- 26 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าว http://www.tnews.co.th
เด็กเป็นช่วงวัยที่ต้องดูแลใส่ใจในเรื่องของสุขภาพเป็นพิเศษ เพราะระบบภูมิต้านทานในร่างกายของเด็ก ๆ นั้นไม่เหมือนกับผู้ใหญ่ ดังนั้นในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงหรือช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสต่าง ๆได้ง่าย พ่อแม่จึงต้องใส่ใจดูแลสุขภาพของลูกเป็นพิเศษ จะมีโรคอะไรบ้างตามไปดูเลย
1. ไข้หวัดใหญ่
เกิดจากอากาศเย็นลงและความชื้นในช่วงหน้าฝนจะทำให้โรคในกลุ่มไวรัสที่เกิดกับระบบทางเดินหายใจนั้นเจริญเติบโตได้ดีกว่าปกติ
อาการ
เมื่อเด็กได้รับเชื้อไข้หวัดเข้าสู่ร่างกายแล้วจะส่งผลให้เด็กมีอาการคือคัดจมูก
มีน้ำมูกใส ๆ จาม คอแห้ง เจ็บคอ เป็นไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ไอแห้ง ไอมีเสมหะ
หากอาการรุนแรงและลุกลามอาจมีโรคแทรกซ้อนที่มากับไข้หวัดก็คือ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือ ปอดอักเสบได้
2. โรคมือเท้าปาก
โรคมือเท้าปากจะพบมากในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
อาการ
- มีไข้ต่ำๆอ่อนเพลีย หลังจากนั้น 23 วัน
- เจ็บปากจะไม่ยอมทานข้าว เพราะในปากมีตุ่มแดงทั้งที่ลิ้น เพดานปากและกระพุ้งแก้ม แล้วกลายเป็นตุ่มพองใสในที่สุด
- นอกจากนี้ยังมีการอักเสบและแดงบริเวณรอบๆ ตุ่ม เมื่อตุ่มแตกออกจะเป็นแผลหลุมตื้นๆ และมี ผื่นขึ้นที่ฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า และก้น แต่จะไม่คัน
- โรคนี้ไม่มีความรุนแรงมากนัก เพราะอาการไข้ขึ้นนั้นจะลงภายใน 3 – 5 วัน อาการของเด็กก็จะค่อยๆ ดีขึ้น และหายเป็นปกติภายใน 710 วัน
3. ไวรัส RSV
ไวรัส RSVหรือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSVเป็นโรคติดเชื้อที่มีอาการคล้ายหวัดแต่บางครั้งอาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงจนถึงขั้นปอดอักเสบได้ไวรัส RSVเป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคระบาดในระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในเด็กเล็ก เชื้อไวรัสนี้สามารถทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบได้
อาการ
- หอบเหนื่อยและหายใจลำบาก อาการบางอย่างของโรคติดเชื้อไวรัส RSV นี้อาจคล้ายกับอาการของไข้หวัด
- มีไข้ไอจาม แต่จะมีอาการเหนื่อยหอบและหายใจเร็ว และมีเสียงครืดคราด ๆ และไอหนักมาก ๆ หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ในทันที
4. ไข้เลือดออก
ไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดเกิดจากยุงลาย ซึ่งพบได้มากบริเวณที่มีน้ำขัง และช่วงหน้าฝน
อาการ
- จะมีอาการคือไข้สูง อ่อนเพลีย
การป้องกันลูกน้อยให้ปลอดภัยจากโรคต่างๆ คือ พ่อแม่ควรฝึกเขาให้ล้างมือบ่อย ๆ ในทุกครั้งหลังการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงก่อนการกินอาหาร ทั้งนี้พยายามหลีกเลี่ยงการพาลูกไปอยู่ใกล้กับผู้ป่วย หลีกเลี่ยงการพาลูกไปเดิมตามศูนย์การค้าต่าง ๆ และหากลูกเป็นยังเล็กมากโดยเฉพาะหากเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือนก็ให้ระวังหากจะต้องนำลูกใส่รถเข็นตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ รวมถึงการการให้ลูกได้รับวัคซีนตามกำหนดที่ควรได้รับ หรือแม้กระทั่งวัคซีนเสริมต่าง ๆ ได้แก่ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ทั้งนี้เพื่อป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพและการเจ็บป่วยด้วยโรคระบาดยอดฮิตทั้งหลายในหน้าฝนนี้
ขอบคุณข้อมูลโดย : นพ.สุรพงษ์ ลีโทชวลิต กุมารแพทย์ ประจำศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4