- 16 พ.ค. 2562
โด๊ปตัวปัญหา สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เน้นนโยบายทีมชาติเบ่งกล้ามไร้โด๊ป พร้อมเปิดคัดนักกีฬาทั้งเพาะกาย และฟิตเนส เพื่อเตรียมส่งลุย 3 ราบการใหญ่ ทั้งอาเซียน เอเชีย และศึกโลก
โด๊ปตัวปัญหา สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เน้นนโยบายทีมชาติเบ่งกล้ามไร้โด๊ป พร้อมเปิดคัดนักกีฬาทั้งเพาะกาย และฟิตเนส เพื่อเตรียมส่งลุย 3 ราบการใหญ่ ทั้งอาเซียน เอเชีย และศึกโลก
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561 ร่วมด้วย นายวีระ ชลวานิช อุปนายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย, นายวิสูตร กองจินดา อุปนายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศ และมี นางสาวรุ้งรัชฎา ขาวคม ผู้แทนการกีฬาแห่งประเทศไทยประเทศไทย ร่วมสังเกตุการณ์โดยมีสโมสร ทั้งหมด 30 สโมสรเข้าร่วมประชุม ที่ห้องเอเวอร์กรีน ชั้น 5 โรงแรมอเล็กซานเดอร์ โดยมีวาระสำคัญดังนี้
การรับรองงบดุลของสมาคมฯ ใน วันที่ 31 ธ.ค. 61 ซึ่งรายได้สุงกว่ารายจ่าย 2,617,186,35 บาท และรับรองผู้ตรวจสอบบัญชี นายวินัย นิยโมสถ ให้เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีของสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทยต่อเนื่อง
นอกจากนี้วาระสำคัญก็คือการส่งนักกีฬาไปร่วมการแข่งขัน 3 รายการใหญ่ประกอบด้วย เพาะกายและฟิตเนส เซาท์อีส เอเชียน 2019 ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ค. 2562 ที่ เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา, เพาะกายและฟิตเนสชิงชนะเลิศแห่งเอเซีย ระหว่าง 12-18 ก.ย. 62 ที่ อินเนอร์มองโกเลีย เขตปกครองพิเศษจีน, เพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ในเดือนพฤศจิกายน ที่ ประเทศเกาหลีใต้
และอีกเรื่องที่สำคัญ คือ เรื่องของนโยบายการต่อต้านและป้องกันสารกระตุ้น ซึ่งนักกีฬาทุกคนต้องตระหนักในเรื่องพิษภัยของสารต้องห้าม และนักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนต้องเข้าร่วมเซ็นสัญญาในการตรวจสารกระตุ้นทุกคน
หลังจากประชุมได้มีการคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติไทยที่จะส่งเข้าร่วมการแข่งขัน 3 รายการใหญ่ ซึ่งคัดมากจากกลุ่มแรก อันดับ 1 เซาท์อีสเอเซีย, อันดับ 1-3 ชิงแชมป์เอเซีย, อันดับ 1-3 ชิงแชมป์โลก กลุ่มที่สอง นักกีฬาที่ได้แชมป์ของรายการชิงแชมป์ประเทศไทย และกลุ่มที่สามคือ กลุ่มที่ทีมโค้ชเล็งเห็นในศักยภาพซึ่งผู้ที่มีสิทธิ์คัดเลือกที่มาทั้งหมด 86 คน โดยภายหลังจากดูความพร้อมของนักกีฬาแล้วทางสมาคมฯ จะทำการประชุมและประกาศรายชื่ออีกครั้ง
ด้านนายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับปีนี้ทางสมาคมฯ เน้นมากในเรื่องของโครงการ เพาะกายไร้น้ำยา (โด๊ป) ซึ่งเราได้มีการรณรงค์มาตั้งแต่แรกและให้นักกีฬาตระหนักถึงโทษของสารต้องห้าม และในครั้งนี้ใครที่ติดทีมชาติก็ต้องเซ็นสัญญากับเราในเรื่องของการตรวจสารกระตุ้นไม่ว่าเวลาใดก็ตาม และสำหรับปีนี้เรามี 3 รายการใหญ่ก็คือ พาะกายและฟิตเนส เซาท์อีส เอเชียน 2019 ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ค. 2562 ที่ เมืองย่างกุ้ง เมียนมา, เพาะกายและฟิตเนสชิงชนะเลิศแห่งเอเซีย ระหว่าง 12-18 ก.ย. 62 ที่ อินเนอร์มองโกเลีย เขตปกครองพิเศษจีน , เพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ในเดือนพฤศจิกายน ที่ ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเราตั้งเป้าว่าเราจะสามารถครองเจ้าเหรียญทองทั้ง ในระดับเซาท์อีสเอเซีย, ชิงแชมป์เอเซีย และชิงแชมป์โลก