สาวสวยขับรถ เจอเด็กขายพวงมาลัยปกติจะเด็กร่าเริงแต่วันนี้นั่งร้องไห้ ก่อนช่วยซื้อและตัดสินใจถามความจริง​

หลายคนคงเคยเจอกับเด็กที่ออกมาขายพวงมาลัยตามสี่แยกต่างๆ ซึ่งปัญหาเด็กขายพวงมาลัยตามสี่แยกเป็นปัญหาหนึ่งที่น่าเป็นห่วงครับ ประการแรก คือ เด็กบางคนยังตัวเล็กมาก ซึ่งเสี่ยงที่จะประสบอุบัติเหตุจากรถที่วิ่งผ่านไปมาตามแยกต่างๆ และเด็กบางคนถูกครอบครัวบังคับให้เดินขายพวงมาลัย เพราะสามารถทำรายได้ได้ดีกว่าผู้ใหญ่ขาย เนื่องจากเรียกความน่าสงสารจากผู้ใช้รถใช้ถนนได้มากกว่านั่นเอง

หลายคนคงเคยเจอกับเด็กที่ออกมาขายพวงมาลัยตามสี่แยกต่างๆ ซึ่งปัญหาเด็กขายพวงมาลัยตามสี่แยกเป็นปัญหาหนึ่งที่น่าเป็นห่วงครับ ประการแรก คือ เด็กบางคนยังตัวเล็กมาก ซึ่งเสี่ยงที่จะประสบอุบัติเหตุจากรถที่วิ่งผ่านไปมาตามแยกต่างๆ และเด็กบางคนถูกครอบครัวบังคับให้เดินขายพวงมาลัย เพราะสามารถทำรายได้ได้ดีกว่าผู้ใหญ่ขาย เนื่องจากเรียกความน่าสงสารจากผู้ใช้รถใช้ถนนได้มากกว่านั่นเอง

สาวสวยขับรถ เจอเด็กขายพวงมาลัยปกติจะเด็กร่าเริงแต่วันนี้นั่งร้องไห้ ก่อนช่วยซื้อและตัดสินใจถามความจริง​ .

อีกทั้งเด็กบางคนต้องเดินขายช่วงเวลากลางคืน นั่นหมายความว่าเด็กไม่ได้รับการพักผ่อนตามวัยของพวกเขาเองและมีความเสี่ยงที่จะประสบอุบัติเหตุจากรถที่วิ่งผ่านไปมามากขึ้นไปอีกด้วย และสุดท้ายเด็กบางคนต้องออกจากระบบการศึกษาเพราะครอบครัวเห็นว่าเด็กสามารถทำรายได้ให้กับครอบครัวได้ ดังนั้นจึงเท่ากับปิดอนาคตของเด็กไปโดยปริยาย แน่นอนว่ามีเด็กบางส่วนที่มีความจำเป็นที่จะต้องมาช่วยเหลือครอบครัวจริงๆ วึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าสงสารเป็นอย่างมาก 
 

สาวสวยขับรถ เจอเด็กขายพวงมาลัยปกติจะเด็กร่าเริงแต่วันนี้นั่งร้องไห้ ก่อนช่วยซื้อและตัดสินใจถามความจริง​

ล่าสุดนั้นได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Ritthipron Sirisawat ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า "อย่าโกงเด็กที่ทำมาหากินเลยสงสารเด็ก" น้องคนนี้ขายพวงมาลัยอยู่ใต้สะพานสี่แยกแคราย​ ปกติเวลาเจอน้อง​ น้องจะเป็นเด็กร่าเริง​ อ่อนน้อม​ ยกมือไหว้​ พูดขายของ​ แต่วันนี้น้องร้องไห้​ เลยเรียกน้องมาช่วยซื้อ​1พวง​ ก็ถามว่าน้องเป็นอะไร​ น้องก็บอกว่า​ คันก่อนหน้านี้จ่ายตังค์​ให้ไม่ครบ​ เรียกบอกแล้วก็ไม่ยอมให้​ แต่เอาพวงมาลัยไปแล้ว

สาวสวยขับรถ เจอเด็กขายพวงมาลัยปกติจะเด็กร่าเริงแต่วันนี้นั่งร้องไห้ ก่อนช่วยซื้อและตัดสินใจถามความจริง​

สาวสวยขับรถ เจอเด็กขายพวงมาลัยปกติจะเด็กร่าเริงแต่วันนี้นั่งร้องไห้ ก่อนช่วยซื้อและตัดสินใจถามความจริง​

ขอบคุณข้อมูลจาก : ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Ritthipron Sirisawat