ด้วยห่วงจริงๆ!!รองปลัดยธ.ย้ำกังวล"โค้ชเอก"โทษตัวเอง อีก12หมูป่าออกจากถ้ำ รู้ข่าวร้าย"จ่าแซม"กระทบจิตใจไม่ยอมลืม แนะใช้พุทธจิตวิทยาบำบัด!?

เเม้วันนี้เราได้ทราบข่าวดีสุดๆ เมื่อนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผบ.ศอร.ได้เเถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการช่วยเหลือทีมนักฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่แม่สาย 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ที่เนินนมสาว ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ระบุว่า  " วันนี้ 10.00 น. ได้ส่งนักดำน้ำ 13 คน เข้าไปปฏิบัติการลำเลียงในถ้ำเเล้ว น้องทั้ง13คนมีความพร้อมทางร่ายกายสูงมาก ยืนยันน้องทั้ง 13 พร้อมเเล้วที่จะออกจากถ้ำ ครอบครัวทราบหมดแล้วถึงภารกิจ และเห็นด้วยกับการดำเนินการลำเลียงน้องๆ ออกมา ประมาณ 21.00 น.จะเป็นรูปธรรมให้ทุกคนส่งกำลังใจและรอฟังข่าวดีที่จะเกิดขึ้น โดยเป็นการนำทยอยออกมา
 

เเต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเราได้ทราบข่าวร้าย กรณี จ.อ.สมาน กุนัน  หรือจ่าเเซม นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ ซึ่งเป็น นทต.จู่โจม รุ่น 30 อายุ 38 ปี เสียชีวิตขณะลำเลียงขวดอากาศ จากโถง3 ไปยังจุดต่างๆ บริเวณสามแยก  ขณะดำน้ำกลับ ได้หมดสติในน้ำ คู่ดำน้ำได้ทำการปฐมพยาบาล(CPR) แต่ไม่ได้สติ จึงนำกลับมายังโถงสามเพื่อปฐมพยาบาลอีกครั้งแต่ จ.อ.สมาน ก็ไม่ได้สติและเสียชีวิตลงเวลาประมาณ 01:00 น. 
 

ล่าสุดบนเฟซบุ๊ก ธวัชชัย ไทยเขียว ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ออกมาโพสต์ถึงกรณีจ่าเเซมว่า สิ่งที่ตนกลัวที่สุดในตอนนี้คือกลัวโค้ชเอกโทษตัวเองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์นี้อาจจะกระทบจิตใจอย่างรุ่นแรงของเด็กได้ และอาจนำไปสู่การพัฒนาเป็นโรคซึมเศร้าชนิดรุนแรงเฉียบพลัน หรือชนิดเรื้อรัง และทำร้ายตนเองได้ เพราะความรู้สึกนี้จะรบกวนจิตใจของเด็กตลอดเวลา

ทั้งนี้นายธวัชชัย ไทยเขียว  ได้ระบรายละเอียดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า " พุทธจิตวิทยาบำบัดกับการบำบัดแบบไทยๆที่ได้ผลและควรค่าแก่การนำมาใช้กับเด็กๆ ทั้ง ๑๓ คนในถ้ำหลวงน้ำนางนอนประเพณีปอยส่างลอง หรือ งานบวชลูกแก้ว เพื่อทำการบรรพชาเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนา โดยจะพบเห็นการจัดปอยส่างลองกันมากที่จังหวัดในภาคเหนือตอนบน คนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมประเพณีนี้ก็สืบเชื้อสายมาจากไทใหญ่ ซึ่งก็ได้ร่วมกันสืบทอดงานประเพณีนี้มาเป็นเวลาช้านานบนความเชื่อที่ยังคงสืบสานต่อมาจนถึงปัจจุบัน

ตามที่ผมตั้งข้อสังเกตว่า ผมกลัวมากที่สุด คือ กลัวว่าโค้ชเอกจะโทษตนเอง และสำนึกแบบสำคัญผิดว่า เหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของตนเอง และไม่ยอมยกโทษให้ตนเอง รวมถึงการเสียชีวิตของจ่าเอก สมาน กุนัน นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการในระหว่างการเข้าไปช่วยเหลือ หากเด็กทั้ง ๑๓ คนทราบหลังจากผ่านช่วยเหลือออกมาได้แล้ว ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งกระทบจิตใจอย่างรุ่นแรงของเด็กได้ และอาจนำไปสู่การพัฒนาเป็นโรคซึมเศร้าชนิดรุนแรงเฉียบพลัน หรือชนิดเรื้อรัง และทำร้ายตนเองได้ เพราะความรู้สึกนี้จะรบกวนจิตใจของเด็กตลอดเวลาแบบมิรู้ลืม

เมื่อประเทศไทยในภาคเหนือตอนบนความยังคงมีเข้มแข็งทางวัฒนธรรมอยู่ ดังนั้น ประเพณีปอยส่างลอง หรือ งานบวชลูกแก้ว เพื่อทำการบรรพชาเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนา อาจเป็นเครื่องมือจิตบำบัดที่สำคัญของเด็กกลุ่มนี้ ทั้งยังเป็นการบรรพชาเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้วีรบุรุษของพวกเขาและโลก คือ จ่าแซมไปเสียในคราวเดียวกันด้วยผมเชื่อว่า วิธีการนี้น่าจะเป็น “พุทธจิตวิทยาบำบัด” ได้เป็นอย่างดีและทรงประสิทธิภาพครับ

ขอให้กำลังใจเด็กและบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายด้วยหัวใจและความเคารพครับ