ข้าราชการระดับบิ๊ก ทำงามไส้ เอี่ยวลูกจ้างสาวยักยอกเงินหลวง 40 ล้าน

ข้าราชการระดับบิ๊ก ทำงามไส้ เอี่ยวลูกจ้างสาวยักยอกเงินหลวง 40 ล้าน

จากกรณี นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ลงนามมอบอำนาจพร้อมสั่งการให้ นางกัลยารัตน์ นิลอ่อน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังมีการตรวจสอบพบพนักงานวิชาการการเงินและบัญชี ที่สำนักงานจังหวัดยักยอกเงินงบประมาณของทางราชการรวม 33 ล้านบาท จากนั้นได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์
 

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้นำหลักฐานขอศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกหมายจับที่ จ.47 /63 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2563 ข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม พร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน จับกุม นางสาวขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี บุตรสาวของอดีตกำนัน ต.คลองวาฬรายหนึ่ง พนักงานวิชาการการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัด อยู่บ้านเลขที่ 82/21 หมู่ 8 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนได้เดินทางไปที่สำนักงานจังหวัด ชั้น2 ศาลากลางจังหวัด ขณะนางสาวขนิษฐา กำลังปฏิบัติหน้าที่ เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา จึงแสดงหมายศาลพร้อมควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองฯ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายักยอกเงิน 33 ล้านบาทจริง เพียงรายเดียวโดยใช้วิธีการปลอมลายมือชื่อผู้มีอำนาจสั่งจ่าย และนำเงินบางส่วนไปเล่นการพนันออนไลน์

ข้าราชการระดับบิ๊ก ทำงามไส้ เอี่ยวลูกจ้างสาวยักยอกเงินหลวง 40 ล้าน

ล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมา (22 ก.ค.) ได้มีรายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าวโดย  ศาลจัหวัดประจวบคีรีขันธ์ อนุมัติให้ออกหมายจับนางสายพิณ ดิบดีคุ้ม อายุ 56 ปื อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ 8 ต.คลองวาฬ อ.เมือง มารดาของ น สขนิษฐา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงฯ จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนพร้อมหมายจับ เดินทางไปจับกุมตัวที่บ้านพัก

ขณะที่นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีการทุจริตอยู่ระหว่างการสอบข้อเท็จจริงในระดับจังหวัด  คาคว่าจะสรุปผลได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ สำหรับสาเหตุมีการรายงานผลการสอบสวนล่าช้า หลังพบการทุจริตตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.63 เนื่องจากจะต้องขอให้ผู้เชี่ยวชาญในการใช้ระบบเทคโโลยีด้านสารสนเทศ จากส่วนกลางร่วมสอบสวน และให้ข้อมูล

หลังจากได้ผลสรุปจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว จะมีการแต่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย และทางละเมิดกับหัวหน้าสำนักงานจังหวัด หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ หัวหน้างานการเงิน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงนามเบิกจ่ายทุกราย

ขณะที่ตำรวจเผยความคืบหน้าทางคดี ว่า ขณะนี้ ป.ป.ช จังหวัดได้ส่งสำนวนกลับให้พนักงานสอบสวนดำเนินการหาคดีอญา จากนั้นทีมพนักงานสอบสวนได้ประชุมเพื่อสรุปแนวทางส่งให้ ปปป. ปปง. และ ปอท. ที่มีความชี่ยวชาญในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยพบว่า มียอดเงินที่ทุจริต มากกว่า 40 ล้านบาท

สำหรับลายมือชื่อของข้าราชการ 4 ราย ในสำนักงานจังหวัดที่ปรากฎในใบเช็ดงบประมาณจังหวัด 78 ใบ ได้ส่งให้สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตรวจว่า เป็นการลงลายมือชื่อจริงหรือมีการปลอมแปลง โดยขออนุมัติศาล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ออกหมายจับข้าราชการระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องบางรายที่มีเจตนาร่วมทุจริตในคดีอาญา จากการมอบรหัสผ่านและสมาร์ทการ์ดให้พนักงานราชการกระทำการทุจริต และเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายไม่เชื่อว่าเช็คจำนวนมาก จะมีการลงลายซื่อปลอมทั้งหมดเพื่อนำไปเบิกจ่ายกับธนาคารกรุงไทย สาขาประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวด.

ขอบคุณข้อมูลจาก amarintv