จีนเที่ยวไทยเดือนก.พ.ขยายตัวกว่า 51%

จีนเที่ยวไทยเดือนก.พ.ขยายตัวกว่า 51%

     ท่องเที่ยวไทยยังฉลุย เดือนก.พ.นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขยายตัว 19%  เผยนักท่องเที่ยวจีนขยายตัวสูงถึงกว่า 51%

 

จีนเที่ยวไทยเดือนก.พ.ขยายตัวกว่า 51%

 

     21 มี.ค.61 นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดผยถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561 ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดือนกุมภาพันธ์ 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 3,566,898 คน  ในจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากที่สุด 2,342,593 คน รองลงมา ได้แก่ นักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป อเมริกา เอเชียใต้ โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ตามลำดับ

     เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวขยายตัว 19.33% ตามการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเกือบทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียใต้ขยายตัวสูงถึง 26.88% จากนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีจำนวนสูงถึง 1,200,479 คน และขยายตัวกว่า 51%

 

จีนเที่ยวไทยเดือนก.พ.ขยายตัวกว่า 51%

 

     สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากที่สุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น ลาว ฝรั่งเศส อินเดีย เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ นอกจากนี้ การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวระหว่างเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย ก่อให้เกิดรายได้ 195,262.94 ล้านบาท ขยายตัว 23.78% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับนักท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส มาเลเซีย เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เกาหลี ญี่ปุ่น และอินเดีย ตามลำดับ

     นอกจากนี้ ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 7,111,426 คน ขยายตัว 14.96% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และสร้างรายได้รวม 384,153.54 ล้านบาท ขยายตัว 17.47%จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

     สรุปสถานการณ์ท่องเที่ยวชาวไทยเที่ยวไทย มกราคม ปี 2561 มีชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวน 12.48 ล้านคน-ครั้ง ขยายตัว 4.79% จากปีที่ผ่าน และการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวของชาวไทย คิดว่าจะก่อให้เกิดรายได้ 91,445.73 ล้านบาท ขยายตัว 9.04% จากปีที่ผ่านมา

 

ขอบคุณที่มา ฐานเศรษฐกิจ