2สามีภรรยา กำลังนั่งทานอาหาร เห็นคุณตามาซื้อลาบ มีเงิน50บาท เเม่ค้าไม่ยอมขายให้

2สามีภรรยา นั่งทานอาหารที่เป็นร้านลาบต้มก้อย บริเวณหน้าสถานีรถไฟศีขรภูมิ ได้พบกับคุณตารายหนึ่ง ชีวิตสุดน่าสงสาร

เรื่องราวที่ทางผู้ใช้เฟซบุ๊ค Mattana Jingpimai เผยว่า ลูกจะรู้ไหมหนาว่าพ่อมาตามหาเจ้า...เรื่องมีอยู่ว่า ขณะเรานั่งกินข้าวกับแฟนยุ ซึ่งเป็นร้านลาบต้มก้อย หน้าสถานีรถไฟศีขรภูมิ เจอตาคนนี้เดินผ่านมา หน้าตาอ่อนแรง และหูไม่ค่อยดี เดินเข้าไปถามพ่อค้ากะแม่ค้าร้านลาบ

ตาถาม : ลาบกี่บาท

พ่อค้า : 70 ฿ ( พ่อค้าก็ตอบหลายครั้งกว่าจะได้ยิน )

ตา : 50 ฿ ได้ไหม

พ่อค้า : ไม่ได้ ทำแต่ 70 ฿

ตา : แล้วต้มล่ะ 50 ฿ ได้ไหม

แม่ค้า : ไม่ทำ ต้ม 80 ฿ .. 50 ฿ไม่ได้ทำ

ตา : ( ยังอ้อนวอนถามอีกว่า ทำให้ตา 50 ฿หน่อยได้ไหม )

แม่ค้า : ( พูดแบบไม่สนใจ ) ไม่ทำๆ ทำไม่ได้เนื้อแพง

เรา : นั่งตาค้างแป๊บ ( คิดในใจ )


และแล้วตาก็เดินจากไป เดินโซเซ เหมือนจะเดินไปถามร้านอื่น ซึ่งเวลาขณะนั้นคือ 21.00 น.นิดๆ ซึ่งบ้านนอกก็จะเก็บร้านกันเร็ว จะเหลือแต่ร้านที่เรานั่งกิน ตาจึงไม่ได้กินอะไร และเดินไปนั่งรอรถไฟ เพื่อที่จะไปลงบุรีรัมย์ และต่อรถไปมหาสารคาม ไปไหว้ขอพนักงานขายตั๋วได้เงินมา 20บาท เพื่อที่จะเอาไว้ซื้อกิน

2สามีภรรยา กำลังนั่งทานอาหาร เห็นคุณตามาซื้อลาบ มีเงิน50บาท เเม่ค้าไม่ยอมขายให้

ขณะนั้นเอง เราสั่งร้านลาบ ต้ม 1 ถุง ลาบ 1 ถุง ข้าว 1 ขอช้อนและโฟม เรากินเสร็จจึงเดินเอาไปให้ที่สถานี คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะตาหูไม่ดี แต่ไม่ใช่คนดื่มเหล้าขี้เมานะ ทันที ตายื่นบัตรประชาชนให้ดู

สอบถามได้ความว่า มาตามหาลูกยุสุรินทร์ แต่ไม่เจอลูก ( แอบงง ! ตามายังไง ) ตาบอกมาหาลูกแต่ไม่เจอลูก ตาบอกว่าวันนี้ไป รพ.ศีขรภูมิ มา ไปขอล้างแผลมา และตาก็ดึงกางเกงขึ้นให้ดู ผ้าพันแผลตั้งแต่ข้อเท้าเกือบถึงเข่า ไม่ได้ถามต่อว่าเป็นอะไร และจึงยื่นอาหารให้ และเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งคิดว่า ตาคงไปได้ถึงมหาสารคามแน่นอน ตาบอกหากเจอที่บ้านตา ตาคงได้เอาข้าวสารตอบแทนเรา เราเลยตอบไป ไม่เป็นไรจ้าตา ขอให้ตาเดินทางปลอดภัยนะ


ระหว่างที่เรานั่งคุยกะตา แฟนเราก็เดินไปซื้อตั๋วรถไฟให้ตา บอกว่ารถจะมาเวลา 22.25 น. ตาก็ฟังไม่รู้เรื่อง เลยเดินไปขอร้องเจ้าหน้าที่ ถ้าขบวนที่ตาจะขึ้นมาถึง ช่วยเรียกตาด้วยนะคะ เจ้าหน้าที่ก็ยินดีช่วย รู้สึกขอบคุณ  เราอยากถามเรื่องลูกนะว่าไปไหน ตามาหาลูกทำไม แต่ตัดใจไม่ถาม เพราะตาหูไม่ดี จากนั้นเราจึงขอตัวกลับบ้านเพราะดึกแล้ว ตายกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนเราจะเดินกลับมา

2สามีภรรยา กำลังนั่งทานอาหาร เห็นคุณตามาซื้อลาบ มีเงิน50บาท เเม่ค้าไม่ยอมขายให้

ที่โพสต์ ไม่ใช่อยากได้ความดีความชอบ ถ้ามองดีๆเรื่องนี้มีอะไรให้คิด
ลูกไปไหนหมด ถึงไม่ดูแลพ่อแม่
ร้านลาบ ทำไม 50 บาท คุณถึงไม่ยอมขาย คุณอาจจะลดปริมาณลงก็ได้ป่ะ ถ้าคิดแบบไม่มีน้ำใจ 50 บาท  มันก็คือเงินนะคุณ น่าจะเอาไว้ก่อน รู้สึกว่าคุณคือแล้งน้ำใจมาก คุณก็ไม่ได้ขายดิบขายดีอะไร น่าจะขายๆไป พอเราสั่งใส่ถุงบอกจะเอาไปให้ตา ทำปฏิกิริยาไม่ค่อยสู้ดี เหมือนอายๆเรา หรือไม่พอใจเราก็ไม่รู้นะ แต่เราสัญญานะ จะไม่ไปอุดหนุนคุณอีก

2สามีภรรยา กำลังนั่งทานอาหาร เห็นคุณตามาซื้อลาบ มีเงิน50บาท เเม่ค้าไม่ยอมขายให้

ถ้าเราไม่ติดว่า ย่าเรานอนผ่าตัดที่ รพ.เราจะอาสาไปส่งตาถึงมหาสารคามเลยแหละ สังคมสมัยนี้ ถ้ามีน้ำใจ แบ่งปัน ช่วยในแบบที่เราพอช่วยได้ ไม่ลำบาก เราจะไม่เป็นทุกข์

ขอให้ตาเดินทางถึงบ้านที่มหาสารคามอย่างปลอดภัย
ขอให้เจอแต่คนเมตตานะตา

 

ขอบคุณ
Mattana Jingpimai