หญิงตาบอดแต่หัวใจสุดแกร่ง ดูแลลูกชายพิการติดเตียงเป็นเจ้าชายนิทรามานานกว่า 4 ปี

10 ส.ค. 2562

แชร์ |

หญิงตาบอดแต่หัวใจสุดแกร่ง ดูแลลูกชายพิการติดเตียงเป็นเจ้าชายนิทรามานานกว่า 4 ปี

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 เพจเฟซบุ๊ก นางฟ้าซาลอน ได้มีการแชร์เรื่องราวสุดน่าสงสารของครอบครัวคุณป้ากัญญาวีร์ พันบุบผา หญิงตาบอด 1 ข้าง แต่หัวใจสุดแกร่งคอยดูแล
ลูกพิการติดเตียงเป็นเจ้าชายนิทรามานานกว่า 4 ปี เนื่องจากอุบัติเหตุโดยทางเพจได้ระบุข้อความทั้งหมดเอาไว้ว่า...

ไม่ว่าฐานะใดรักของแม่ยิ่งใหญ่เสมอ

“ในทุกๆครั้ง ที่แม่ได้ยินเสียงลูกสตาร์ทรถมอเตอร์ไซร์ แม่นอนไม่หลับเลย แม่นอนระแวง เพราะกลัวว่าจะมีเบอร์แปลกๆ จากตำรวจหรือจากโรงพยาบาลโทรมาหาแล้วบอกว่า ลูกคุณเกิดอุบัติเหตุ..... แต่สิ่งกลัวและเป็นกังวลที่สุดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้นก็เป็นความจริง...หากเลือกได้ขอให้ลูกหมดลมหายใจไปก่อน เพราะถ้าหากลูกยังอยู่แล้วแม่ต้องเสียชีวิตไปก่อนคงนอนตายตาไม่หลับ “ คำวอนขอของแม่ตาบอดผู้ดูแลลูกพิการติดเตียงเป็นเจ้าชายนิทรามากว่า 4 ปี

หญิงตาบอดแต่หัวใจสุดแกร่ง ดูแลลูกชายพิการติดเตียงเป็นเจ้าชายนิทรามานานกว่า 4 ปี

นางกัญญาวีร์ พันบุบผา หญิงตาบอด 1 ข้าง ในอดีตคือแม่บ้านล้างห้องน้ำตามศุนย์การค้าใน กทม ทำงานเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ก็มาสร้างบ้าน ไว้อยู่อาศัยกับลูกๆ

โดยมีลูก 2 คนผู้ชาย 1คน และ ผู้หญิง1คน ลูกสาวคนโต แต่งงานมีสามีแล้ว และย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัด แต่เอาหลานมาให้เลี้ยง 2 คน เพราะพวกเขาต้องทำงานรับจ้าง

แม่ตาบอดกับลูกชายเป็นเจ้าชายนินทรา

เมื่อวันที่ 17 ม.ค 59 ตนเองได้รับแจ้งข่าวว่า มีชาวบ้านไปหาปลาแล้วพบนายกิตติวิน พันบุบผา อายุ 24ปี ลูกชายตนเอง เกิดอุบัติเหตุ นอนคว่ำอยู่ ไหล่ถนน ซึ่งหากออกไป พบมอเตอร์ไซร์และรอยเบรคบนถนนเป็นทางยาว เหตุการณ์ น่าจะเกิดในช่วงดึก และไม่มีใครทราบ จวบจนรุ่งเช้าถึงจะมีคนไปพบ จนปัจจุบันก็สงสัยว่า ลูกชายเกิดอุบัติเหตุเองหรือว่าถูกทำร้าย หรือมีรถคันอื่นๆตัดหน้าจนมีชะตากรรมเช่นนี้

นางกัญญาวีร์ เล่าต่อว่า ลูกชายของตนเพิ่งได้แต่งงานอยู่กินกับแฟนของเขาได้ไม่นานก็ เกิดเหตุ พักรักษาอยู่โรงพยาบาลเป็นเวลา3เดือนด้วยอาการทางสมองก้านสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักและไหปลาร้าหัก....พอออกจากโรงพยาบาลมาก็กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงสภาพเหมือนเจ้าชายนิทราคือไม่รับรู้อะไรเลยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ต้องกินอาหารทางสายยาง แต่หลังจากนั้น ภรรยา ของลูกชายก็ได้แยกทางไปเลย

อุบัติเหตุ

กิจวัตรทุกๆตอนเช้าและตอนเย็นแม่ก็ต้องทิ้งน้องดิวให้อยู่บ้านคนเดียวเพื่อไปส่งหลานไปโรงเรียนและไปรับกลับตอนเย็น ส่วนสามีก็ไปทำงานรับจ้างที่ต่างจังหวัด ก็ช่วยส่งเงินมาให้บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมาย จึงไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย

สิ่งของที่จำเป็นสำหรับน้องคือ แผ่นรองซับ,น้ำผลไม้ ,และนมเอ็นชัว

89/7 หมู่7 บ้านโนปลาเข็ง ต.ภูเขาทอง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด 45210