แนะแนวทางชีวิต “ซิติเซน” นาฬิกาดังชู“ตั้ม”ธนบูรณ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ พร้อมเตือนรุ่นน้องผิดหวังตกรอบแรกอชก.ให้ลุกขึ้นสู้ต่อ

 

   “ซิติเซน” นาฬิกาดังชู “ตั้ม”ธนบูรณ์ เกษารัตน์ นักฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ พร้อมออกโรงเตือนรุ่นน้อง นักเตะทีมชาติไทยที่ ผิดหวังตกรอบแรกเอเชียนเกมส์ให้ลุกขึ้นสู้ต่อ อย่าสนใจกับความคิดเห็นในโลก โซเชียล

   นายน้ำลึก พิชญาภรณ์ ผจก.แบรนด์ บริษัทศรีทอง พาณิชย์ จำกัด เป็นประธานเปิดตัว “ตั้ม”ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติไทย นักฟุตบอลไทยค่าตัวแพงที่สุดในไทยลีก 50 ล้านบาท เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์นาฬิกาชื่อดัง “ซิติเซน” (citizen) ที่ เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว

   “ตั้ม” ธนบูรณ์ เปิดใจว่า สำหรับการได้เป็นพรีเซนเตอร์ของนาฬิกา ซิติเซน CITIZEN ในวาระครบรอบ 100 ปีของนาฬิกายี่ห้อดังครั้งนี้ สร้างความภาคภูมิใจให้อย่างมาก โดยเฉพาะได้มีการจัดทำนาฬิการุ่นใหม่ PROMASTER Limited Edition โปรมาสเตอร์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่มีคุณสมบัติเบากว่านาฬิกาสแตนเลสถึง 40 % ให้ความคงทนสูง ดำน้ำระดับความลุก 200 ม. ผลิตจากเทคโนโลยี “ซูเปอร์ไททาเนียม” ติดตามได้ทาง www.citizen.co.th หรือ โทร 0-2694-1888

   “สำหรับในการเล่นฟุตบอลนั้น การกลับคืนสู่สนามฟุตบอลอีกครั้งหลังหยุดไปนานนับปี และพร้อมจะกลับมารับใช้ทีมชาติไทยและต้นสังกัด บางกอกกลาส เอฟซี สู้ศึกไทยลีกต่อไป โดยตอนนี้สภาพร่างกายเริ่มเข้าทีแล้ว”

 

  “ส่วนผลการแข่งขันฟุตบอลในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่อินโดนีเซีย เป็นเจ้าภาพของนักเตะทีมชาติไทยรุ่นน้องรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่นักเตะไทยผิดหวังกลับจากเอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย ด้วยการตกรอบแรก ก็อยากฝากถึงน้องๆ ทีมชาติ ทุกๆ คน ต้องใจเย็นและอดทนต่อความคิดเห็นและกระแสในโลกโซเชียล ดูการเล่นฟุตบอลในแต่ละนัดไม่ใช่น้องๆ เค้าไม่เก่งนะ ผมเองก็เคยร่วมงานกับบางคนมาแล้ว ยังรู้สึกชื่นชมฝีเท้าพวกเขา ทุกคนมีความสามารถ น้องๆ ทุกคนยังมีความคิดและสามารถพัฒนาฝีเท้าไปได้อีกมาก เพียงแต่ต้องรอบคอบและใจเย็นขึ้น ให้ดูรุ่นพี่ที่โตกว่าเป็นตัวอย่าง ถ้ารุ่นพี่ตักเตือนแนะนำอะไรก็ตาม ขอให้พวกน้องๆ ได้ดูรุ่นพี่เป็นตัวอย่างด้วย ทิ้งความผิดหวังที่ผ่านมา แล้วมองไปข้างหน้าเพื่อกลับมาพัฒนาตัวเอง เพราะหากเมื่อไหร่เราหยุดพัฒนา นั่นหมายถึงว่า เราไม่ใช่นักเตะมืออาชีพ”

     “ส่วนความเห็นส่วนตัวกรณีทีมชาติไทยจะใช้โค้ชต่างชาติหรือโค้ชไทยนั้น จากความใกล้ชิดของคนไทยนั้นย่อมจะเข้าใจนักเตะได้ดีกว่า แต่โค้ชต่างชาติก็ขึ้นอยู่กับว่า นักเตะต้องปรับตัวให้เข้ากับระบบการเล่นตามที่โค้ชวางไว้โดยเร็วได้หรือไม่”