ตะกรุดพันเข้ากับลูกระเบิดแล้วขว้างออกไป..ด้านสนิท "หลวงพ่อพริ้ง" ศิษย์หลวงปู่ศุข หลวงพ่อเดิม..แม้แต่มีด ปืนทำอะไรท่านไม่ได้เลย..

หลวงพ่อพริ้ง วัดช้างเผือก เกจิที่มีร่างเป็นอมตะ

หลวงพ่อพริ้ง ถาวโร วัดช้างเผือก ท่านเป็นเกจิอาจารย์แห่งเมืองชัยนาท อีกองค์หนึ่ง ที่คนชัยนาทให้ความเคารพมาก ท่านเป็นศิษย์ปรมาจารย์ใหญ่ถึงสองจังหวัด โดยท่านเป็นศิษย์เรียนกับหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ตั้งแต่ยังเล็กๆ

ต่อมาหลวงปู่ศุขมรณภาพแล้ว ท่านก็ไปเรียนกับครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน จนตอนหลังเกิดร้อนวิชา กระทั่งอยู่บ้านยังอยู่ไม่ได้ ต้องเตลิดเปิดเปิงเข้าไปอยู่ป่า ท่านได้เดินทางไปหาคนแก้ให้ ตั้งหลายคน แต่ไม่มีแก้ให้ท่านได้

ต่อมา ท่านได้ยินชื่อหลวงพ่อเดิม จึงเดินทางไปหาที่วัดหนองโพ หลวงพ่อเดิมได้แก้ความร้อนวิชาจนสงบระงับ ท่านจึงเกิดความเคารพในตัวหลวงพ่อเดิมมาก

ท่านจึงขอบวชกับหลวงพ่อเดิม ได้เป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อเดิมมาก อยู่อุปฐากหลวงพ่อเดิม จนหลวงพ่อเดิมมรณภาพ จากนั้นท่านจึงออกธุดงค์ จนตอนหลังมาอยู่วัดช้างเผือก

ตัวหลวงพ่อพริ้งนั้น นับว่าอยู่ยงคงกระพันยิ่งนัก สำนักสักที่ดังๆ มักถูกท่านลอง ท่านแกล้งไปหา และขอให้สักให้ท่านหน่อย ปรากฎว่าเข็มสักอันแหลมคมแทงหนังท่านไม่เข้า จน อ.สักบางท่าน ถึงกับมาขอเป็นลูกศิษย์ท่าน

วัตถุมงคลของท่าน จะโด่งดังนัก เรื่องคงเรื่องอุด แต่ที่มีคนลองของท่าน ที่สาหัสสากรรจ์จริง เรื่องนี้เกิดตอนท่านไปแจกวัตถุมงคลที่ประเทศลาว ดังมีเรื่องเล่าดังนี้

ตะกรุดพันเข้ากับลูกระเบิดแล้วขว้างออกไป..ด้านสนิท "หลวงพ่อพริ้ง" ศิษย์หลวงปู่ศุข หลวงพ่อเดิม..แม้แต่มีด ปืนทำอะไรท่านไม่ได้เลย..

หลวงพ่อพริ้ง

ด้วยความกระเดื่องในเรื่องฤทธิ์ของท่านนี้เป็นที่เชื่อถือกันมากในแวดวงทหารตำรวจ โดยเฉพาะทหาร ถึงขนาดที่ว่านายทหารยศระดับนายพลท่านหนึ่งของประเทศลาวเคยอาราธนานิมนต์ท่านไปยังประเทศของตน หลวงพ่อพระครูศักดิ์ วัดบ่อแร่เล่าให้ฟังว่าการข้ามไปฝั่งลาวในคราวนั้นสร้างชื่อเสียงให้แก่ท่านเป็นอย่างมาก เหตุเพราะนายพลท่านนั้นทำการทดลองอานุภาพตะกรุดของหลวงพ่อโดยเอาตะกรุดทั้งเส้นพันเข้ากับลูกระเบิดแล้วถอดสลักขว้างออกไป ผลปรากฎว่าระเบิดมือที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสูงกลายเป็นลูกน้อยหน่าไปโดยฉับพลัน เมื่อกลไกของลูกระเบิดไม่ทำงาน ลูกระเบิดไม่ดังแต่หลวงพ่อดังยิ่งกว่าระเบิด พระมหาเปรียญของประเทศลาวที่อยู่ในเหตุการณ์ในขณะนั้นถึงกับขอติดตามท่านมายังเมืองไทยเพื่อศึกษาวิชาจากท่าน

ตะกรุดพันเข้ากับลูกระเบิดแล้วขว้างออกไป..ด้านสนิท "หลวงพ่อพริ้ง" ศิษย์หลวงปู่ศุข หลวงพ่อเดิม..แม้แต่มีด ปืนทำอะไรท่านไม่ได้เลย..

ท่ามกลางดงเสือดงจระเข้ในแถบบ้านป่าผาดอนอย่างบ้านโพธิ์ทองในสมัยก่อนนั้น ถ้าหากพระสงฆ์องค์เจ้าที่มาอยู่ไม่แน่จริง เป็นอันต้องเผ่นแนบเป็นแน่แท้ แม้แต่หลวงพ่อตอนที่ท่านมาอยู่วัดช้างเผือกใหม่ๆก็ยังไม่วายที่จะถูกลองดี คงจะเป็นพวกเสือในแถบนั้นมันคงคิดจะลองวิชาท่าน ท่านเล่าให้ผู้ใหญ่วนฟังว่า “เมื่อคืนสงสัยมีคนมาแอบยิงข้าว่ะ เสียงดังเปรี๊ยะๆข้าก็เอาไฟฉายส่อง มันก็วิ่งแน่บไป” ถือว่าหลวงพ่อท่านผ่านด่านแรกไปได้อย่างสบายๆ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องปืนผาหน้าไม้เท่านั้นในด้านความอยู่ยงคงกระพันก็เช่นกันเชื่อกันว่าหลวงพ่อสำเร็จวิชาคงกระพันขั้นสูงเลยทีเดียว เพราะทุกครั้งที่ท่านป่วยไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทิ่มเข็มให้ทะลุผิวหนังของท่านได้นอกจากท่านจะฉีดของท่านเอง แม้แต่เส้นผมหนวดเคราท่านก็อยู่คงต่อคมมีดโกนด้วยเช่นกันทุกวันปลงท่านจะต้องทำการปลงผมของท่านเองทุกครั้ง ในสมัยนั้นอาจารย์สักยันต์ที่ไหนดังๆท่านมักจะไปลองเสมอ สุดท้ายอาจารย์สักเหล่านั้นก็ต้องยอมสิโรราบต่อหลวงพ่อถึงกับขอเป็นศิษย์บ้างก็มี เหตุเพราะไม่ว่าจะแทงเข็มสักอย่างไรปลายเข็มอันแหลมคมก็ไม่สามารถทะลุผ่านผิวหนังของท่านไปได้ หลวงพ่อพระครูศักดิ์ วัดบ่อแร่ เล่าว่าสมัยที่หลวงพ่อพริ้งท่านมาจำวัดที่บ่อแร่ท่านเคยแสดงวิชาชักสังวาลให้ดู คาถาของท่านจะออกเสียงเป็นภาษาแขก เมื่อท่านบริกรรมคาถาขนตามเนื้อตามตัวของท่านจะลุกซู่ชูชันอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่หมาวัดที่ได้กินข้าวก้นบาตรของท่านก็ยังยิงไม่เข้า เรื่องหมาวัดหนังเหนียวนี้ชาวบ้านหนองไม้แก่นรู้กันดีเพราะได้เคยไล่ยิงกันมาแล้ว แต่ทั้งนั้นก็ด้วยไม่รู้ว่าเป็นหมาของหลวงพ่อนั่นเอง ส่วนทางด้านลาภลอยเล่าลือกันว่าหลวงพ่อก็ฉมังนักในการให้หวย วิธีการให้ของท่านมักจะเป็นการบอกตัวเลขแบบตรงๆเลยไม่ต้องอ้อมค้อมหรือบอกใบ้เป็นนัยๆแบบคณาจารย์ท่านอื่นๆ

 

ตะกรุดพันเข้ากับลูกระเบิดแล้วขว้างออกไป..ด้านสนิท "หลวงพ่อพริ้ง" ศิษย์หลวงปู่ศุข หลวงพ่อเดิม..แม้แต่มีด ปืนทำอะไรท่านไม่ได้เลย..

 

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้