จากกรณีที่พบร่างหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตในสภาพมัดมือมัดเท้า แล้วเอาร่างไปหมกที่ตู้แช่ก่อนโบกปูนทับ พร้อมเสียบปลั๊กแช่ ก่อนมีคนมาพบร่างหลังจากนั้นกว่า 10 วัน จากการตรวจสอบทราบว่าบ้านหลังนี้เป็นของนางสาววรรณี เจริญยิ่ง วัย 58 ปี ชาว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มาซื้ออาคารพาณิชย์หลังนี้ได้ประมาณ 1 ปี โดยนางสาววรรณีเป็นคนมีฐานะ ชอบปฏิบัติธรรมและเป็นลูกศิษย์ของวัดพระธาตุศรีจอมทอง จึงได้มาซื้ออาคารพาณิชย์หลังนี้เพื่อพักอาศัยระหว่างเดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัด 

จากกรณีที่พบร่างหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตในสภาพมัดมือมัดเท้า แล้วเอาร่างไปหมกที่ตู้แช่ก่อนโบกปูนทับ พร้อมเสียบปลั๊กแช่ ก่อนมีคนมาพบร่างหลังจากนั้นกว่า 10 วัน จากการตรวจสอบทราบว่าบ้านหลังนี้เป็นของนางสาววรรณี เจริญยิ่ง วัย 58 ปี ชาว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มาซื้ออาคารพาณิชย์หลังนี้ได้ประมาณ 1 ปี โดยนางสาววรรณีเป็นคนมีฐานะ ชอบปฏิบัติธรรมและเป็นลูกศิษย์ของวัดพระธาตุศรีจอมทอง จึงได้มาซื้ออาคารพาณิชย์หลังนี้เพื่อพักอาศัยระหว่างเดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัด 

ระหว่างอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ นางสาววรรณียังติดต่อพูดคุยกับญาติพี่น้องตามปกติ กระทั่งวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา นางสาววรรณีขาดการติดต่อกับครอบครัว ญาติพี่น้องโทรศัพท์มาหาก็ติดต่อไม่ได้ จนทำให้พี่ชายของนางวรรณี ได้เดินทางมาหาที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่เมื่อมาถึงบ้านกลับพบว่าประตูบ้านถูกปิดล็อคไว้ และ ยังมีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง จึงให้ช่างกุญแจมาเปิด และ พบตู้เย็นนอนอยู่ ส่งกลิ่นเหม็น และ ยังมีเลือดและน้ำเหลืองไหลออกมาจากตู้เย็น จึงแจ้งตำรวจให้เข้าตรวจสอบ เมื่อเปิดดูพบว่ามีร่างผู้หญิงเบื้องต้นคาดว่าน้องสาวถูกฆาตกรรมเป็นศพในตู้เย็น ด้านตำรวจเร่งเก็บดีเอ็นเอไปตรวจพิสูจน์ก่อนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

 

 


ล่าสุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีปิดชีพเศรษฐินีสายบุญ ยัดร่างใส่ตู้เย็น โบกปูนซีเมนต์ทับ รถยนต์หรูหายไป เกิดเหตุในพื้นที่ สภ.จอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ว่า 27 ต.ค.62 เวลา 11.00 น. นายวรพันธ์ จิรเจริญยิ่ง (พี่ชาย)ของ นางสาววรรณี จิรเจริญยิ่ง ซึ่งมาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุ ศรีจอมทอง และได้พักอาศัยที่ตึกแถวเลขที่ 90/3 หมู่ 3 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จว.เชียงใหม่ เมื่อประมาณ 1 ปี ระหว่างอยู่ในพื้นที่จอมทอง นางสาววรรณี ใช้รถยนต์เก๋ง บีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ทะเบียน 9กจ-3769 กทม. เป็นยานพาหนะขับขี่

 

บิ๊กแป๊ะสั่งระดมตามหาคนที่อยู่เป็นคนสุดท้ายกับเศรษฐินีใจบุญ

ต่อมาในวันที่ 16 ตุลาคม 2562 นางสาววรรณี ได้ส่งข้อความทางไลน์หานางอารียา รัตนเสรี (เพื่อน) ว่าจะไปเวียดนาม แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับ นางสาววรรณีฯ ได้อีก นายวรพันธ์ ทราบเรื่องจากนางอารียาฯ เห็นว่าผิดปกติจึงตรวจสอบที่บ้านของ นางสาววรรณีฯ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ไม่พบตัว นางสาววรรณี จึงไปตรวจสอบที่บ้านเกิด เหตุ ได้กลิ่นเหม็นเน่าภายในบ้าน จึงมามาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ให้ร่วมตรวจสอบที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งได้กลิ่นเหม็นออกมาจากตู้เย็น 2 ประตูแนวนอนตั้ง อยู่บนพื้นในห้องครัว ภายในบ้าน จึงแจ้ง ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ แพทย์ประจำโรงพยาบาลจอมทอง ร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ บันทึกตรวจที่เกิด และชันสูตรพลิกศพ

 

 

จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุพบศพเน่า ไม่ทราบเพศ ชื่อและสกุล สภาพสวมใส่เสื้อผ้า ถูกมัดมือ ไขว่หลัง มัดเท้า มัดหัวด้วยเทปกาวพลาสติก มีถุงพลาสติกคุมหัวนอนคว่ำหนเา ขดคู้อยู่ในตู้เย็นปิดทับด้วยผง ปูนซีเม็นต์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลจอมทองได้ตรวจชันสูตรศพแล้ว จึงได้ส่งศพไปตรวจชันสูตรโดยละเอียดนิติเวชศาสตร์โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงและตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนตัว บุคคลและตรวจเก็บพยานหลักฐานที่ศพต่อไป

 

 

ทั้งนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สินพบว่า โทรศัพท์มือถือและรถยนต์เก๋งของนางสาววรรณีฯ ได้หายไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้เร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า น.ส.วรรณีฯ อาจถูกคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดปลิดชีพ อันเป็นความผิดฐาน “ ฆ่ า ผู้ อื่ น “ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พนักงานสอบสวนยังคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเพื่อยืนยันตัวผู้เสียชีวิต

 


ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับพนักงานสอบสวนมาให้สอบสวน ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว สิ้นกระแสความในทุกประเด็น ที่มีข้อสงสัย คำถาม หรือเงื่อนงำต่างๆในคดี โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือความเชื่อมโยงต่างๆเป็นสำคัญ ดำเนินการด้วยความโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ที่สำคัญต้องสามารถตอบคำถาม ข้อสงสัยของสังคมได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน

 

 


สำหรับประเด็น การฆาตกรรมในครั้งนี้นั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง คงต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง และแนวทางในการติดตามจับผู้ต้องหานั้น ก็ต้องดำเนินการควบคู่กันระหว่างฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวน ซึ่งในชั้นยังไม่สามารถอาจเปิดเผยข้อมูลได้มากนัก สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีข้อมูลหรือพบเบาะแสของผู้ที่กระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ ศูนย์ปฏิบ้ติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลข 1599 หรือสถานีตำรวจภูธรจอมทองหมายเลข 053-341-193

 

บิ๊กแป๊ะสั่งระดมตามหาคนที่อยู่เป็นคนสุดท้ายกับเศรษฐินีใจบุญ

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-ลูกชายเล่าแม่บอกบรรพบุรุษขอไว้ ต้องดูแลญาติจากจีน ไม่นึกจะทำถูกฆาตกรรม
-"บิ๊กจิน" เผย เพิ่มเงินนำจับคนร้ายฆาตกรรมสาวญี่ปุ่น เป็น 2 ล้านบาท พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ให้คนแจ้งเบาะแส ยืนยันรัฐบาลไม่ทิ้งคดีแน่นอน!
-น้องสาว บอล บางแก้ว โพสต์คลิปคลายสงสัย หลังอัจฉริยะ มองว่าจัดฉากเผาบ้านเพื่อฆาตกรรม(คลิป)
-เปิดผลชันสูตร "หงส์ขาว" ครอบครัวเชื่อถูกฆาตกรรม พี่สาวเผยอาจมีหลักฐานสำคัญอยู่ในไอแพดของน้องสาวที่ยังหาไม่พบ