ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ถือเป็น 2 นักบิดไทยที่ทำผลงานยอดเยี่ยมและสร้างประวัติศาสตร์ สำหรับ “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวแกร่งชาวไทยควงคู่ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ทีมเมทดาวรุ่ง คว้าแชมป์บิดมาราธอนนานาชาติสุดหฤโหด “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” 


ถือเป็น 2 นักบิดไทยที่ทำผลงานยอดเยี่ยมและสร้างประวัติศาสตร์ สำหรับ “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวแกร่งชาวไทยควงคู่ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ทีมเมทดาวรุ่ง คว้าแชมป์บิดมาราธอนนานาชาติสุดหฤโหด “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” 
เป็นความสำเร็จที่น่ายกย่องสำหรับการคว้าแชมป์ครั้งนี้
เป็นครั้งแรก ที่ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์” สร้างผลงานกระหึ่มสนามระดับโลก! พาทีมไทย 100% จารึกประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์บิดมาราธอนนานาชาติสุดหฤโหด “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” นำธงไตรรงค์โบกสะบัดที่ญี่ปุ่น
“มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวแกร่งชาวไทยควงคู่ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ทีมเมทดาวรุ่ง ผนึกกำลังทีมงานคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ สร้างประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์ในศึกเอ็นดูรานซ์นานาชาติสุดโหด รายการ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019” ส่งเพลงชาติไทยดังกระหึ่มสนามระดับโลก ซูซูกะ เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบมาราธอนนานาชาติสุดหฤโหด รายการ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศที่ สนาม ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีระยะทางต่อรอบ 5.821 กิโลเมตร
สำหรับรายการนี้ “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ยอดทีมแข่งไทยร้อยเปอร์เซ็นต์นำโดย“มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวแกร่งที่จับคู่กับ“ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ นักบิดดาวรุ่งจากโครงการ เรซทูเดอะดรีม ลงทำการแข่งขัน
เริ่มต้นการแข่งขันวันแรก จากรอบควอลิฟายภายใต้รถแข่ง Honda CBR600RR (ฮอนด้า ซีบีอาร์600อาร์อาร์) หมายเลข149
ตามกฎการแข่งขันของซูซูกะ 4 ชั่วโมงเอ็นดูรานซ์ เรซ ระบุให้มีการควอลิฟาย2 ช่วงสำหรับนักบิดทั้่ง2 คนเพื่อเอาเวลามารวมกันเพื่อใช้จัดอันดับสตาร์ทโดย “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ทำหน้าที่เป็นนักบิดคนแรกที่ลงจับเวลาในรอบควอลิฟาย Q1 คิว 1 ก่อนจะสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมรั้งอันดับ2 ด้วยเวลาต่อรอบ2 นาที17.486 วินาทีตามหลังผู้นำเพียง1.569 วินาทีเท่านั้น
ส่วน“มุกข์” มุกข์ลดาลงทำหน้าที่เป็นนักบิดคนที่2 เพื่อจับเวลาในรอบควอลิฟาย Q2 คิว 2 โดยสามารถกดเวลามาเป็นอันดับ1 ด้วยเวลาต่อรอบ2 นาที17.031 วินาทีเหนืออันดับ2 อยู่ 0.496 วินาที

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

 

 


เมื่อรวมผลการควอลิฟายทั้ง2 ช่วงปรากฏว่าเอ.พี.ฮอนด้าเรซซิ่งไทยแลนด์ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่2 ในศึกซูซูกะ4 ชั่วโมงเอ็นดูรานซ์เรซ 2019 ด้วยเวลาเฉลี่ย 2 นาที 17.258 วินาที มีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ในนามทีมคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์
สำหรับในวันสุดท้าย ยอดทีมแข่งไทยอย่าง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่นำโดย “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งและ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ พร้อมด้วยทีมช่างไทยรอยเปอร์เซ็นต์ ลงแข่งขันเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่การซ้อมครั้งแรก โดยสามารถคว้ากริดสตาร์ทอันดับที่ 2 มาครอง
เกมในรอบชิงชนะเลิศออกสตาร์ทท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนของประเทศญี่ปุ่น โดย มุกข์ลดา รับหน้าที่เป็นนักบิดไม้แรก และออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะร่วงลงไปอยู่ในอันดับ 3 ได้ก็สามารถกลับมาเป็นผู้นำได้ในรอบที่ 4 และที่รักษาตำแหน่งผู้นำได้อย่างเหนียวแน่น ทิ้งห่างอันดับ 2 ไปถึง 8.2 วินาที ในช่วง 55 นาทีแรก ก่อนจะนำรถเข้ามาเติมน้ำมันและเปลี่ยนตัวนักบิด ส่งไม้ต่อให้ ปิยวัฒน์ ลงไปทำหน้าที่ต่อในชั่วโมงที่ 2 ของการแข่งข
ขณะที่สภาพอากาศยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ปิยวัฒน์ ออกมาทำหน้าที่ได้อย่างไร้ที่ติ ทิ้งระยะห่างจากทีมอันดับ 2 อย่าง ยามาฮ่า อินโดนีเซีย & อิโต เรซซิ่ง ออกไปถึง 21.8 วินาที โดยดาวรุ่งจากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ของ เอ.พี.ฮอนด้า ทิ้งห่างคู่แข่งออกไปร่วม 1 นาที กับการแข่งขันชั่วโมงท
จากนั้น เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ทำการเปลี่ยนตัวนักบิดอีกครั้ง เพื่อให้ มุกข์ลดา ลงมาทำหน้าที่ต่อ โดยหลังจากเติมน้ำมันและเปลี่ยนตัว ทีมไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ลงสู่สนามอีกครั้งด้วยการเป็นผู้นำ และทิ้งห่างคู่แข่งออกไปถึง 2 รอบสนาม
ในช่วง 2 ชั่วโมง 40 นาที ของการแข่งขันมีรถแข่งพลาดล้มอย่างรุนแรง กรรมการต้องตัดสินใจตีธงแดงเพื่อยุตติการแข่งขันชั่วคราว รถทุกคันต้องกลับเข้าพิต โดย มุกข์ลดา ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำได้อย่างเหนียวแน่น
อย่างไรก็ดี จากสภาพอากาศที่มีฝนตกลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้กรรมการประกาศยุตติการแข่งขัน ส่งผลให้ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ภายใต้รถแข่ง Honda CBR600RR (ฮอนด้า ซีบีอาร์600อาร์อาร์) หมายเลข 149 คว้าแชมป์ประวัติศาสตร์จากผลงานของคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นทีมแรก ด้วยจำนวนรอบทั้งสิ้น 62 รอบสนาม คิดเป็นระยะทาง 360.902 กิโลเมตร

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”
 

โดยทั้ง มุกข์ลดา และ ปิยวัฒน์ ได้ฉลองแชมป์บนโพเดี้ยม และร้องเพลงชาติไทยกระหึ่ม สนาม ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับทีมงานคนไทย และแฟนชาวไทยที่ตามเข้าชมอย่างยิ่งใหญ่ เป็นการสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ครั้งแรกของทีมคนไทยแบบร้อยเปอร์เซ็นต์
นาย อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ปีนี้การทำงานมีความก้าวหน้าขึ้นเราคือทีมไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ สำหรับผลควอลิฟาย ถือว่าทำได้น่าพอดีทีมงานและนักบิดของเราทั้ง มุกข์ลดา และ ปิยวัฒน์ ทำผลงานได้ดีกว่าเดิมมากจากการเรียนรู้ความผิดพลาดในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกมในรอบชิงชนะเลิศของซูซูกะ4 ชั่วโมงเราจะสามารถคว้าแชมป์ไปฝากคนไทยได้
มุกข์ลดา เปิดใจว่า “ดีใจมากที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ได้สำเร็จ ตั้งแต่วันแรกค่อนข้างพอใจกับเวลาที่ทำได้ในการควอลิฟายและการทำงานโดยรวมของทีมที่พัฒนาขึ้นอย่างมากต้องขอบคุณทีมงานที่ทำงานกันอย่างหนักจนได้รถแข่งที่ออกมาสมบูรณ์แบบ จนมาถึงรอบชิงชนะเลิศสิ่งที่น่ากังวลคือสภาพอากาศที่ส่งผลต่อการเซ็ตอัพ เนื่องจากมีฝนตก ทำให้ต้องทำการบ้าน และเตรียมวางแผนรับมือไว้อย่างดี จนสามารถต่อสู้เพื่อขึ้นไปยืนบนโพเดี้ยมได้สำเร็จ จนสามารถคว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้สำเร็จ”
ผลงานครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จของ“มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งและ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ที่สร้างชื่อให้นักบิดไทยทำผลงานสนั่นโลก
     ลิตเติ้ลพี

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แชมป์ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” ในกำมือของ “มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์”