หมอธีระซัดหากมีสติและใช้ปัญญาจะรู้ว่าการเปิดประเทศยิ่งเพิ่มความเสี่ยง อย่าอวดอ้างสรรพคุณไปวันๆว่าเอาอยู่

หมอธีระซัดหากมีสติและใช้ปัญญาจะรู้ว่าการเปิดประเทศยิ่งเพิ่มความเสี่ยง อย่าอวดอ้างสรรพคุณไปวันๆว่าเอาอยู่

วันที่ 17 กันยายน 2563 บนเฟซบุ๊กของรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ถึงความเร็วการติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศ 5 อันดับแรกทั่วโลก พร้อมเตือนการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาในประเทศนั้นจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยง ซึ่งเรื่องนี้หากใช้สติและปัญญาในการคิดก็จะรู้

สถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด 17 กันยายน 2563 วันนี้ช่วงสายๆ จะทะลุ 30 ล้านครับ เมื่อวานติดเพิ่มอีกถึง 300,670 คน ตายเพิ่ม 6,077 คน รวมแล้วตอนนี้ 29,973,988 คน ตายไปรวม 943,765 คน ความเร็วเฉลี่ยตอนนี้ 1 ล้านคนทุก 3.5 วัน...

อเมริกา ติดเพิ่ม 40,546 คน รวม 6,821,674 คน อีก 5 วันยอดติดเชื้อจะแตะ 7 ล้าน ในขณะที่วันนี้ยอดตายทะลุสองแสนไปเรียบร้อยแล้ว 201,094 คน 
อินเดีย ติดเพิ่ม 97,859 คน รวม 5,115,893 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 36,820 คน รวม 4,419,083 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 5,670 คน รวม 1,079,519 คน
 

อันดับ 5-10 ยังคงเดิมติดกันหลายพันถึงเกินหมื่นต่อวัน ที่หนักมากคือสเปนและอาร์เจนตินาติดกันราว 11,000 คนต่อวัน

ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ รวมถึงอิหร่าน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และบังคลาเทศ ติดกันหลักพันถึงเฉียดหมื่น หลายประเทศในยุโรป รวมถึงแคนาดา ปากีสถาน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเมียนมาร์ ติดกันหลักร้อยถึงหลายร้อย ในขณะที่จีน สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และมาเลเซียติดกันหลักสิบ ส่วนฮ่องกงและนิวซีแลนด์ติดกันเพิ่มต่ำกว่าสิบ...เมียนมาร์ข้างบ้านเรา ติดเพิ่มถึง 319 ราย แนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สถานการณ์ระบาดยังรุนแรงมากทั่วโลก การเปิดประเทศเพื่อรับให้กลุ่มต่างๆ เดินทางเข้ามานั้น หากมีสติและใช้ปัญญาคิด จะรู้ว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะนำเชื้อเข้ามาในประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย แม้จะมีระบบคัดกรองและกักตัวก็มีโอกาสหลุดได้ 

ภาวะที่ไทยเรามีการติดเชื้อในประเทศ ทั้งที่ตรวจเองในประเทศ และที่ไปตรวจพบที่ประเทศอื่นเช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เมียนมาร์ โดยมีหลายต่อหลายรายที่มาจากหลายหลายอาชีพ หลากหลายแหล่งทีพำนัก หลากหลายชาตินั้นเป็นสัญญาณไม่ดี และมักจะนำไปสู่การระบาดซ้ำแบบกระทันหัน จู่โจมไม่ทันตั้งตัว และกระจายเร็ว

การระบาดซ้ำนั้น หลายประเทศโชว์ให้เราเห็นชัดเจนว่า หนักกว่าเดิม 2-3 เท่า และใช้เวลานานในการควบคุม นานกว่าเดิมราว 2 เท่า  การอวดอ้างสรรพคุณว่า กรูจะเอาอยู่นั้น ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ และอาจทำให้เกิดความประมาท แทนที่จะเอาเวลามาอวดอ้างสรรพคุณไปวันวัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรไปเตรียมระบบการตรวจโควิดให้เพียงพอ เข้าถึงได้ และทำการตรวจให้มากกว่าที่เป็นมาจะดีกว่า สถิติของไทยตรวจเพียง 6.1 คนต่อประชากร 1,000 คน ในขณะที่ประเทศอื่นๆ นั้นมากกว่านี้หลายเท่าถึงหลายสิบเท่าตัว 

...การไม่มีรายงานเคส ไม่ได้แปลว่าไม่มีเคส...
...และการไม่ตรวจอย่างเพียงพอ ก็ย่อมไม่เจอเคสแหงๆ...

สถานการณ์ในปัจจุบัน ประเมินดูแล้ว คงต้องบอกว่า สิ่งที่เราจะเชื่อมัน ศรัทธาได้ พึ่งได้นั้นคือตัวเราเองแต่ละคนเท่านั้นครับ  ขอให้ทุกคนรักตัวเอง รักครอบครัว ป้องกันตัวเสมอ ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร พูดน้อยลงพบคนน้อยลงสั้นลง เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายควรหยุดงานหยุดเรียนและรีบไปตรวจ

คนไทยต้องพี่งตนเองแล้วครับ ด้วยรักต่อทุกคน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ขอบคุณ Thira Woratanarat