โผล่ รถกระบะปริศนา ช่วงที่น้องหายตัวไป

โผล่ รถกระบะปริศนา ช่วงที่น้องหายตัวไป

กำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้ การเสียชีวิตปริศนาของเด็กหญิง วัย 3 ขวบ “น้องชมพู่” ที่ถูกพบเป็นศพบนภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา เกือบ 2 เดือนแล้วยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ ล่าสุด มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า พ่อแม่ของน้องชมพู่เคยแยกกันอยู่ โดยแม่ท้องตอนแยกกับพ่อ รวมทั้งพฤติกรรมน่าสงสัยว่าอาจจะเป็นคนฆ่าลูก 100%


ล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมานั้น (14 ก.ค.)  ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับพระอาจารย์เพิ่มพูล ยะติโก เจ้าอาวาสวัดมงคลเทพนิมิตร บ้านธาตุ ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ช่วงเช้าวันนี้พระอาจารย์เพิ่มพูล ก็ได้เดินทางด้วยรถเก๋ง มาจาก จ.นครพนม มาที่บ้านน้องชมพู่ และมาบริเวณถนนหน้าภูเหล็กไฟ แต่ไม่ได้ลงจากรถแต่อย่างใด

โดยพระอาจารย์เพิ่มพูล เล่าว่า ที่เดินทางมาที่บ้านกกกอกวันนี้ ไม่ได้นิมิตเห็นน้องชมพู่แต่อย่างใด แค่ต้องการจะมาดูให้เห็นกับตา อาตมานิมิตเห็นคนร้ายคาดว่าน่าจะเป็นคนใกล้ตัวน้องชมพู่ และเขาอาจไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ แต่สิ่งที่เขาทำนั้นเป็นอุบัติเหตุ เพราะพลั้งมือทำร้ายน้องชมพู่ และจึงเอาศพน้องชมพู่ขึ้นไปอำพรางบนภูเหล็กไฟ

โผล่ รถกระบะปริศนา ช่วงที่น้องหายตัวไป

ที่อาตมานิมิตเห็นก่อนหน้านี้ คนร้ายก็อยู่ในอาการกระวนกระวาย ร้อนรน พูดจาเพ้อเจ้อ กินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ จะเป็นประสาท จนแทบจะผูกคอตาย ซึ่งอีกไม่นานถึง 1 เดือน คนร้ายจะยอมรับสารภาพออกมาว่าเขาเป็นคนก่อเหตุ เพราะกรรมกำลังจะตามทันเขาแล้ว คาดว่าวันที่คนร้ายเผยตัว จะเป็นวันพระในเร็ว ๆ นี้

สำหรับการกระทำของคนร้าย ตนก็อยากบิณฑบาตรว่า ถ้าหากว่าเป็นอุบัติเหตุที่ทำให้น้องชมพู่ตาย ก็อยากให้เขายอมรับสารภาพ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา เมื่อมองไปที่ภูเหล็กไฟ ก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศตรงนั้นค่อยข้างเปลี่ยว สัมผัสได้ว่าเจ้าที่ตรงนั้นแรง


โดยในเวลาต่อมานั้น ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ นายฟิล์ม (นามสมมติ) คนขับรถกระบะขายเกลือสีเทา ซึ่งขับรถผ่านในวันที่ 11 พ.ค.63 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเรียกสอบถามข้อมูลแล้ว เนื่องจากมีการตรวจสอบวงจรปิดตามจุดใกล้เคียง พบว่ารถคันนี้ซึ่งเป็นกระบะสีดำ น่าจะผ่านหมู่บ้านกกกอกในช่วงที่น้องชมพู่หายตัวไป

นายฟิล์ม (นามสมมติ) ระบุว่า วันที่ 11 พ.ค.63 ตนขับรถผ่านหมู่บ้านกกกอกจริง ซึ่งขับมาจาก อ.เลินกทา จ.ยโสธร จากนั้นก็มา อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ขับมาตามทางหลัก เพื่อไปปลายทางที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ตนขับรถมาเพียงลำพัง วันนั้นก็มีแต่กระสอบที่อยู่หลังรถ ตนขับรถผ่านช่วงบ่ายของวันที่ 11 พ.ค.63 ยืนยัยว่าไม่ได้มีการแวะขายของที่หมู่บ้านนี้ แค่ขับผ่านเท่านั้น ไม่ได้เลี้ยวเข้าไปในซอยบ้านน้องชมพู่

โผล่ รถกระบะปริศนา ช่วงที่น้องหายตัวไป

ตำรวจก็เพิ่งติดต่อตนมาเมื่อ 6 ก.ค.63 ที่ผ่านมา โดยสอบถามตนว่าได้ขับรถผ่านหรือไม่ ในวันที่ 11 พ.ค.63 โดยตำรวจระบุว่า จะเรียกสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง และติดต่อมาจากคดีน้องชมพู่ เป็นครั้งแรกที่ตำรวจติดต่อมา ส่วนตัวไม่ทราบว่าตอนที่ตนผ่านหมู่บ้านจะมีคดีเด็กหายตัว ตอนกลับบ้านไปแล้วเห็นข่าวถึงทราบเรื่อง ตนยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีชมพู่ ซึ่งกล้องหน้ารถของตนก็มี แต่ตนตรวจสอบแล้วไฟล์เก่าถูกลบอัตโนมัติไปหมดแล้ว
 

ขอบคุณคลิปจาก AMARIN TVHD