สำแดงเดช !!! เมื่อโจรสลัดชื่อดัง บังอาจใช้อาคมสะกดเรือกองทัพไทยไม่ให้แล่น!! คิดว่าแน่ แต่ยังแพ้บารมีกรมหลวงชุมพรฯ #บุญฤทธิ์เสด็จเตี่ย

สำแดงเดช !!! เมื่อโจรสลัดชื่อดัง บังอาจใช้อาคมสะกดเรือกองทัพไทยไม่ให้แล่น!! คิดว่าแน่ แต่ยังแพ้บารมีกรมหลวงชุมพรฯ #บุญฤทธิ์เสด็จเตี่ย

สำแดงเดช !!! เสด็จเตี่ย ปล่อยควายธนู กำราบเสืออาคมของโจรสลัดสัตหีบ ....เมื่อบังอาจใช้อาคมสะกดเรือกองทัพไทยไม่ให้แล่นด้วยพลังจิตขั้นสูง ...

ที่สัตหีบ มีหลวงพ่อ อี๋ วัดสัตหีบ เป็นเกจิจอมอาคมแล้วยังมีฆราวาสชื่อ นายกัน ก็ได้รับการยกย่องว่า เป็นจอมอาคมอีกผู้หนึ่ง นายกันผู้นี้โด่งดังจนถึงกับตั้งเป็นชื่ออ่าวบริเวณสัตหีบว่า อ่าวตากัน อายุแก่กว่าหลวงพ่ออี๋ เคยบวชเรียน แต่ร้อนวิชา ลาสิกขา ปลูกกระต๊อบอยู่บนหน้าผาแห่งหนึ่ง (อ่าวตากัน) ร้อนวิชา จนสร้างความเดือดร้อนแก่นักเดินเรือทั่วไป นายกัน หรือ ตากัน จะใช้วิชาอาคม สะกดเรือ ใหญ่ทุกลำที่แล่นเข้ามาในรัศมีด้วยพลังจิต ไม่ให้เรือแล่นต่อไป เครื่องหยุดเดิน แล้วตากันจะใช้ลูกศิษย์ นำเรือเทียบขอค่าผ่านทาง ผู้ใดไม่ให้ ก็จะแสดงปาฏิหาริย์ไม่ให้เรือแล่นต่อไป ถ้าผู้ใดให้ ก็จะทำให้เครื่องติด เดินทางไปได้อย่างอัศจรรย์ ชาวเรือหวาดกลัวกันมาก และแล้วตากันก็สำแดงเดชผิดที่ เพราะไปสะกดเอาเรือกองทัพเรือเข้า เรื่องจึงถึงเสด็จเตี่ย เกิดเป็น ศึกอาคม ระหว่าง เสด็จเตี่ย กับ ตากัน เรื่องราวความกำแหง โหด ป่าเถื่อน ของตากัน เข้าถึงพระกรรณเสด็จเตี่ย ทรงกริ้วอย่างมาก ถึงกับเสด็จมาด้วยพระองค์เอง การปะทะกันด้วยอาคมจึงเกิดขึ้น วันนั้น ตากันนั่งอยู่ในกระท่อม พลันปรากฏมีฝูงผึ้งใหญ่ บินเข้าจะต่อยตีตากัน แต่ตากันก็เอาผ้าขาวม้าโบกพัด จนผึ้งตกลงมา กลายเป็นใบไม้ ตากันก็รู้ทันทีว่า เจอคนดีเข้าแล้ว ตากันปล่อยเสืออาคมเข้าใส่ เสด็จเตี่ยปล่อยควายธนูออกมา ต่างสู้กันฝุ่นตลบไม่แพ้ชนะ ผลสุดท้าย ตากันโยนผ้าขาวม้าสงบศึก เป็นพันธมิตร และกลายเป็นพระสหายต่างวัยกัน

ครั้งหนึ่งตากันเคยคุยโอ้อวดว่า ตนเคยลงไปเดินในทะเลเป็นครึ่งข่อนวัน เสด็จเตี่ยโปรดคนจริง จึงมีรับสั่งให้มัดตากันไว้ในกระสอบแล้วถ่วงในทะเลเป็นเวลา ๑ วัน เมื่อครบก็ดึงตากันขึ้นมาปรากฏว่าตากันนั่งอยู่ในท่าสมาธิ หัวเราะร่า แถมยังไม่เปียกเลยสักนิด เสด็จในกรมจึงตั้งชื่อให้อ่าวแห่งนั้นว่า อ่าวตากัน หรือ อ่าวดงตาล ในปัจจุบัน

ภายหลังเมื่อเสด็จต้องการสำรวจพื้นที่ สร้างกองทัพ ตากันได้มีส่วนร่วมรับใช้พระองค์ และย้ายมาอยู่บริเวณหลังตลาดสัตหีบ นี่คือที่มาของความผูกพันระหว่างเสด็จเตี่ย หลวงพ่ออี๋ และตากัน จอมอาคม

สำแดงเดช !!! เมื่อโจรสลัดชื่อดัง บังอาจใช้อาคมสะกดเรือกองทัพไทยไม่ให้แล่น!! คิดว่าแน่ แต่ยังแพ้บารมีกรมหลวงชุมพรฯ #บุญฤทธิ์เสด็จเตี่ย

สำแดงเดช !!! เมื่อโจรสลัดชื่อดัง บังอาจใช้อาคมสะกดเรือกองทัพไทยไม่ให้แล่น!! คิดว่าแน่ แต่ยังแพ้บารมีกรมหลวงชุมพรฯ #บุญฤทธิ์เสด็จเตี่ย

เรื่องราวการประลองอาคมของเสด็จฯ ยังไม่จบเพียงแค่นี้ ด้วยความที่ชื่อเสียงของกรมหลวงฯท่านนั้นโด่งดังมากโดยเฉพาะเรื่องความขมังเวทย์ของท่าน ที่ไม่เป็นรองใครเพราะถือว่าเป็นผู้มีอาจารย์ที่ดีเลิศคือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นอาจารย์ที่เรืองเวทย์และประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่กรมหลวงฯ ท่านได้เรียนมาหลายวิชา แต่ละวิชาก็ถือว่าสุดยอดทั้งนั้น

วันหนึ่งชื่อเสียงความโด่งดังของกรมหลวงฯท่านนั้นแว่วไปถึงหูอาจารย์แปลก ซึ่งลอยเรืออยู่ในคลองพระอุดม อาจารย์แปลกจึงคิดอยากจะลองวิชากับกรมหลวงฯสักคราว ว่าชื่อเสียงที่เล่าลือกันนั้นจะเก่งแท้สักขนาดไหน อ.แปลกท่านเรียนวิชามามาก มีความชำนาญสูงและด้วยความที่ว่าท่านร้อนวิชาอยู่เสมอจึงต้องอยู่ในแพ แล้วให้แพ ลอยไปเรื่อยๆ สุดท้ายท่านมายอมเป็น ศิษย์สายหลวงปู่เอี่ยม แห่งวัดสะพานสูง ความขลังและเรืองวิชาของท่านนั้นมีมากมาย แม้ในขณะหลับ มีคนอยากทดสอบว่าท่านเหนียวจริงไหมตอนหลับ จึงย่องมาตอนท่านหลับแล้วแอบเฉือนแขนท่านไป3ที มีดหาได้ระคายผิวท่านไม่ โดยท่านได้เล่าให้ศิษย์ฟังถึงเรื่องที่ท่านจะทำว่า จะเข้าไปเมืองหลวง จะไปขอข้าวลูกท่านหลานเธอกิน

หลังจากนั้นอาจารย์แปลกก็ไม่ได้อยู่ที่เรือที่ท่านอาศัย และได้จอดเทียบท่าอยู่ที่ท่าน้ำวัดสะพานสูง แล้วให้ศิษย์คอยเฝ้าเรือของท่านไว้ ท่านจะไม่อยู่สักพัก ในขณะเดียวกันที่วังของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ก็ได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น

เรื่องของเรื่องก็คือ ในห้องเครื่องต้น (ห้องจัดเตรียมอาหารในวัง) ได้มีคนลอบเข้ามาขโมยกินข้าวหัวหม้อหรือข้าวต้นหม้อ ซึ่งเป็นข้าวที่จะถวายสำรับแก่กรมหลวงฯ เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในทุกๆมื้ออาหารที่จะนำถวายสำรับแก่กรมหลวงฯ และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอยู่หลายวัน แต่ได้มีการปกปิดเรื่องไว้ จนกระทั่งสุดท้ายวันหนึ่งความก็หลุดไปถึงกรมหลวงฯเข้า ท่านโกรธมากเป็นฟืนเป็นไฟ ว่าใครที่มาทำกับท่านแบบนี้ ถ้าจับได้ ท่านจะนำไปประหาร

สำแดงเดช !!! เมื่อโจรสลัดชื่อดัง บังอาจใช้อาคมสะกดเรือกองทัพไทยไม่ให้แล่น!! คิดว่าแน่ แต่ยังแพ้บารมีกรมหลวงชุมพรฯ #บุญฤทธิ์เสด็จเตี่ย

กรมหลวงฯจึงวางแผนตั้งเวทย์ค่ายกลเพื่อดักจับโจรขโมยกินข้าวท่านให้ได้ พระเวทย์ค่ายกลนี้ถ้าเป็นคนธรรมดาหรือไม่เก่งวิชาจริงคงไม่รอด โดยที่ทุกครั้งที่ที่ดักจับ โจรดังกล่าวก็หลุดหนีไปได้ทุกทีด้วยมนต์กำบังกายขั้นสูง จนกรมหลวงฯท่านแทบจะทนไม่ได้ที่ยังจับโจรดังกล่าวไม่สำเร็จ จึงได้ไปขอวิธีและข้อชี้แนะจากอาจารย์ของท่านคือหลวงปู่ศุข หลังจากที่ได้วิธีที่น่าจะใช้จับโจรได้แล้ว กรมหลวงฯท่านก็ดำเนินการวางแผนอย่างแยบยลและเคร่งครัด จนกระทั่งแผนดังกว่างนั้นได้สำเร็จผล คือจับโจรที่ขโมยกินข้าวต้นหม้อได้

จากนั้นก็นำไปคุมขังเพื่อให้ปริปากเอ่ยว่าเป็นใคร ทำไมถึงทำอย่างนั้น ขณะนั้นอาจารย์แปลกท่านไม่ได้เอ่ยปากใดๆแก่ทหารองค์รักษ์เลยแม้แต่น้อย ท่านเม้มปิดปากอยู่ตลอดเวลาบางครั้งก็พึมพำๆ โดยคำสั่งที่ทหารได้รับมอบมาจากกรมหลวงว่าจะต้องสอบปากคำให้จงได้ ทหารดังกล่าวจึงคิดที่จะใช้วิธีทรมานผู้ต้องขัง (อาจารย์แปลก) ด้วยวิธีต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งมีด ทั้งปืน ไม่ได้กินเนื้อกินเลือดท่านเลยแม้แต่น้อยนิด เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนตกถึงตอนค่ำ โจรขโมยข้าวที่ถูกคุมขังได้หลุดหนีออกไปได้อย่างง่ายดาย โซ่ตรวนและกรงขัง ท่านเป่าหลุดหมด

ก่อนหนี ท่านกำบังกาย และก็ได้ลอบเข้าไปในห้องบรรทมของกรมหลวงฯ แล้วเข้าไปกระซิบข้างๆหูว่า ท่านเป็นศิษย์ของอาจารย์ใหญ่ ผู้เป็นหนึ่งในปากเกร็ด ที่ลอบเข้ามาก็เพื่อแค่จะทักทายท่านฯเพราะได้ข่าวถึงเรื่องความขมังเวทย์ของ ท่านฯ มิได้คิดจะทำเรื่องใหญ่โตอะไร ต่างฝ่ายต่างมีอาจารย์ดีทั้งคู่ ก่อน อันตรธาน หายไป ตื่นเช้ามากรมหลวงฯท่านจึงเรียกมหาดเล็กคนที่มีพื้นเพในพื้นที่ปากเกร็ด มาสอบถามถึง อาจารย์ใหญ่แห่งปากเกร็ดคือใคร จึงได้ความว่าผู้ที่ลอบเข้ามาขโมยกินข้าวท่านก็คืออาจารย์แปลก ร้อยบาง ผู้เป็นศิษย์หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ปากเกร็ด นนทบุรีนั่นเอง

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก พระประวัติพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

เพจพระเกจิตำราสายวัดประดู่ทรงธรรมจ.อยุธยาและเครื่องรางทั่วไป

เพจคนรักเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ , palungjit , AppGeji  

ราเมศวร  บัวสุวรรณ   เรียบเรียง