"กิเลนผยอง" ต้านไม่อยู่ พ่าย คาชิว่า เรย์โซลไป 0-3

.“โค้ชแบน”ธชตวัน ศรีปาน กุนซือ เอสซีจี เมืองทองฯ ชี้ ทีมผิดพลาดในเกมรับ ปล่อยตัวประกบในครึ่งหลังทำให้ปราชัย แต่ขออวยพรให้ ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน ประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งใน เจ ลีก เวอร์ชั่น 2018 ขณะที่"มุ้ย" บ่นเวียดาย ส่วนการมาเล่น เจลีก ถือเป็นมิติใหม่ของผม พร้อมแล้วที่จะเจอสิ่งใหม่ๆ

ศึกลูกหนังถ้วยเอเชีย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2018 เพลย์ออฟ รอบ3  ที่สนามฮิตาชิ คาชิว่า ซ็อคเกอร์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอังคารที่ 30 มกราคม 2561  ระหว่างทีม"กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับทีม คาชิว่า เรย์โซล ทีมดังจาก เจลีก ญี่ปุ่น โดยทีมชนะจะได้ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม โดยอยู่ในกลุ่ม E ที่มี ชนบุค ฮุนได (แชมป์ เค ลีก), คิตฉี (แชมป์ลีกฮ่องกง) และ เทียนจิน ฉวนเจียน (จีน) หรือ เซเรส เนกรอส (ฟิลิปปินส์) รออยู่

ปรากฏว่า ทีม"กิเลนผยอง" ต้านไม่อยู่ พ่าย คาชิว่า เรย์โซลไป 0-3 ประตู ทำให้คาชิว่าฯเข้ารอบแบ่งกลุ่ม ส่วน เอสซีจี เมืองทองฯ ตกรอบเพยล์ออฟ รอบ 3 ไป

หลังเกม “โค้ชแบน”ธชตวัน ศรีปาน กุนซือ เอสซีจี เมืองทองฯ เผยว่า ทีมมีปัญหาในแนวรับก่อนเริ่มเกมนี้ เพราะ เซลิโอ ซานโตส ยังมีอาการบาดเจ็บ และ นาโออากิ อาโอยามะ ก็เจ็บจนทีมตัดสินใจไม่ส่งชื่อเจ้าตัวมาเล่นในการเพลย์ออฟ ตั้งแต่ช่วงรอบสอง

เกมนี้ทีมมีการปรับแท็กติกมาเล่นเกมรับ 5 คน เพราะว่า คาชิว่า เรย์โซล เป็นทีมที่เล่นบอลทะลุตามช่องได้ดี ผู้เล่นทุกคนมีทักษะ เทคนิค ค่อนข้างที่จะสูง นักเตะของเราทำได้ดีมีวินัยการเล่นยอดเยี่ยมในครึ่งแรก ทำให้เรายังไม่เสียประตู ทว่าครึ่งหลังเราปิดพื้นที่ไม่ดีเป็นที่มาของความพ่ายแพ้  ยอมรับว่าเจ้าบ้านสมควรเป็นผู้ชนะ

นอกจากนี้ “โค้ชแบน”ยังได้พูดถึงเกมไทยลีก 2018 ที่จะเปิดฉากวันที่ 9  กุมภาพันธ์นี้ โดยจะไม่มี "มุ้ย"ธีรศิลป์ แดงดา และ "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน ที่จะมาเล่นใน เจลีก กับ ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า กับ วิสเซล โกเบ ว่า “ทีมเราจะต้องเดินหน้าต่อไป เพราะว่าเราต้องหาจุดลงตัวที่สุดให้เร็วด้วย ในการปรับแท็คติกให้เหมาะสมกับทีมกับผู้เล่นที่มีอยู่ ซึ่งเป้าหมายเหมือนเดิมคือ ไทยลีก, ลีกคัพ และ เอฟเอ คัพ ต้องประสบความสำเร็จให้ได้”

“อย่างไรก็ตามผมเองก็อยากจะขอให้ 2  นักเตะ ทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน ประสบความสำเร็จ ได้เรียนรู้ เพื่อพัฒนาตัวเองในการเล่น เนื่องจาก เจลีก มีมาตรฐานที่สูงและมีคุณภาพระดับต้นๆของเอเชียแล้ว  เพื่อที่พวกเขาจะนำกลับมาใช้ในอนาคต ทั้งการกลับมาช่วยทีมชาติไทยไปจนถึงกลับมาช่วยสโมสรอีกด้วย”

“โค้ชแบน”ยังทิ้งท้ายอีกว่า “ทีมระดับ เจลีก พวกเขาเล่นภายใต้ความกดดันได้ดี โดยเฉพาะเกมเพรสซิ่ง มีทักษะสูงในการเอาตัวรอดในสนาม สามารรถเคลื่อนที่ หมุนตำแหน่ง จนมีความผิดพลาดที่น้อยมาก ส่วนของไทยอาจจะมีความผิดพลาดในการจ่ายบอล จะเห็นได้ว่าเราพยายามปรับมาตลอด”

ด้าน “มุ้ย”ธีรศิลป์ แดงดา ที่ลงเล่นให้กับ"กิเลนผยอง" เป็นเกมสุดท้ายก่อนจะไปร่วมทัพลุยเจลีกกับสโมสร ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ นี้ ได้เปิดใจหลังเกมว่า “ครึ่งแรกเราทำได้ดี ฟุตบอลเป็นเกมที่เล่น 90 นาที น่าเสียดาย เป็นประสบการณ์มี่ดีกับน้องๆทุกคน ส่วนการมาเล่น เจลีก ถือเป็นมิติใหม่ของผม พร้อมแล้วที่จะเจอสิ่งใหม่ๆที่เข้ามาในชีวิตของผมหลังจากนี้ไป”