สาวใจบุญทุกครั้งติดไฟแดงแยกสะเมิงจะอุดหนุนนมเปรี้ยวสองแม่ลูก

กลายเป็นเรื่องราวที่ชวนน้ำตาซึมจริง เพราะในโลกเรานี้ชีวิตและบุญวาสนาของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันจริงๆ เช่นเดียวกับครอบครัวนี้ที่ถึงแม้จะไม่มีความร่ำรวยอย่างใครเขา แต่ก็กัดฟันสู้ด้วยการประกอบอาชีพสุจริต ถึงแม้จะเสี่ยงไปหน่อย แต่เพื่อความอยู่รอด พวกเขาก็ต้องทำ นั่นทำให้หญิงสาวคนนี้ที่ถือว่าเป็นลูกค้าประจำมาช่วยอุดหนุนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ดูท่าว่าจะพิเศษกว่าครั้งไหนๆ

กลายเป็นเรื่องราวที่ชวนน้ำตาซึมจริง เพราะในโลกเรานี้ชีวิตและบุญวาสนาของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันจริงๆ เช่นเดียวกับครอบครัวนี้ที่ถึงแม้จะไม่มีความร่ำรวยอย่างใครเขา แต่ก็กัดฟันสู้ด้วยการประกอบอาชีพสุจริต ถึงแม้จะเสี่ยงไปหน่อย แต่เพื่อความอยู่รอด พวกเขาก็ต้องทำ นั่นทำให้หญิงสาวคนนี้ที่ถือว่าเป็นลูกค้าประจำมาช่วยอุดหนุนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ดูท่าว่าจะพิเศษกว่าครั้งไหนๆ 

โดยเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Ying Jiratanayu ได้โพสต์ภาพ พร้อมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า "ไม่คิดว่า .. ข้าวหมูกระเทียมไข่ดาว 1 กล่อง กับขนมปังลูกเกด 1 ก้อน ที่เราเอากลับมาจากแม่บ้านเตรียมให้ทานตอนนับสต๊อกช่วงเย็น มันจะมีค่ามีความหมายกับสองชีวิตริมถนน

 


น้องผู้หญิงเดินมาขายนมเปรี้ยวเราตรงนี้ จะช่วยซื้อทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เราลดกระจกลงพร้อมข้าวและขนม บอกว่าฝากให้ตัวเล็กหน่อย .. คุณแม่น้องยิ้มกว้างมากและพูดว่า พี่ขอบคุณมากๆนะพี่ ซ้ำๆอย่างนี้พร้อมกับยกมือไหว้ และรีบเอาข้าววิ่งกลับไปที่รถ ภาพที่เห็นคือ เจ้าตัวเล็กวิ่งมากินข้าวที่แม่แกะให้อย่างไว และคุณแม่ก็ทานด้วย 

 

สาวใจบุญทุกครั้งติดไฟแดงแยกสะเมิงจะอุดหนุนนมเปรี้ยวสองแม่ลูก

สรุป สองแม่ลูกก้มหน้าก้มตารีบทานข้าวไม่ได้กลับมาขายของต่อ จนไฟเขียวออก ( ดูเหมือนทั้งคู่คงหิวมากมาก ) .. หวังว่าสองชีวิตคงอิ่มไปหนึ่งมื้อนะ แต่เราสิอิ่มใจจนน้ำตาซึมมันอิ่มใจจนบอกไม่ถูก บันทึกไว้ในความทรงจำ ณ แยกไฟแดงสะเมิง ใครผ่านแยกนี้ก็ช่วยซื้อนมเปรี้ยวน้องเค้าหน่อยนะครับ"

 


ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่อง โดนส่วนใหญ่เข้ามาแสดงความชื่นชมในน้ำใจของเธอคนนี้ บ้างก็เข้ามาคอมเม้นต์ว่า ขอให้พี่เจริญๆก้าวหน้า ไม่เจ็บไม่ไข้ ไม่จน รวยๆ เน้อพี่ วีรบุรุษขอแชร์ครับ ขอให้ได้บุญเยอะๆครับผม บ้างก็เข้ามาคอมเม้นต์ว่า ขอบคุณน้ำใจที่มีต่อเพื่อนร่วมโลกด้วยกันนะครับ

 

สาวใจบุญทุกครั้งติดไฟแดงแยกสะเมิงจะอุดหนุนนมเปรี้ยวสองแม่ลูก


ขอบคุณเฟซบุ๊ก Ying Jiratanayu