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุและคนขับรถคันอื่นได้จอดรถลงมาช่วยคนขับที่ได้รับบาดเจ็บออกจากรถและได้ใช้ถังเคมีฉีดดับไฟ ก่อนที่เรียกรถเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้งลพบุรี มารับนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช

 

 

 

 

จากการตรวจสอบรถคันเกิดเหตุพบว่ารถคันดังกล่าวใช้แก๊สแทนน้ำมันเชื้อเพลิง  โดยมีการติดตั้งถังแก๊ส LPG ที่ห้องเก็บของท้ายรถและตรวจสอบถังบรรจุแก๊สไม่ได้ระเบิดแต่อย่างใด มีการใช้เชื้อเพลิงเเบบ2ระบบ แต่พบรอยไหม้ที่วาวและรั่วสายไฟ คาดว่าก่อนหน้านี้ผู้บาดเจ็บน่าจะเพิ่งเติมแก๊สมาเต็มถัง

 

 

 

และเกิดรั่วไหลในรถทำให้ภายในรวมถึงห้องโดยสารมีแก๊สเข้าจำนวนมากระหว่างขับมาถึงจุดเกิดเหตุคาดว่าจะมีประกายไฟบางอย่างเกิดขึ้นจึงทำให้เกิดระเบิดอย่างแรงจนตัวรถฉีกขาดทั้งคันรถเป็นชิ้นส่วนคนขับถูกไฟลวกตามร่างกายและมีบาดแผลตามร่างกาย  ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบสาเหตุการระเบิดในครั้งนี้จากเจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจภูธร จ.ลพบุรี และเจ้าหน้าที่ร้อยเวร สภ.เมืองลพบุรี ต่อไป