จนท.เจอหลักฐานสำคัญ บนตัวน้องชมพู่ เร่งพิสูจน์ เค้น 8 คนจ่อจับ

จนท.เจอหลักฐานสำคัญ บนตัวน้องชมพู่ เร่งพิสูจน์ เค้น 8 คนจ่อจับ

ถือเป็นคดีที่สังคมเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด สำหรับกรณีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ อายุ 3 ปี ที่สูญหายจากบ้านพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศ พกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. โดยขณะนี้ผ่านมาแล้ว 39 วัน ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝงเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง สังคมยังรอคอยว่าใครคือคนลงมือสังหารน้องชมพู่หลังจากคดียืดเยื้อกันมานาน

 

จนท.เจอหลักฐานสำคัญ บนตัวน้องชมพู่ เร่งพิสูจน์ เค้น 8 คนจ่อจับ

 

ล่าสุด ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาที่หมู่บ้านกกกอก เพื่อรับตัวพ่อและแม่น้องชมพู่ รวมถึงชาวบ้านอีก 6 คนไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยรายชื่อทั้ง 8 คน ประกอบไปด้วย

 

จนท.เจอหลักฐานสำคัญ บนตัวน้องชมพู่ เร่งพิสูจน์ เค้น 8 คนจ่อจับ

 

1.นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อน้องชมพู่

2.นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่

3.นางจำลอง แดนกาไสย ชาวบ้านเจ้าของไร่มันสำปะหลังที่น้องชมพู่เคยไปนั่งเล่น

4.นางสายสมร แสนทวงศ์ (ภรรยานายโชติช่วง ผู้ที่เจอรอยเท้าใต้ตนกระโดน)

5.นายวา (ผู้ต้องสงสัย) ช่างที่ทำงานอยู่ข้างบ้านนายพิษณุพร

6.นายโด่ง ช่างที่ทำงานอยู่ข้างบ้านนายพิษณุพร

7.นายม็อค (สามีแม่ถอน นางนลิน)

8.น.ส.สุจิตตรา (ภรรยาของนายพิษณุพร)

 

จนท.เจอหลักฐานสำคัญ บนตัวน้องชมพู่ เร่งพิสูจน์ เค้น 8 คนจ่อจับ

 

โดยก่อนที่นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่จะเดินทางไปยัง สภ.กกตูม เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตำรวจ สภ.กกตูม ได้นำรายชื่อของคนในหมู่บ้านมาให้ตนดู และได้เชิญทั้งหมดไปสอบปากคำในวันนี้ ซึ่งทุกรายชื่อนั้นไม่มีชื่อที่ตนสงสัยเลย และตนคิดว่าทั้งหมดนั้นใสสะอาด 100% ซึ่งตนก็ไม่งงอะไร เพราะคิดว่าตำรวจน่าจะต้องการข้อมูลบางอย่างจากคนเหล่านี้ หลังจากนั้นนางสาวิตรี และนายอนามัย ก็ได้เดินขึ้นรถของนายวา เพื่อเดินทางไปที่สภ.กกตูม

 

ต่อมาตำรวจ สภ.กกตูม นำโดยพ.ต.ท.สุริยา นภกรีกำแหง สารวัตรใหญ่ ได้ลงพื้นที่มาเก็บขนสัตว์ในพื้นที่ โดยมีขนสุนัข ขนแมว และขนหนูพุกที่ครอบครัวของน้องชมพู่เลี้ยงไว้ เนื่องจากน้องชมพู่ค่อนข้างมีความใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงในละแวกบ้าน

โดยได้เก็บขนสุนัขบ้านน้องชมพู่ 2 ตัว และหนูพุก 1 ตัว คือ เจ้าปลาส้ม สีน้ำตาล เพศเมีย อายุ 8-9 เดือน, เจ้าแก้ว สีน้ำตาล เพศเมีย อายุ 1 ปี และขนพ่อพันธุ์หนูพุก อายุ 7 เดือน ที่ครอบครัวน้องชมพู่เลี้ยงไว้

 

จนท.เจอหลักฐานสำคัญ บนตัวน้องชมพู่ เร่งพิสูจน์ เค้น 8 คนจ่อจับ

 

และเก็บขนสุนัขที่บ้านของนางนลิน หรือป้าถอน โดยเก็บขนเจ้าบิ๊ก สีน้ำตาล เพศผู้ อายุ 1 ปี, และเก็บขนแมว คือ เจ้าเหมียว สีเทา เพศผู้ อายุ 1 ปี

 

จนท.เจอหลักฐานสำคัญ บนตัวน้องชมพู่ เร่งพิสูจน์ เค้น 8 คนจ่อจับ

 

ต่อมาตำรวจได้เก็บขนสุนัขจากบ้านของน้าต่าย น้องของแม่ชมพู่ โดยเก็บขนของเจ้าซูโม่ สีดำ-น้ำตาล เพศผู้ อายุ 3 ปี, เจ้าสีทอง (ตัวสีดำ-ขาว) เพศผู้ อายุ 3 ปี

 

จนท.เจอหลักฐานสำคัญ บนตัวน้องชมพู่ เร่งพิสูจน์ เค้น 8 คนจ่อจับ


สุดท้ายได้เก็บขนสุนัขของบ้าน น.ส.ขวัญใจ เชื่อตาพระ หรือเปิ้ล อีก 2 ตัว โดยเก็บขนของเจ้ากาแฟ สีเทาแซมดำ เพศผู้ อายุ 2 ปี และเจ้าปีโป้ สีดำ เพศเมีย อายุ 5 ปี

 

จนท.เจอหลักฐานสำคัญ บนตัวน้องชมพู่ เร่งพิสูจน์ เค้น 8 คนจ่อจับ

 

นอกจากน้องชมพู่จะเคยจับสัตว์เลี้ยงในละแวกบ้านแล้ว ยังเคยอุ้มหนูพุกที่ครอบครัวเลี้ยงไว้อีกด้วย โดยนายนรินทร์ หลาบโพธิ์ หรือ น้าแต อายุ 36 ปี น้าชายของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า น้องชมพู่เป็นเด็กนิสัยร่าเริงจะชอบไปกอดไปเล่นกับสัตว์เลี้ยงในหมู่บ้าน ทั้งสุนัข ทั้งแมว และหนูพุกที่บ้านเลี้ยงไว้ ซึ่งหนูพุกนี้จะเป็นสัตว์ที่ดุร้าย และจะไม่ให้ใครแตะต้องตัวนอกจากเจ้าของที่มีความสนิทและคุ้นเคย ซึ่งน้องชมพู่ก็เคยจับหนูพุกที่เชื่องมาอุ้มเล่นเป็นประจำ โดยหนูพุกที่เลี้ยงไว้จะมีเพียงนางสาวิตรี คือ แม่น้องชมพู่ และตัวของน้องชมพู่เท่านั้นที่จะไปจับหรืออุ้ม ส่วนนายอนามัย ผู้เป็นพ่อของน้องชมพู่นั้น จะไม่ค่อยไปจับตัวหนูเพราะเขาไม่ค่อยถนัด

 

นายนรินทร์ กล่าวต่อว่า ตนไม่แน่ใจว่าขนของหนูพุกจะติดอยู่ตามตัวของน้องชมพู่หรือไม่ เพราะหนูพุกที่น้องชมพู่ชอบอุ้มนั้น ก็นำไปผสมพันธ์ุที่อื่นกว่า 1 ปีแล้ว และน้องชมพู่ก็ไม่เคยอุ้มหนูตัวอื่น เพราะมันไม่เชื่อง อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าการที่ตำรวจมาตรวจสอบขนสัตว์เลี้ยงในหมู่บ้าน จะต้องเกี่ยวข้องกับขนสัตว์บนน้องชมพู่แน่นอน