ลุงพ่อค้าสุดช้้ำ ปิดร้านนั่งนับเงินที่ขายได้ตลอดวัน ไม่น่ารีบเก็บใส่ผ้ากันเปื้อน

เตือนภัยเเก๊งมิจฉาชีพอาละวาดที่ขอนเเก่น เเบงค์1พันบาทปลอมกำลังระบาดหนัก

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 นายสรชา วิจิตพจน์ อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น พ่อค้าเร่ขายไข่นกกระทาทอดอยู่บริเวณฟุตบาธ หน้าร้านส้มตำกระเทย ถนนหน้าเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น นำธนบัตรปลอมฉบับละ 1 พันบาท แสดงให้ผู้สื่อขาวดู หลังถูกมิจฉาชีพใช้แบงก์พันปลอมมาขอซื้อไข่นกกระทาทอด

ลุงพ่อค้าสุดช้้ำ ปิดร้านนั่งนับเงินที่ขายได้ตลอดวัน ไม่น่ารีบเก็บใส่ผ้ากันเปื้อน

 

นายสรชาเล่าว่า เมื่อเวลา 12.10 น. ของวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังขายไข่นกกระทาทอดอยู่ขณะนั้นมีลูกค้ามาขอซื้อ 1 คน ได้มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่ง อายุประมาณ 22 – 25 ปี ขับขี่รถ จยย.มาจอดห่างจากร้านเล็กน้อย สวมหมวกกันน็อค สวมแม็ส สูงประมาณ 160 ซม. รูปร่างผอม พร้อมตะโกนว่า “ลุงซื้อไข่เต่า 30 บาท” โดยไม่หันหน้ามามองผม เมื่อผมนำไข่เต่าไปให้ มิจฉาชีพซึ่งได้เตรียมเงิน 30 บาท ที่จะให้ผม แต่ได้เปลี่ยนใจเพราะผมหันไปที่ร้านเพื่อคนไข่เต่าที่กำลังสุก คนร้ายก็เปลี่ยนใจนำแบงก์พันปลอมมาให้ผม เมื่อเห็นว่าเป็นแบงก์พันก็ใส่เก็บไว้ในผ้ากันเปื้อน พร้อมกับนำเงินธนบัตรจริงทอนให้เขา 970 บาท คนร้ายก็ขับรถไป

ลุงพ่อค้าสุดช้้ำ ปิดร้านนั่งนับเงินที่ขายได้ตลอดวัน ไม่น่ารีบเก็บใส่ผ้ากันเปื้อน

 

พร้อมกับหันหน้ามามองผมอีกครั้งหนึ่ง กระทั่งตอนเย็นผมได้มานับเงินที่ขายได้ ก็แปลกใจแบงก์พันที่ได้มา 1 ฉบับ เบากว่าธนบัตรจริงและเหมือนถ่ายเอกสาร ขนาดเล็กกว่าของจริง หมึกพิมพ์ไม่ชัดเจน กระดาษไม่แข็ง ลายน้ำรูปพระเจ้าอยู่หัวไม่มีจึงได้นำมาเทียบกับธนบัตรใบละ 1000 บาท ที่ตนมีอยู่ ก็ทราบว่าเป็นแบงก์พันปลอม จึงได้ให้หลานโพสต์ในโลกโซเชียลเพื่อเตือนให้พ่อค้าแม่ค้าใน จ.ขอนแก่นระวังแบงก์พันปลอมได้ระบาดใน จ.ขอนแก่น พร้อมกับจะไปแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่นในวันนี้ เพื่อลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เพิ่มความระมัดระวังตรวจสอบธนบัตร โดยเฉพาะธนบัตรใบละ 1,000 บาทให้มากขึ้น .

 

ขอบคุณ
 ฝ่ายข่าว สทท.ขอนแก่น