สั่งเด้งฟ้าผ่า พล.ต.อ.วิระชัย มีพฤติการณ์กระทบความเชื่อมั่น ทำภาพลักษณ์เสียหาย

สั่งเด้งฟ้าผ่า พล.ต.อ.วิระชัย มีพฤติการณ์กระทบความเชื่อมั่น ทำภาพลักษณ์เสียหาย

มีคำสั่งด่วนเด้ง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. เข้ากรุสำนักนายกฯ มีผลทันที ชี้มีพฤติการณ์ และการกระทำซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ กระทบภาพลักษณ์ตำรวจ

 

โดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อมวลชนและสังคมโซเชียลมีเดียได้ตั้งประเด็นคำถามถึงกรณีที่สำนักนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ รอง ผบ.ตร. ท่านหนึ่งไปปฎิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี นั้นขอเรียนชี้แจงถึงประเด็นคำถามว่า สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 22/2563 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจมาปฎิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี จริง

ซึ่ง คำสั่งดังกล่าวมีเหตุผลมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รายงานว่า พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. มีพฤติการณ์และการกระทำซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ในการอำนวยการยุติธรรม กระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการปฏิบัติราชการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นเหตุให้ราชการเสียหาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 24/2563 ลงวันที่ 21 มกราคม 2563 แล้ว

 

เพื่อประโยชน์แก่การตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและเรื่องอื่นๆ ในมูลกรณีที่ประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ระหว่างตรวจสอบให้เป็นไปอย่างโปร่งใสมีความน่าเชื่อถือ และเพื่อให้เป็นที่ยอมรับแก่ประชาชนและผู้ร้องเรียน สมควรพิจารณาสั่งการให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงมตตา รอง ผบ.ตร. ไปปฏิบัติราชการ นอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (4) แห่ง พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534

 

 

สั่งเด้งฟ้าผ่า พล.ต.อ.วิระชัย มีพฤติการณ์กระทบความเชื่อมั่น ทำภาพลักษณ์เสียหาย

 

 

จึงมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงมตตา รอง ผบ.ตร. มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม และให้ได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มพิเศษและสิทธิประโยชน์อื่นใดไม่ต่ำกว่าที่ได้รับอยู่เดิม โดยเบิกจ่ายจากสังกัดเดิมทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นตันไปจนกว่าจะมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประการอื่น สั่ง ณ วันที่ 23 ม.ค.2563

 

โดยก่อนหน้านั้นได้มีการเผยแพร่คลิปเสียงซึ่งเป็นคลิปแอบอัดระหว่างสนทนาของผู้ชาย 2 คน ซึ่งเป็นผู้ชายในเครื่องแบบทั้งคู่ เนื้อหาการสนทนาคล้ายกับเบรกใครบางคนไม่ให้เข้าไปยุ่งกับคดียิงถล่มรถ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ อดีต ผบช.สตม. เนื้อหาการสนทนาบางส่วนมีว่า ซึ่งนายดนัยบอกว่าต้นสายอยู่ที่ต่างประเทศ (ชายคนที่1) ผมดูออกเรื่องพวกนี้ไม่ใช่ดูไม่ออก แล้วไปบอกกันที่ 98 คอนโดเพลินจิตนั้น รู้หมดแต่ไม่เคยพูด ที่โทรมามีแค่นี้แหละทำอะไรก็ได้ผู้บังคับบัญชาเขาไว้ใจอย่าได้ระแวง เข้าใจปล่าว จะเอาอะไรก็แล้วแต่พี่โทรมาเตือนแค่นี้แหละ รอง ผบ.หลายคนเขารู้สึก ที่โทรมาหาพี่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นมูลเหตุจากการสั่งเด้งในครั้งนี้