ผู้ช่วยโฆษกสตง.แถลงจำนวนตำรวจที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด

วันที่ 17 มีนาคม 2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยมาตราการป้องกันโควิด-19 ในข้าราชการตำรวจ รณรงค์ให้เจ้าหน้าที่ทุกนายสวมใส่หน้ากาก พร้อมหมั่นตรวจตราทำความสะอาดที่ทำงาน ขณะที่แพทย์โรงพยาบาลตำรวจมั่นใจว่ามีมาตรารองรับรองผู้ป่วยและมีเตียงเพียงพอ หากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพิ่ม

พลตำรวจโทปิยะ  อุทาโย ผู้ช่วยโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พันตำรวจเอกนายแพทย์ศุภฤกษ์ พัฒนปรีชากุล หัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลตำรวจ แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในส่วนความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวตแห่งชาติ

โดยจำนวนข้าราชการตำรวจที่ติดเชื้อ ขณะนี้ทั้งหมด 7 นาย เป็นตำรวจนครบาล 4 นาย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 1 นาย ตำรวจตระเวนชายแดน 1 นาย โรงพยาบาลตำรวจ 1 นาย และอยู่ระหว่างกักตัว เพื่อดูอาการอีกจำนวน 102 นาย ทั้งนี้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ.ไปพิจารณาเรื่องการนำหน้ากากอนามัยในคดีต่างๆ ซึ่งมีจำนวนกว่า 180,000 กว่าชิ้น โดยขณะนี้มีแนวทางในการนำของกลางมาใช้ 3 แนวทาง คือ 1. การให้ผู้ต้องหายินยอมมอบของกลางให้ตกเป็นของหลวงและจะใช้ในการพิจารณาบรรเทาโทษในชั้นศาล ช่องทางต่อมา คือการเร่งขั้นตอนมนการทำสำนวนคดีก่อนส่งฟ้องให้รวดเร็วมากขึ้น เช่นจากเดิมใช้ 5 วัน ลดเหลือเป็น 3 วัน และช่องทางสุดท้าย คือการใช้ระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 15 กำหนดวิธีการดำเนินการ เกี่ยวกับของกลาง ที่อาจเสื่อมสภาพ โดยพิจารณา ว่า หากของกลางดังกล่าว อาจจะเสียหาย เน่าเสื่อมสลายให้ยกเป็นของหลวง ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไม่นาน 

ส่วนเรื่องที่ก่อนหน้านี้มีปัญหาการเก็บศพต้องสงสัย ว่าจะเสียชีวิตหรือติดเชื้อโควิด-19 จนทำให้ต้องใช้เวลาในการรอเก็บศพนานหลายชั่วโมง ขณะนี้ได้ทำความเข้าใจกับตำรวจทุกกองบัญชาการให้เข้าใจตรงกันเรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับศพต้องสงสัยติดเชื้อ โดยยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่มีศพที่ต้องรอการเก็บและชันสูตรนานเหมือนที่ผ่านมา

 

ผู้ช่วยโฆษกสตง.แถลงจำนวนตำรวจที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด

 

นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ทุกจังหวัด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฎิงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด หากมีการประกาศสถานการณ์ต่างๆ และให้ทุกสถานีตำรวจเพิ่มการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะมาติดต่อราชการตามสถานีต่างๆ โดยจัดหาอุปกรณ์ป้องกันและทำความสะอาด และเพิ่มความถี่ในการจัดบิ๊กคลีนนิ้ง สถานีตำรวจ จากเดิมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย 3 ครั้ง และให้ทำความสะอาดห้องขังตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อ นอกจากนี้ยังปรับแนวทางการรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายของหมายเลข191 เพื่อคอยประสานข้อมูล การแพร่ระบาดของโรค ร่วมกับหมายเลข 1422 กรมควบคุมโรค และ 1111 ของทางรัฐบาล

 

ผู้ช่วยโฆษกสตง.แถลงจำนวนตำรวจที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด

 

ขณะที่พันตำรวจเอกนายแพทย์ศุภฤกษ์ พัฒนปรีชากุล หัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า ทางโรงพยาบาลได้มีการจัดตั้งโรงพยาบลคลินิก แยกออกมาตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ขณะเดียวกันได้เตรียมมาตราการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ไว้จำนวน 100-150 เตียง  พร้อมเตรียมโรงพยาบาลในสังกัด เช่น โรงพยาบาลดารารัศมี จ.เชียงใหม่ และโรงพยาบาลยะลา รวมถึงการเตรียมพร้อมสร้างโรงพยาบาลสนามหากมีความจำเป็น  

 

ผู้ช่วยโฆษกสตง.แถลงจำนวนตำรวจที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด

 

ด้านพันตำรวจเอกนายแพทย์ศุภฤกษ์ พัฒนปรีชากุล หัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลตำรวจ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับฝากเตือนข้าราชการตำรวจทั่วประเทศที่ปฏิบัติงานบริการประชาชนให้ดูแลตัวเอง สวมใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งจะมีการจัดทำคู่มือการปฏิบัติตัวเองแจกจ่ายให้กับข้าราชตำรวจทุกคนในเร็วๆนี้