ย้อนไปชมจังหวะ อันประทับใจ ของ สินทวีชัย ที่เพิ่งประกาศยุติ 14ปี การรับใช้ ช้างศึก

  หลังจากที่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูวัย 35 ปี ได้ประกาศแขวนถุงมือ ประกาศอำลาทีมชาติไทย หลังจบ การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 3 หรือรอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดสุดท้ายของกลุ่มบี เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2560 ซึ่ง ทีมชาติไทย บุกไปพ่าย ออสซี่  1-2  โดยยถือเป็นการยุติการรับใช้ทีมชาติไทยมา 14 ปี ของ ซูเปอร์ตี๋

ช็อตเเห่งความทรงจำ!! ย้อนชมจังหวะสุดประทับใจของ"สินทวีชัย"อดีตยอดมือกาวทีมชาติไทย จนกลายเป็นที่มาของฉายา "ตี๋ นอยเออร์" !!(มีคลิป)

สำหรับ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล สนามให้ทีมชาติไทย 78 นัด และเคยคว้าแชมป์ฟุตบอล คิงส์ คัพ 3 สมัย (2007, 2016, 2017), คว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 1 สมัย (2016), แชมป์ ซีเกมส์ 2 สมัย (2003,2005) และ แชมป์ T&T Cup 1 สมัย (2008)

ช็อตเเห่งความทรงจำ!! ย้อนชมจังหวะสุดประทับใจของ"สินทวีชัย"อดีตยอดมือกาวทีมชาติไทย จนกลายเป็นที่มาของฉายา "ตี๋ นอยเออร์" !!(มีคลิป)


 

 ล่าสุดในวันนี้ นาย พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และโฆษกประจำสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันเตรียมจัดเกมอำลาสนามในนามทีมชาติไทย ให้กับ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ในช่วงต้นปี 2018

ช็อตเเห่งความทรงจำ!! ย้อนชมจังหวะสุดประทับใจของ"สินทวีชัย"อดีตยอดมือกาวทีมชาติไทย จนกลายเป็นที่มาของฉายา "ตี๋ นอยเออร์" !!(มีคลิป)

   มีการเปิดเผยว่า "สินทวีชัย เก็บเรื่องนี้ไว้กระทั่งลงสนามเลย เพราะเขาต้องการให้โค้ชจัดผู้เล่นที่ดีที่สุดพบกับ ออสเตรเลีย โดยไม่มีเรื่องนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง เราเลยรู้สึกว่า ควรจะมีแมตซ์ที่ให้เกียรติกับ สินทวีชัย ที่รับใช้ชาติมาอย่างยาวนาน ซึ่งก็ได้คุยกับ สินทวีชัย ไว้แล้ว เจ้าตัวก็ขอบคุณมาก"
"เบื้องต้นเราคิดว่าจะจัดช่วงต้นปีหน้า เพราะหลังจากนี้ สินทวีชัย ก็ต้องกลับไปรับใช้สโมสร ซึ่งมีโปรแกรมการแข่งขันค่อนข้างจะแน่นจนถึงเกือบปลายปี รวมถึงให้เวลา สินทวีชัย ได้พักผ่อนด้วย คงต้องรอเวลาที่เหมาะสมอีกทั้งช่วงต้นปีหน้าทาง มิโลวาน ราเยวัช ก็ต้องการจัดแมตช์ลองทีมด้วย"

ช็อตเเห่งความทรงจำ!! ย้อนชมจังหวะสุดประทับใจของ"สินทวีชัย"อดีตยอดมือกาวทีมชาติไทย จนกลายเป็นที่มาของฉายา "ตี๋ นอยเออร์" !!(มีคลิป)

ช็อตเเห่งความทรงจำ!! ย้อนชมจังหวะสุดประทับใจของ"สินทวีชัย"อดีตยอดมือกาวทีมชาติไทย จนกลายเป็นที่มาของฉายา "ตี๋ นอยเออร์" !!(มีคลิป)


  ทั้งนี้เราขอไปย้อนรำลึกถึงช็อตเเห่งความทรงจำ  สุดประทับใจ ของ สินทวีชัย  จนเป็นที่มาของ ฉายา  ตี๋ นอยเออร์  ... ในเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือด โซนเอเชีย กลุ่มเอฟ  ทัพช้างศึก เชือดเอาชนะ เวียดนาม ไป  1-0 ที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 24 พฤษภาคม 2558 โดย สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูของทีมชาติไทย โชว์ความสุดยอดวิ่งเกือบครึ่งสนาม  เพื่อมาตัดบอลจากเท้าของ  เล คอง วินห์ อดีตกองหน้าคนดังของ เวียดนาม ที่หลุดเดี่ยวในจังหวะสวนกลับเร็ว  ช่วยให้ ช้างศึก รอดพ้นการเสียประตู ...

(ชมคลิป)

 

เรื่องราวจากวันนั้นถึงวันนี้ ของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล “ตำนานทีมชาติไทย” ......

18 ปีเต็มในการรับใช้ทีมชาติไทย ในที่สุดก็ถึงคราจากลา.. และนี่คือเรื่องราวของ สินทวีชัย จากวันนั้นถึงวันนี้ก่อนได้ชื่อว่านี่คือ “ตำนานทีมชาติไทย” ตัวจริง
ค่ำคื่นวันที่ 6 กันยายน 2560 ที่เรคแทงกูลาร์ สเตเดี้ยม เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย นอกจากเป็นนัดสุดท้ายของ ทีมชาติไทย ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ที่บุกพ่าย ทีมชาติออสเตรเลีย 2-1 แล้ว ยังเป็นฉากสุดท้ายของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูวัย 35 ปี ที่ประกาศยุติการเล่นให้ทัพช้างศึก หลังจากรับใช้มาถึง 18 ปีเต็มๆ นับตั้งแต่ชุดเยาวชน

ช็อตเเห่งความทรงจำ!! ย้อนชมจังหวะสุดประทับใจของ"สินทวีชัย"อดีตยอดมือกาวทีมชาติไทย จนกลายเป็นที่มาของฉายา "ตี๋ นอยเออร์" !!(มีคลิป)


สินทวีชัย หทัยรัตนกุล หรือชื่อเดิม โกสินทร์ หทัยรัตนกุล เริ่มต้นรับใช้ ทีมชาติไทย ตั้งแต่อายุ 17 ปี ในศึกชิงแชมป์โลก รอบสุดท้าย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อปี 1999 แม้มีโอกาสเฝ้าเสาเพียงแค่ 2 นาที ในเกมนัดสุดท้าย ที่แพ้ ทีมชาติกานา 7-1 ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน อินทรัตน์ อภิญญากุล แต่นั่นก็เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของตำนานรายนี้
จากนั้นอีก 4 ปีต่อมา เด็กหนุ่มจากจังหวัดสกลนคร ที่ฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ก็ได้รับโอกาสเฝ้าเสาให้ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ครั้งแรกในชีวิต ด้วยวัยเพียง 21 ปี ในเกมอุ่นเครื่องที่พ่าย เรอัล มาดริด 2-1 โดยเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังแทนที่ กิตติศักดิ์ ระวังป่า


นับตั้งแต่นั้นมา สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ก็กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของ ทีมชาติไทย ผ่านการลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆทั้ง เอเชียนเกมส์ กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี (ปรีโอลิมปิก) , คว้าแชมป์ซีเกมส์ได้ 2 สมัย ในปี 2003 และ 2005 รวมถึงยังเคยลงเล่นศึกเอเชียนคัพมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2004 และ 2007 อีกทั้งยังผ่านการลงเล่นในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก มาแล้วถึง 4 ครั้ง ในปี 2006 , 2010 , 2014 และล่าสุดปี 2018 นี้


นอกจากผ่านรายการใหญ่ๆมาแทบทั้งหมด สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ยังคว้าไปถึง 7 แชมป์กับ ทีมชาติไทย ประกอบด้วย ถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ 3 ครั้ง (2007, 2016, 2017), เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 1 ครั้ง (2016), ซีเกมส์ 2 ครั้ง (2003,2005) และ ที แอนด์ ที คัพ 1 ครั้ง (2007) รวมแล้วเฝ้าเสาให้ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ไปถึง 78 นัด พร้อมเก็บคลีนซีตได้ 24 นัด กระทั่งล่าสุดประกาศอำลาทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ช็อตเเห่งความทรงจำ!! ย้อนชมจังหวะสุดประทับใจของ"สินทวีชัย"อดีตยอดมือกาวทีมชาติไทย จนกลายเป็นที่มาของฉายา "ตี๋ นอยเออร์" !!(มีคลิป)


“ผมตัดสินใจอยู่นานครับ” สินทวีชัยกล่าวถึงการประกาศเลิกเล่นทีมชาติไทย


“ผ่านไตร่ตรองด้วยเหตุและผล หลายๆอย่าง ผมถามหัวใจตัวเองมาตลอดว่า มันถึงเวลาแล้วหรือยัง วันนี้หลายๆอย่างมันประจวบเหมาะ และนี่คือเวลาที่เหมาะสมสุดแล้ว”
“แน่นอนว่า การรับใช้ทีมชาติมันคือที่สุด และเป็นความฝันของผม ช่วงที่เวลาผ่านมา ถามว่านานไหม บางครั้งก็รู้สึกว่านาน บางครั้งก็รู้สึกว่าเร็ว มันอธิบายยาก แต่ที่สุดแล้ว วันนี้ก็ต้องมา ผมทำดีที่สุดแล้ว และผมมีความสุขในทุกๆวินาทีกับทีมชาติ”


“ใจหายครับ ที่ต้องกลายเป็นอดีตทีมชาติ แต่ผมเข้าใจได้ และมันถึงเวลาที่เหมาะสมจริงๆ ไม่มีอะไรต้องติดใจ หรือเสียใจครับ อย่างที่ทุกคนเห็น ทุกๆครั้งที่มีการเรียกตัวทีมชาติ ผมทุ่มเททั้งกายและใจ อย่างถึงที่สุด เหมือนกับทุกครั้งที่ผมลงสนาม มันคือครั้งสุดท้าย”


“ผมได้บอกน้องๆในห้องแต่งตัวแล้วว่า ที่สุดของฟุตบอล คือการเล่นให้ทีมชาติไทย ไม่ว่าคุณจะได้แชมป์อะไรมากับสโมสร แต่การติดทีมชาติคือเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจ เหนือกว่าสโมสรอยู่แล้ว อยากให้พวกเขารับมือกับความกดดันหลายๆด้าน ทั้งในและนอกสนามให้ได้ และที่สำคัญเป็นกำลังหลักให้กับ ฟุตบอลไทย ในการพัฒนาต่อไป”


“ผมหวังว่าในอนาคต ผมจะได้โอกาสกลับมาตอบแทน ฟุตบอลไทย ในบทบาทใด บทบาทหนึ่ง และถ้าจะมีอะไรให้จดจำ ผมขอให้ทุกคนจดจำผม ในฐานะนักสู้คนหนึ่งที่สู้จนวินาทีสุดท้าย
ขณะที่ ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้ารุ่นน้อง ก็มองว่าไม่ใช่คำที่เยินยอเกินไปแน่นอนหากจะบอกว่าชื่อของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เป็นหนึ่งในตำนานของทีมชาติไทย


“ผมว่าไม่เกินไปหรอกถ้าจะใช้คำว่าตำนานกับพี่ตี๋ ถ้ามองย้อนกลับไป พี่ตี๋เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุด ในยุคหนึ่งเราไม่สามารถมองหาผู้รักษาประตูที่ดีกว่าพี่ตี๋ได้เลย ซึ่งพี่ตี๋ช่วยทีมมาตลอด ผมว่าเป็นโชคดีของทีมชาติไทย ที่ครั้งหนึ่งเคยมีผู้รักษาประตูที่ชื่อ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล รับใช้ชาติ ขอบคุณพี่ตี๋จริงๆกับความทุ่มเทที่มีให้ทีมชาติไทย ที่สำคัญยังเป็นแบบอย่างให้ทั้งตัวผมรวมถึงน้องๆทุกคนในทีม จากนี่ก็ขอให้พี่ตี๋ประสบความสำเร็จในการเล่นให้สโมสร และหวังว่าจะมีโอกาสร่วมงานกับพี่ตี๋อีกครั้งในนามทีมชาติไทย ไม่ว่าจะสถานะใดหรือบทบาทใดก็ตาม”


จากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นเวลา 18 ปีเต็มๆที่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล รับใช้ทีมชาติไทยด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเท ฉะนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือหนึ่งในตำนานทีมชาติไทยตัวจริง และควรค่าแก่การสดุดีเป็นอย่างยิ่ง

 

 

 

 

ขอบคุณ

ช้างศึก