มงคลกิตติ์ ลั่นเห็นแล้วสมเพช เปรียบ "บิ๊กตู่" เหมือน อัครมหาเสนาบดี ยุคกรุงศรีฯแตก ชี้ผู้นำประเทศต้องลงไปดูหน้างาน ไม่ใช่มา WFH

วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์  ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า เล่าประวัติศาสตร์ให้พี่น้องคนไทยฟังกันสักนิดนึง 

วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์  ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า เล่าประวัติศาสตร์ให้พี่น้องคนไทยฟังกันสักนิดนึง ผมดูจากสถานการณ์วิกฤติสงครามไวรัส19 ตอนนี้แล้ว ผมรู้สึกท้อใจเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดถึง 11,305 ราย ตาย 80 ราย ติดเชื้อสะสม426,475 ราย ตายสะสม 3,502 ราย ของจริงน่าจะมากกว่านี้ 2-3 เท่า ที่รอคอยเตียงจนตายคาบ้าน รอออกซิเจน รอยาฟ้าทะลายโจร  รอคอยวัคซีน รอตรวจหาเชื้อ  อีกทั้งนักรบด่านหน้า คือ แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ มีแค่วัคซีนชิโนแวคที่ฉีดมาหลายเดือนแล้ว ภูมิคุ้มกันหมด ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก พยาบาลฆ่าตัวตาย แพทย์ด่านหน้าจะไม่ไหวแล้ว สิ่งเหล่านี้ดูแล้วรันทดใจ 

 

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์

 

โปรโมชั่นลาซาด้า

ยิ่งมาเห็นผู้นำทัพอย่าง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี Work From Home 100% เก็บตัวอยู่ที่บ้าน ร.1 รอ.ทม. สั่งการทางออนไลน์ เห็นแล้วสมเพช เพราะนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ข้าราชการประจำแต่เป็นนักการเมืองเต็มตัว คือ ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง นโยบายนี้หลักๆ เขาให้ประชาชน ห้างร้าน บริษัท ปฏิบัติอยู่กับบ้านเพื่อหยุดกระจายเชื้อ  

ส่วนข้าราชการที่มีหน้าที่ดูแลประชาชนไม่เกี่ยว  ส่วนผู้นำประเทศต้องลงไปดูหน้างานแพทย์พยาบาล ว่าเขาติดอะไร ต้องการอะไร ไปให้กำลังใจ เดินลงพื้นที่ไปหาประชาชนในพื้นที่จริงที่เขารอคอยวัคซีน คอยเตียง คอยเครื่องช่วยหายใจ จะได้ทราบตัวเลขจริงๆของผู้เดือดร้อน จะได้แก้ปัญหาถูกจุด ไม่ใช้หลบอยู่บ้านพักแบบนี้ 

ถ้าแพทย์ พยาบาล อยาก Work From Home 100% บ้างละ จะเป็นอย่างไร  เหตุการณ์ปัจจุบันนี้คือศึกสงครามกับไวรัส นักรบด้านหน้าต้องการวัคซีนที่คุณภาพสูงเอาไว้ปกป้องตนเองเหมือนมีปืนใหญ่ มีปืน ไว้ปกป้องตนเองจะได้ดูแลประชาชนได้ เขาต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ที่จำเป็น ต้องการกำลังสนับสนุนทุกอย่าง  

เหตุการณ์แบบนี้ทำให้ผมนึกถึง วีรกรรม ชาวบ้านบางระจัน ที่ต้องการหาปืนใหญ่ไว้ป้องกันข้าศึกก่อนบุกเข้ากรุงศรีอยุธยา แต่ก็ไม่ให้ปืนใหญ่มา ให้แบบมาหล่อปืนเองเพราะประหยัด ส่วนในกรุงฯก็ห้ามพระยาตาก ยิงปืนใหญ่ไปยังข้าศึกเพราะกลัวเสียงดัง รำคาญ ไม่ต้องยิงเดี๋ยวน้ำหลากข้าศึกก็กลับไปเอง ส่วนอัครมหาเสนาบดีขณะนั้นก็ Work From Home เหมือน นายกรัฐมนตรี คนปัจจุบัน สุดท้ายกรุงศรีอยุธยาก็แตกเป็นเมืองขึ้นแก่พม่าไป

 

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์

 

โปรโมชั่นลาซาด้า