กะลาสีที่รอดชีวิต ออกมาสู้ให้ครอบครัวผู้สูญเสีย การดูแลชีวิตคนควรเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อนกู้ซากเรือ

  กรณีอุบัติเหตุเรือเฟอรี่ราชา4 ล่ม กลางทะเลสมุย ในเส้นทางระหว่างเกาะสมุย-ดอนสัก โดยเรือลำดังกล่าวได้บรรทุกขยะเต็มลำจากเกาะสมุยไปทิ้งยังฝั่งจังหวัดสุราษฎร์ฯ  พร้อมมีรถบรรทุกใหญ่3คัน กระบะอีก1 คัน  พร้อมลูกเรือ12คนเเละผู้โดยสาร 4คน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 

เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 คน รอดชีวิต 11 คน ถึงเวลานี้กลางเดือนกันยายนเเล้ว ผ่านมาเดือนกว่า ทางด้านของ  บังราม อึดอัดใจ ต้องออกมาเป็นตัวแทนผู้เสียชีวิตและการช่วยเหลือเยียวยาบอกว่า ผมคือกะลาสีเรือราชา4 คืนเกิดเหตุมีผู้รอดชีวิต9คนและสูญหาย7คน ผมคือหนึ่งในรายชื่อผู้สูญหาย และรอดชีวิตมาได้ด้วยตัวเองในวันที่ 2 ของเหตุการณ์ครั้งนั้น

เเละจากการที่เรือเฟอรี่ล่มกลางทะเลเกาะสมุยหลายคนถาม เขาจ่ายค่าสินไหม ค่าทำขวัญให้ยัง ให้เท่าไหร เบื้องต้น ผมไม่เคยได้รับการติดต่อจากบริษัทเลย ต้องเดินเรื่องด้วยตัวเอง โทรไปสอบถามเอง ค่ารักษาพยาบาลต้องจ่ายเอง แล้วนำบิลไปเบิกกับบริษัทเอาเอง

ส่วนเงินเยียวยาเบื้องที่ได้รับ คนละ7,000 บาท ผมได้หลังจากคนอื่นต้องดำเนินการเองไม่งั้นก็ไม่ได้ ส่วนเงินค่าทำขวัญค่าสินไหมทดแทน ทบริษัทบอกว่า รอหลังกู้เรือเสร็จ อันนี้ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องรอหลังกู้เรือเสร็จ การกู้เรือยื้อเวลาออกไปไม่หยุด คือไม่มีกำหนดการที่แน่นอน ผ่านมา 1เดือน 12 วัน ตามดูข่าวกู้เรือ เหมือนคนอื่นๆ แต่ก็ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไร บริษัทโยนให้ไปถามทนายความ ทนายความบอกแค่ว่า รอหลังกู้เรือเสร็จ การดูแลชีวิตคนน่าจะเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน นะครับ

โดยเฉพาะการดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพราะส่วนใหญ่พวกเค้าคือหัวหน้าครอบครัว ผู้ที่รอดชีวิตก็เหมือนกัน หลายคนออกจากงานแล้ว เพราะไม่มีใครอยากเอาชีวิตกลับไปเสี่ยงหรอกครับ บริษัทน่าจะช่วยเหลือทุกคน ให้เร็วที่สุด และดีที่สุด ผ่านมา1เดือน12 วันแล้ว โทรไปไม่เคยได้คำตอบ ที่ชัดเจน ฝากผู้ที่เกี่ยวข้อง ดูแลเรื่องนี้ด้วยนะครับ ส่วนรูปคดี ใครผิดใครถูก  อันนั้นเป็นเรื่องที่บริษัทต้องจัดการเอง อย่าถามผมเลยว่าฝ่ายไหนผิด ฝ่ายไหนถูกเพราะผมตัดสินไม่ได้ส่วนเรื่องให้การหรือเป็นพยาน ผมพร้อมให้การตามความจริงทุกเรื่องที่ผมเห็นที่ผมประสบมา ย้ำตามความเป็นจริงเท่านั้น เพื่อความถูกต้องและความเป็นธรรมของทุกฝ่ายและทุกคน

.

ขอบคุณ

บิ๊กเกรียน