- 13 ธ.ค. 2561
ไม่อยากตกต่ำอย่าทำเด็ดขาด! 6 สิ่งที่ไม่ควรทำในวัน "ขึ้นปีใหม่"
ถ้าพูดถึงเดือนธันวาคม นอกจากจะคิดถึงวันพ่อ วันคริสต์มาสแล้ว คงหนี้ไม่พ้นวันสิ้นปีและปีใหม่อย่างแน่นอน และสิ่งที่หลายคนไม่รู้นั้นก็คือนับแต่โบราณมักมีความเชื่อเรื่องของสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงปีใหม่อยู่ด้วย โดยสิ่งที่ไม่ควรทำนั้น แต่เดิมเชื่อว่าหากทำในช่วงต้นปีใหม่จะทำให้ชีวิตตกต่ำและไม่ก้าวหน้าตลอดทั้งปี แต่จะมีอะไรที่ควรทำและไม่ควรทำบ้างไปเช็คกันดูเลย...
สิ่งที่ “ไม่ควรทำ” ในวันขึ้นปีใหม่
1. พูดจาไม่เป็นมงคล พูดจาหยาบคาย พูดโกหก ควรระมัดระวังการใช้คำพูดที่มีความหมายไปในทางลบ หลีกเลี่ยงการโต้เถียง หรือคำที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยหรือความตาย
2. ทำในสิ่งที่ยุ่งยาก ซับซ้อน หรือไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จได้ภายใน 1 วัน
3. ทะเลาะวิวาท เบียดเบียน ล่วงเกิน สร้างความทุกข์ให้แก่ผู้อื่น
4. ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย
5. ดื่มเที่ยว จนขาดสติ
6. ทำร้ายสัตว์ ประจำนักษัตรปีเกิด ของตนเอง (คนเกิดปีชวด ห้ามฆ่าหนู หรือทำร้ายหนูในวันขึ้นปีใหม่)
7. ควรหลีกเลี่ยงการทำงานบ้านในวันที่ 1 ม.ค. เนื่องจากการทำงานบ้านเช่น การซักล้างหรือการปัดกวาดเช็ดถู จะเป็นการขับไล่ความโชคดีออกไป ดังนั้นการทำความสะอาดทุกอย่างควรเสร็จสิ้นภายสิ้นปีเท่านั้น
8. ไม่ควรสระผมหรือในวันสิ้นปีและวันเริ่มต้นปีใหม่ เนื่องจากการสระผม ถือเป็นการชะล้างความโชคดีที่กำลังจะมาถึงในศักราชใหม่ เเละตัดผมก็ควรดูเวลาที่เหมาะสม
9. ไม่ควรใช้ของมีคม เช่น มีด กรรไกร หรือที่ตัดเล็บ ฯลฯ เพราะการกระทำของของมีคม ถือเป็นการตัดสิ่งหรืออนาคตที่ดีที่จะมาถึงเช่นกัน
10. หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับงานศพและการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
11. ควรระมัดระวังในการทำสิ่งใด ๆ ที่จะเกิดการสะดุด หรือทำสิ่งของตกแตก เพราะนั่นหมายถึงการนำความโชคร้ายเข้ามาให้ในอนาคต
สิ่งที่ "ควรทำ" ในวันขึ้นปีใหม่
1. ตื่นนอน ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ด้วยความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า (วันขึ้นปีใหม่ พระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 6.30 น.)
2. สวดมนต์ ไหว้พระ แล้วออกไปทำบุญใส่บาตร เพื่อสร้างบุญบารมีให้กับตนเอง แล้วอธิษฐานจิต ขอพรในสิ่งที่เป็นไปได้ (ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้) เพียงข้อเดียว โดยยึดหลักธรรม อิทธิบาท ๔ (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา) เป็นหลักปฏิบัติเพื่อทำให้สิ่งที่ขอไว้ประสบผลสำเร็จ
3.ยืนรับแสงอาทิตย์ แรกของปีใหม่ สัก 10-15 นาที เพื่อเป็นการดูดซับพลังจากดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นดาวที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังที่สุดของระบบสุริยะ ในทางโหราศาสตร์ วันขึ้นปีใหม่ของทุกปี ดาวอาทิตย์จะโคจร อยู่ที่ราศีธนู ซึ่งเป็นภพศุภะ ของโลก (ภพศุภะ หมายถึง คุณงามความดี ความเจริญก้าวหน้า ) ดังนั้นการรับแสงอาทิตย์ยามเช้า ในวันขึ้นปีใหม่ เท่ากับเป็นการเพิ่มพลังชีวิต และนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองให้กับตนเอง ขจัดความหม่นหมอง มืดมัวให้ออกไปจากตัว (ถึงแม้ในดวงชะตาของบางคน ดาวอาทิตย์อาจจะเป็นเจ้าเรือน อริ มรณะ วินาศ หรือเป็น กาลี ตามความคิดของผมนั้น ก็ยังเห็นว่าผู้ที่รับแสงอาทิตย์ ยังคงได้รับพลัง และผลดีของ ดาวอาทิตย์ ในภพศุภะของโลก อยู่ดี)
4.ทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 3 มื้อ ,โอ่งน้ำต้องเติมน้ำให้เต็ม ,ถังข้าวสารต้องเติมข้าวสารให้เต็มถัง ,กระเป๋าสตางค์ควรมีเงินติดกระเป๋ามากกว่าปกติซักหน่อย เพื่อเป็นเคล็ดว่าให้ปีใหม่ เป็นปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวยมั่งคั่ง
5.สร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัว พาลูกหลาน ไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ เป็นการแสดงความกตัญญู กตเวที และขอพรจากท่าน เพื่อความเป็นสิริมงคล
6. มองโลกในแง่บวก มีสติ รอบคอบ ทำตัวให้มีความสุข ยิ้มเข้าไว้ หัวเราะบ่อยๆ เป็นการกระตุ้นให้ดาวศุกร์ (หมายถึง การเงิน ความรัก) ทำงาน ซึ่งจะทำให้มีโชคดีด้านการเงิน และความรัก
7. เข้าวัดทำบุญ ถือศีล ปฏิบัติธรรมหรือฟังพระธรรมเทศนา เพื่อให้จิตใจสดชื่นแจ่มใส
8. ตรวจสอบตัวเองเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ทำมาตลอดทั้งปี ว่ามีความเจริญก้าวหน้าเพียงใด หากมีสิ่งคั่งค้างก็ต้องเร่งปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง แต่หากใครมีเรื่องบาดหมางหรือขุ่นเคืองกับผู้ใด ก็ให้ถือโอกาสนี้ให้อภัยซึ่งกันและกัน เริ่มสานความสัมพันธ์ให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ด้วยดี
9. ในวันทำงานสุดท้ายของปี หัวหน้าและพนักงานควรพูดแสดงความรู้สึกขอบคุณในตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ส่วนใครที่งานกองเต็มโต๊ะคงต้องเร่งสปีดสะสางให้เรียบร้อยก่อนหยุดสิ้นปี รวมทั้งจัดโต๊ะทำงานเก่าให้เหมือนใหม่ สะอาดสะอ้านน่าใช้งานต้อนรับ
สำหรับคำแนะนำข้างต้นนั้น ยังสามารถนำไปปรับใช้กับวันสำคัญอื่นๆ ก็ได้ อย่างเช่น วันเหมายัน ,วันไหว้ขนมอี๋(ขนมบัวลอย) ของคนจีน หรือ วันเกิด เป็นต้น