คุณตาใช้เวลา2ปี ปลูกดอกไม้จนกลายเป็นสวนขนาดใหญ่ เจอถามจะทำไปทำไม ตอบกลับประโยคเดียว น้ำตาไหลทั้งบาง

คุณตาใช้เวลา2ปี ปลูกดอกไม้จนกลายเป็นสวนขนาดใหญ่ เจอถามจะทำไปทำไม ตอบกลับประโยคเดียว น้ำตาไหลทั้งบาง

เรื่องราวสุดซึ้งของคุณตา และคุณยายอยู่คู่หนึ่งที่แต่งงานกันมาตั้งแต่ปี 1956 แต่ตอนนี้พวกเขาต้องเจอปัญหาที่คุณยายสูญเสียการมองเห็น ด้วยโรคเบาหวาน

มันเหมือนกับว่าโลกทั้งใบมันสูญสิ้นแล้ว คุณยายเลยเก็บตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ไม่ยอมออกมาพบเจอใคร และไม่ยอมที่จะออกไปเที่ยวไหน

คุณตามีชื่อว่า คุโรกิ ที่ประกอบอาชีพเป็นเกษตกรในแถบชนบทในประเทศญี่ปุ่น เขามีความหวังที่จะทำให้คุณยายกลับมามีชีวิตที่สดใสอีกครั้ง แต่ด้วยเพราะคุณยายเองไม่ยอมที่จะออกไปไหน

คุณตาใช้เวลา2ปี ปลูกดอกไม้จนกลายเป็นสวนขนาดใหญ่ เจอถามจะทำไปทำไม ตอบกลับประโยคเดียว น้ำตาไหลทั้งบาง

คุณตาคุโรกิ ก็เลยลงมือปลูกสวนดอกไม้ชิบาซากุระ เนื่องจากมันเป็นดอกที่คุณยายชื่นชอบมากตอนที่ยังมองเห็น คุณตาใช้เวลาปลูกดอกชิบาซากุระ เป็นเวลาเกือบ 2 ปี จนกลายเป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่

มีหลายคนที่ถามคุณตาว่าปลูกดอกไปทำไม ในเมื่อคุณยายก็มองไม่เห็น คุณตาตอบว่า “คุณยายแค่มองไม่เห็น แต่ก็ยังสามารถดมกลิ่นของมันได้ เขาเลยต้องปลูกเยอะๆ เพื่อให้มันกลิ่นมากพอที่จะทำให้คุณยายที่เก็บตัวอยู่ในบ้านได้สดชื่น”

คุณตาใช้เวลา2ปี ปลูกดอกไม้จนกลายเป็นสวนขนาดใหญ่ เจอถามจะทำไปทำไม ตอบกลับประโยคเดียว น้ำตาไหลทั้งบาง

คุณตาจะพาคุณยายเดินออกมาสูดกลิ่นของดอกไม้ทุกเช้า มันเป็นการสร้างความสุขให้กับคุณยาย และมันเป็นความโรแมนติกมากๆ

 

เมื่อข่าวนี้ได้เผยแพร่ออกไป ทำให้ผู้คนจำนวนมากเดินทางที่เที่ยวที่สวนแห่งนี้ จนการเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในเมือง ชินโต จ.มิยาซากิ ประเทศญี่ปุ่น

พร้อมทั้งยังมีคนจำนวนมากที่มาให้กำลังใจคุณยาย ความสุขเหล่านี้มันมีค่าต่อจิตใจของคนที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้และเราหวังว่าโลกใบนี้จะมีการส่งมอบกำลังดีๆ แบบนี้ให้แก่กันและกัน

คุณตาใช้เวลา2ปี ปลูกดอกไม้จนกลายเป็นสวนขนาดใหญ่ เจอถามจะทำไปทำไม ตอบกลับประโยคเดียว น้ำตาไหลทั้งบาง

 

คุณตาใช้เวลา2ปี ปลูกดอกไม้จนกลายเป็นสวนขนาดใหญ่ เจอถามจะทำไปทำไม ตอบกลับประโยคเดียว น้ำตาไหลทั้งบาง