สวรรค์บนดินแท้ๆ ! หนุ่มตัดสินใจควักเงินแสน รีโนเวทบ้านเก่า อายุ 20 ปี สภาพปลวกแทะเกือบทั้งหลัง (ภาพ)

              เชื่อว่าทุกคนมีสไตล์บ้านที่ชื่นชอบเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น บวกกับเงื่อนไขต่าง ๆ ของบ้านด้วยแล้ว ทำให้บ้านในฝันและไอเดียการรีโนเวทบ้านของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน สำหรับคนที่กำลังสนใจตกแต่ง ต่อเติม ใครไม่มีไอเดียงั้นลองมาดู ของคนนี้ที่ได้มาเปิดเผยการทำบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ อายุกว่า 20 ปี ด้วยเงินเพียง 5 แสน บาท โดยหนุ่มรายนี้ได้มาเปิดเผยในเว็บพันทิฟพอข้อความ

 

"เหตุผลหลักๆที่อยากเขียน คือ ก่อนหน้าที่ผมตัดสินใจรีโนเวทบ้านหลังนี้ ผมหาข้อมูลการรีโนเวทบ้านที่มีลักษณะคล้ายๆกับบ้านของผมมาเยอะมาก ซึ่งหายากพอสมควรครับ ตรงบ้างไม่ตรงบ้าง เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆครับ เลยเกิดความคิดว่าในตอนนี้เรามีข้อมูลแล้ว ถ้าเอามาแชร์ให้ทุกคนได้อ่าน น่าจะมีประโยชน์บ้าง จึงตัดสินใจทำรีวิวอันนี้ขึ้นมาครับ (ขอแจ้งก่อนนะครับว่าตอนนี้บ้านของผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ผมเก็บข้อมูลไว้ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จครับ และภาพทั้งหมดเป็นภาพที่ถ่ายด้วยมือถืออาจจะไม่สวยงามากนะครับ)"

 

คลิป

 

 

 

ชั้นสองก่อนปรับปรุงนะครับ สภาพซุกโทรมใช้ได้เลยครับ ปลวกแทะไปประมาณ 80%

 

 

 

           ก่อนจะทำการรื้อออก ก็ได้ปรึกษาและคุยกับช่างแล้วครับ ว่าจะทำออกมาประมาณไหน (แต่ขอไม่บอกนะครับ รอชมไปเรื่อย ๆ ๆ) อย่างแรกที่ทำก่อนรื้อบ้าน พี่ชายช่วยหาซื้อต้นไม้ให้ครับ เพื่อโค่นเอาไม้มาทำหน้าต่างใหม่ คิด ๆ ดูแล้วจะประหยัดเงินกว่าการไปซื้อหน้าต่างสำเร็จรูปครับ ค่าใช้จ่ายซื้อต้นไม้ 8,000 บาท ค่าเลื่อย 8,000 บาท ได้ไม้มาตามภาพนะครับ แล้วก็ไปจ้างทำหน้าต่างอีก ค่าจ้างทำ 5,700 บาท

 

 

 

          วันแรกที่ช่างเริ่มงานรื้อส่วนที่เหลือไว้คือเสาบ้าน และไม้ปูพื้นบ้าน  ซึ่งไม่โดนปลวกกินเลยครับ แข็งแรงมาก ยังสามารถใช่ต่อได้
แล้วช่างก็ทำการขึ้นโครงหลังคาใหม่คับ ช่วงนั้นฝนตกเยอะครับ รีบทำหลังคาให้เสร็จก่อน เดี่ยวส่วนอื่นๆโดนฝนแล้วจะเสียหายไปด้วยครับ ตามภาพเลยครับ

โครงหลังคาที่ทำใหม่ จะทำแบบสไตล์โมเดิร์นครับ แรกๆอาจจะดูแปลกๆหน่อยนะครับ  (วันแรกที่ผมมาเห็นก็แอบกังวลใจเหมือนกันครับ กลัวว่าจะออกมาไม่โอเค)  ส่วนกระเบื้องหลังคาใช้ของเดิมครับ และซื้อใหม่เพิ่มทดแทนบางแผ่นที่เสียหายตอนรื้อครับ ที่ซื้อใหม่ก็ใช้กระเบื้อลอนคู่เหมือนเดิมครับ สีขาว แล้วก็ติดฝ้ารอบๆก่อนเลยครับ ใช้แผ่นฝ้าเช่อร่าแบบมีช่องระบายครับ (ประหยัดงบครับ อยู่ด้านบนไม่มีคนเห็นครับ 5555)

 

 

 

 

หลังจากขึ้นโครงหลังคาเสร็จ ช่างก็ปูไม้ฝาเลยครับ ผมใช้ไม้ฝาเฌอร่าแบบสีธรรมชาติ ที่เลือกแบบสีธรรมชาติเพราะผมจะทาสีใหม่ เลยไม่เอาที่เป็นสีสำเร็จรูปมาแล้วครับ อีกอย่างช่างสีแนะนำมาว่ามันก็ต้องทาสีทับอยู่ดีครับ เพื่อเก็บรอยตำหนิต่าง ๆ ครับ

 

 

 

ตอนนี้ช่างเริ่มติดฝ้านเพดานแล้วครับ แผ่นฝ่าที่ใช้ เป็นของเฌอร่าเหมือนเดิมครับ อันนี้เลือกแบบไม่มีช่องระบายครับ

 

 

 

งานต่อไปคือใส่บานหน้าต่างทั้งหมด

 

 

 

หลังจากฝ้าเพดานเสร็จ ก็มางานปูพื้นระเบียงและราวระเบียงหน้าบ้านครับ ผมเน้นใช้ไม้เรียบๆ ครับ ค่อยไปเน้นตอนทาสี (เพราะงบจำกัดครับ) ขณะทำราวระเบียง ตอนนี้ปูพื้นระเบียงเสร็จแล้วครับ

 

 

 

ในส่วนของชั้นบนก็ประมาณนี้ครับ เหลืองานฝ้าและไฟ หลังจากช่างทำชั้นบนเสร็จก็มาทำในส่วนของชั้นล่างต่อ

 

 

 

1. ห้องนอน จำนวน 1 ห้อง (ให้แม่นอนครับ ผมเองนอนชั้นบน ห้องนอนเดิมของแม่มันเล็กครับ จะใช้ไว้เก็บของใช้จุกจิกและเก็บเสื้อผ้าครับ)

          2. ห้องครัวใหม่

          3. โรงจอดรถ

          ช่างก็รื้อส่วนที่ต่อเติมเดิมออกไว้หมดครับ

 

 

 

         หลังจากลงเสาเสร็จ ก็ขึ้นโครงหลังคาครับ โครงหลังคาในส่วนของชั้นล่างใช้ไม้ทั้งหมดครับ เพราะต้องต่อเข้ากับตัวบ้านเดิมด้วย ประกอบกับยังมีไม้ของเก่าที่รื้อจากชั้นสองที่ยังมีสภาพที่สามารถใช้งานได้เยอะพอสมควร รวมกับไม้ที่ผมเลื่อยมาเองอีก แต่ก็ต้องซื้อเพิ่มมาหลายอันอยู่เหมือนกันครับ พอต่อโครงหลังค่าเรียบร้อยก็ออกมาประมาณนี้ครับ ก็จะทำลักษณะเดี่ยวกับส่วนที่เป็นสองชั้นครับ เพื่อให้ไปในแนวเดียวกันและเข้ากันได้ครับ

 

 

ผมติดต่อช่างฝ้าอยู่ประมาณ 3 เจ้าครับ ได้ช่างคนนี้มาในราคาที่โอเคเลยครับ สำหรับงานฝ้าที่ทำคือ 

          1. ต้องการบุผนังทั้งหมด

          2. ฝ้าเพดานผมใช้เป็นฝ้าแขวนธรรมดาครับ (ของเดิมชั้นล่างก็ใช้ฝ้าแขวนเหมือนกันครับ ใช้มาประมาณ 5 ปีกว่าแล้ว ยังอยู่สภาพดีอยู่ครับ) เราตกลงราคากันที่ตารางเมตรละ 220 บาท  (รวมค่าแรงและค่าของทั้งหมด) ***ค่าแรงทั้งหมดเดี๋ยวสรุปให้ช่วงท้ายนะครับ*** ผลงานออกมาเนี้ยบเลยทีเดียวครับ ถือว่าพอใจมากกกกครับ

          ส่วนนี้เป็นพื้นที่ผมใช้นอนครับ ผมให้ช่างทำผนังปิดยื่นออกมานิดนึงครับ ประมาณ 70 เซนติเมตร เพื่อปิดที่นอนและที่เก็บเสื้อผ้านิดนึงครับ ขึ้นจากบันไดมาจะไม่เห็นที่นอนเลยซะทีเดียวครับ

 

 

 

        ขอพาขึ้นข้างบนต่อนะครับ ระหว่างรอช่างก่อผนัง ช่างไฟก็มาพอดี 555 คราวนี้ก็ถึงคิวของช่างไฟครับ ไฟด้านบนผมใช้โคมแบบหลอดดาวไลท์ ส่วนหลอดไฟเป็นหลอด LED ทั้งหมดครับ  ผมซื้อของเองเฉพาะโคมหลอดและตัวหลอดไฟจากโฮมโปร ยึดความสะดวกครับ อาศัยใช้เวลาซื้อของตอนหลังเลิกงาน เพราะช่วงเวลาปกติต้องทำงาน ได้ของที่จัดโปรโมชั่นมาเยอะอยู่เหมือนกันครับ ส่วนสายไฟ ปลั๊ก สวิตช์ และอื่น ๆ ช่างเป็นคนจัดการหาซื้อมาให้ครับ อย่างที่บอกตอนแรกจ้างลูกพี่ลูกน้องทำครับ เลยวางใจได้เรื่องคุณภาพของอุปกรณ์ที่เอามาใช้ครับ ผลงานก็ออกมาประมาณนี้ครับ

 

 

 

 

ช่วงนี้จะเป็นช่วงเก็บงานครับ เป็นช่วงเวลาที่นานมากสำหรับผม เดี่ยวโน้น เดี่ยวนี่ จุกจิก ๆ ด้วยความที่เราก็อยากให้เสร็จไว ๆ ด้วย ใช้เวลากว่าจะเก็บงานเสร็จผมว่าประมาณ 2 สัปดาห์

 

 

 

 

 

 

 

***สุดท้ายแล้วครับ ผมจะสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดตามนี้เลยครับ***

          1. งานก่อสร้าง รวม  433,000 บาท
         
                    - ค่าแรงงานก่อสร้าง 155,000 บาท

                    - ค่าวัสดุก่อสร้าง (ผมซื้อของเองทั้งหมด) 278,000 บาท

          2. งานทาสี รวม 60,000 บาท

                    - ค่าแรงทาสี 35,000 บาท

                    - ค่าสี (ผมซื้อของเอง) 25,000 บาท

          3. งานฝ้าเพดาน รวม 23,000 บาท (ค่าแรงรวมของ)

          4. งานไฟฟ้า รวม 25,000 บาท
   
                    - ค่าแรง 15,000 บาท(รวมของยกเว้นหลอดไฟและโคมไฟ)

                    - ค่าของ 10,000 บาท

          5. งานกระจก 3,700 บาท

          6. ค่าทำกันสาดหน้าบ้าน 5,500 บาท

          ***รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 550,200 บาท***

          จากที่ได้ทำการรีโนเวทบ้านครั้งนี้ ได้อะไรหลาย ๆ อย่างเลยครับ

                    1. ผมภูมิใจมาก ๆ ที่ทำมันสำเร็จตามเป้าหมายที่คิดไว้ คิดอยู่นานครับกว่าจะตัดสินใจกู้เงินในครั้งนี้ เนื่องจากต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดในการผ่อนชำระ ผมเองยังไม่มีครอบครัว รายได้มีทางเดียวคือเงินเดือน ก็ไม่ได้มากมายเท่าไรครับ บวกกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ค่ารถ,น้ำมันรถ,ใช้จ่ายส่วนตัว) สุดท้ายก็เลยวางแผนจัดการกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดจนลงตัวและคิดว่าตัวเองไหว เลยตัดสินใจลงมือทำครับ ผมเชื่อว่าถ้าเราคิดว่าเราทำได้มันก็ก็ต้องสำเร็จอย่างแน่นอนครับ

                    2. มันมีปัญหาเข้ามาให้แก้ไขอยู่เรื่อย ๆ เหนื่อยใช้ได้อยู่เหมือนกันครับ เรามีงบที่จำกัด (เงินที่กู้มาหมดพอดีเลยครับ เป๊ะมาก มีควักเงินเก็บออกมาบ้างครับ หมดตัวกันเลยทีเดียว) งานประจำก็ต้องทำ เวลาที่ได้คุยกับช่างก็หลังเลิกงาน อาศัยมีพี่ ๆ คอยช่วยเหลือ ซื้อของให้ยามฉุกเฉิน รู้เลยครับว่าครอบครัวสำคัญที่สุดจริง ๆ

                    3. โชคดีได้ช่างที่ไม่เอาเปรียบเจ้าของบ้าน ไว้ใจได้ และเป็นที่ปรึกษาอย่างดี ผมเองก็ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมายครับ ถ้าได้ช่างไม่โอเคมา แย่เหมือนกันครับ

                    4. สุดท้ายผมมีความสุขที่มีบ้านหลังใหม่ให้แม่อยู่

          สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามกระทู้รีวิวของผมนะครับ  คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อหลาย ๆ คน นะครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ

 

 

ดีงามมากจริงๆ

 

 

ขอบคุณ

https://pantip.com/topic/36562159