เด็กหนุ่มกัดฟันสู้จนสำเร็จ สานฝันเป็นตำรวจ มานะเรียนแม้ต้องหยุดไปหาเงินถึง 2 ครั้ง ออกรับจ้างกรีดยาง ค่าแรง 50 เพื่อเป็นทุนการศึกษา

ในภาคใต้ก็ยังมีคนที่กรีดยางส่งตัวเองเรียน เหมือนกับเรา ไม่ต้องไปท้อ" คือคำพูดของเด็กชาย ม.3 ที่มีเพียงความฝันว่าอยากเรียนหนังสือ แม้การไปโรงเรียนจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางไกล และรายได้ของครอบครัวของพวกเขาที่อำเภอขนอม นครศรีธรรมราช

ในภาคใต้ก็ยังมีคนที่กรีดยางส่งตัวเองเรียน เหมือนกับเรา ไม่ต้องไปท้อ" คือคำพูดของเด็กชาย ม.3 ที่มีเพียงความฝันว่าอยากเรียนหนังสือ แม้การไปโรงเรียนจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางไกล และรายได้ของครอบครัวของพวกเขาที่อำเภอขนอม นครศรีธรรมราช มีสองพี่น้องฝาแฝดที่ชะตาชีวิตทำให้ต้องห่างกันตั้งแต่เกิด เมื่อทั้งคู่คลอดได้ 20 วัน พ่อกับแม่จำต้องให้แฝดผู้พี่ คือเอส มาอยู่ในการอุปการะของปู่กับย่าเพราะไม่มีค่านมให้ลูกถึง 2 คน

 

เด็กหนุ่มกัดฟันสู้จนสำเร็จ สานฝันเป็นตำรวจ มานะเรียนแม้ต้องหยุดไปหาเงินถึง 2 ครั้ง ออกรับจ้างกรีดยาง ค่าแรง 50 เพื่อเป็นทุนการศึกษา

 

 จนกระทั่งแฝดน้องคือ เคและ แฝดพี่คือเอสเรียนจบชั้นป.6 พ่อกับแม่แยกทางกัน ปู่ย่าสงสารกลัวว่าหลานอีกคนจะไม่ได้เรียนหนังสือ จึงรับเค มาอุปการะ สองพี่น้องจึงมีโอกาสมาอยู่ด้วยกัน และได้เข้าเรียนชั้น ม.1 ที่โรงเรียนขนอมพิทยา จ.นครศรีธรรมราช    พ่อกับแม่ รับจ้างทำสวนยางพาราที่อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีลูกอีก 2 คน แต่ทั้งพ่อและแม่ไม่มีใครอยากให้ลูกเล่าเรียน อยากให้มาช่วยกันกรีดยาง ช่วงแรกๆที่ลูกทั้งสองมาอยู่กับปู่ย่ายังส่งเสียค่าเทอมให้บ้าง แต่พอทั้งคู่เรียนชั้นม.3 ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลืออีก

 

เด็กหนุ่มกัดฟันสู้จนสำเร็จ สานฝันเป็นตำรวจ มานะเรียนแม้ต้องหยุดไปหาเงินถึง 2 ครั้ง ออกรับจ้างกรีดยาง ค่าแรง 50 เพื่อเป็นทุนการศึกษา

ปู่เดินไม่ได้ การมีหลานทั้งสองมาอยู่ด้วย ทำให้ได้ปรนนิบัติปู่ ทั้งดูแลเรื่องอาหาร อุ้มปู่เข้าห้องน้ำ และอาบน้ำให้ ส่วนย่าอายุ 80 ปียึดอาชีพทำไม้กวาดจากดอกหญ้า โดยจะต้องขึ้นไปหาดอกหญ้าบนภูเขา เคกับเอสจึงมีโอกาส ได้แบ่งเบางานของย่า โดยขึ้นเขาไปเก็บดอกหญ้าและหาของป่าหลายอย่างขนลงมาขาย ทั้งหยวกกล้วยป่า ฝักเหลียงและใบเหลียง ทุกวันนี้ย่าสุขภาพไม่แข็งแรงจากความชรา เนื่องจากทำงานหนักเคกับเอสต้องดูแลย่าในระหว่างเข้าป่า และจำต้องปล่อยปู่ทิ้งไว้ที่บ้านตามลำพัง ช่วยย่าทำไม้กวาดส่งขายด้ามละ 80 บาท และนำฝักเหลียงกับใบเหลียงไปขายถุงละ 10 บาท สัปดาห์หนึ่งมีรายได้จากการขายของป่าย่าราว 200-300 บาทเคจึงหารายได้พิเศษด้วยตนเองคือเปิดรับงานวาดรูปเหมือนทางเฟสบุ๊คคิดค่าจ้างวาด130 บาท ส่วนเอส พี่ชายฝาแฝดรับงานชกมวย แต่รายได้ของทั้งคู่ก็ไม่ค่อยแน่นอน นานๆ จะมีงานสักครั้ง ย่ามีสวนยางเก่าแก่จำนวน 4 ไร่ แต่ความแห้งแล้งทำให้ไม่มีน้ำยางพอขาย ต้องทำขี้ยางสะสมไว้ขาย ซึ่งขี้ยางมีราคาเพียงกิโลกรัมละ 12 บาท สองพี่น้องจึงต้องไปรับจ้างกรีดยางเพิ่มที่สวนของคนอื่นด้วย เพื่อให้มีเงินไปโรงเรียน ทุกวันต้องตื่นตั้งแต่ตี 2 ทำงานจนถึง 7 โมงเช้า ได้ค่าแรง 50-100 บาท ถึงจะไปโรงเรียนได้ แม้จะอดนอนแต่ทำงานนี้มาหลายปีจนกลายเป็นความเคยชิน ไม่เคยไปเรียนสายจนคุณครูชื่นชม เมื่อถึงโรงเรียนก็ยังได้ช่วยงานกิจกรรมของโรงเรียนด้วย

 

เด็กหนุ่มกัดฟันสู้จนสำเร็จ สานฝันเป็นตำรวจ มานะเรียนแม้ต้องหยุดไปหาเงินถึง 2 ครั้ง ออกรับจ้างกรีดยาง ค่าแรง 50 เพื่อเป็นทุนการศึกษา

 

เด็กหนุ่มกัดฟันสู้จนสำเร็จ สานฝันเป็นตำรวจ มานะเรียนแม้ต้องหยุดไปหาเงินถึง 2 ครั้ง ออกรับจ้างกรีดยาง ค่าแรง 50 เพื่อเป็นทุนการศึกษา

 

เด็กหนุ่มกัดฟันสู้จนสำเร็จ สานฝันเป็นตำรวจ มานะเรียนแม้ต้องหยุดไปหาเงินถึง 2 ครั้ง ออกรับจ้างกรีดยาง ค่าแรง 50 เพื่อเป็นทุนการศึกษา

 

เรื่องราวของชีวิตสองฝาแฝดยอดกตัญญู ที่แม้ปลายทางเจออุปสรรคมากมาย แต่ไม่ท้อที่ฝ่าฟัน จนสำเร็จดั่งใจหมาย ทำให้หลายคนซาบซึ้งและเข้าช่วยเหลือน้องๆ อย่างล้นหลาม ล่าสุดเมื่อไม่นานนี้ ทางเพจเฟซบุ๊กชื่อ คนหัวใจแกร่ง ได้เผยเรื่องราวดีๆ ของหนุ่มนักสู้ ซึ่งได้ระบุข้อความว่า "ขอแสดงความยินดีกับแฝดพี่ “น้องเอส” คนเก่งจากขนอม นครศรีธรรมราช เจออุปสรรคจนต้องหยุดเรียนไปถึงสองครั้ง แต่ไม่ยอมหมดหวังลุกขึ้นสู้ใหม่ แรงใจจากปู่และย่า ทำให้เขาฝ่าฟันจนกระทั่งได้เรียน"

 

เด็กหนุ่มกัดฟันสู้จนสำเร็จ สานฝันเป็นตำรวจ มานะเรียนแม้ต้องหยุดไปหาเงินถึง 2 ครั้ง ออกรับจ้างกรีดยาง ค่าแรง 50 เพื่อเป็นทุนการศึกษา

 

ขอบคุณเพจ คนหัวใจแกร่ง