เมื่อเวลา10.30 น. วันที่3 ธันวาคม พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3. ร่วมกันแถลงการจับกุมชายสัญชาติเกาหลีหลบหนีหมายจับคดีฉ้อโกง เข้ามาอาศัยในประเทศไทย

เมื่อเวลา10.30 น. วันที่3 ธันวาคม พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3. ร่วมกันแถลงการจับกุมชายสัญชาติเกาหลีหลบหนีหมายจับคดีฉ้อโกง เข้ามาอาศัยในประเทศไทย

 

สตม.จับกุมชายสัญชาติเกาหลีหลอกหลวง เหยื่อทำธุรกิจหมื่นล้าน หลบหนีคดีฉ้อโกงในไทย

การจับกุมในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลทางการข่าวจากสถานฑูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ว่า มีบุคคลที่ประกอบธุรกิจ ตั้งเครือข่ายคล้ายแชร์ลูกโซ่ โดยใช้ชื่อ PAY100 หลอกลวงประชาชนให้มาร่วมลงทุนโดย อ้างว่าจะจ่ายผลตอบแทนให้ในรูปแบบเงินดิจิตอล ซึ่งมีชาวเกาหลีใต้และชาวต่างชาติ หลงเชื่อร่วมลงทุนกว่า 5,000 ราย รวมมูลค่าเป็นเงิน 468 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท โดยผู้ต้องหาเป็นบุคคลมีหมายจับศาลอาญากลางกรุงโซล และหมายจับของตำรวจสากล ในคดีฉ้อโกง  ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยอย่างถูกต้องผ่านทางอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ในวันที่ 1 กันยายน 2562  และได้รับอนุญาตให้อยู่ภายในประเทศไทยได้ถึงวันที่29 พฤศจิกายน 2562

 

สตม.จับกุมชายสัญชาติเกาหลีหลอกหลวง เหยื่อทำธุรกิจหมื่นล้าน หลบหนีคดีฉ้อโกงในไทย


ต่อมาเมื่อได้รับข้อมูลเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบพบว่า บุคคลดังกล่าวคือ นายแจซอง อายุ 53 ปี สัญชาติเกาหลีใต้  เดินทางเข้ามาภายในราชอาณาจักรอย่างถูกต้องเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับการประสานว่านายแจซองเป็นบุคคลที่มีหมายจับของตำรวจสากล จึงอนุญาตให้อยู่พำนักอยู่ภายในประเทศไทยได้ 

 

สตม.จับกุมชายสัญชาติเกาหลีหลอกหลวง เหยื่อทำธุรกิจหมื่นล้าน หลบหนีคดีฉ้อโกงในไทย

กระทั่งวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562  ตรวจคนเข้าเมือง จว.สระแก้ว สามารถควบคุมตัวนายแจซอง และเพิกถอนใบอนุญาตให้อยู่ภายในราชอาณาจักร ก่อนจะผลักดันออกนอกประเทศและส่งตัวให้กับประเทศเกาหลีใต้ดำเนินคดีต่อไป

 

สตม.จับกุมชายสัญชาติเกาหลีหลอกหลวง เหยื่อทำธุรกิจหมื่นล้าน หลบหนีคดีฉ้อโกงในไทย