สภาพอากาศร้อนๆแบบนี้เชื่อว่าสิ่งที่หลายคนเจอนั้นคงหนีไม่พ้นความเหนอะเหนะ และเหงื่อท่วมตัว แต่สำหรับคนที่มีอาการแพ้เหงื่อนั้นช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่แย่ที่

สภาพอากาศร้อนๆแบบนี้เชื่อว่าสิ่งที่หลายคนเจอนั้นคงหนีไม่พ้นความเหนอะเหนะ และเหงื่อท่วมตัว แต่สำหรับคนที่มีอาการแพ้เหงื่อนั้นช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่แย่ที่สุด ดังนั้นโรคแพ้เหงื่อจัดเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง หลายคนที่ทำกิจกรรมและออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ แล้วพบว่าตนเองมักจะมีอาการผิดปกติ เมื่อร่างกายมีเหงื่อออกเป็นจำนวนมาก เช่น อาการคัน และมีผื่นคันขึ้นตามเนื้อตามตัวอย่างมากมาย อาจคาดเดาได้ว่าเป็นโรคนี้ ซึ่งเป็นอุปสรรคน่าดูเมื่อต้องทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้งในทุกๆ ครั้ง

 

แพ้เหงื่อตัวเอง ภัยสุขภาพที่มาพร้อมกันความร้อน

 

หลายคนคิดว่าตัวเองเป็นแต่ยังไม่ค่อยแน่ใจ งั้นมาลองเช็กเลยอาการแพ้เหงื่อตัวเองเป็นแบบไหนกันแน่ อาการแพ้เหงื่อตัวเองจนเป็นอุปสรรคของการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ออกแรง หรืออยู่ท่ามกลางอากาศร้อน ๆ เสี่ยงเหงื่อจะออกไม่ได้ คนที่มีอาการเช่นนี้คงกำลังสงสัยอยู่ว่าเราเป็นโรคแพ้เหงื่อตัวเองหรือเปล่า

ไบโอเดอร์มา
สุขภาพและความงามโดยแนน

 

อาการของโรคแพ้เหงื่อตัวเอง
1.ผู้ที่แพ้เหงื่อตัวเอง มักจะมีอาการคันในช่วงเวลาที่มีเหงื่อออก โดยเฉพาะตามจุดที่มีเหงื่อออกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ลำคอ ขาหนีบ หรือข้อพับต่างๆ
2.ช่วงเวลาที่เหงื่อออก มักมีผดผื่น หรือตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นตามร่างกายเป็นประจำ
3.ผดผื่นที่ขึ้นตามร่างกายเนื่องจากมีอาการแพ้เหงื่อจะเกิดขึ้นเพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นจะค่อยๆ ยุบและจางหายไปเอง แต่ถ้าหากมีเหงื่อออกอีกครั้ง อาการแพ้เหล่านี้ก็อาจจะกลับมาได้อีก

 

แพ้เหงื่อตัวเอง ภัยสุขภาพที่มาพร้อมกันความร้อน

 

อาการแพ้เหงื่อเกิดจากอะไรได้บ้าง
1. เป็นโรคผิวหนังอยู่ในปัจจุบัน
โรคผิวหนังบางอย่างอาจเป็นปัญหาสำคัญที่พร้อมจะส่งผลทำให้ร่างกายของคุณผิดปกติไป โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีเหงื่อออกเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะยิ่งทำให้คุณมีอาการคันตามร่างกาย หรือไม่ก็ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นๆ มีอาการแดงขึ้นมาทันที

2. อยู่ในพื้นที่ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
หากผู้ที่เป็นโรคแพ้เหงื่อตัวเองไปอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองค่อนข้างมาก แถมพื้นที่นั้นๆ ยังมีเชื้อโรคและแบคทีเรีย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายยิ่งขึ้น เมื่อร่างกายมีเหงื่อออก หรือหากร่างกายสัมผัสโดนฝุ่นละออง ก็ย่อมทำให้เกิดอาการแพ้ฝุ่นร่วมด้วยได้

3. มีผิวพรรณที่บอบบางและแพ้ง่าย
การมีผิวพรรณที่บอบบางเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้อย่างง่ายๆ ยิ่งหากมีเหงื่อไคลออกมาเป็นจำนวนมาก เมื่อไปสัมผัสกับเชื้อโรคและแบคทีเรียร่วมด้วยเข้าอีก ก็นับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะทำให้เกิดอาการแพ้เหงื่อตามมา

4. การเกิดปฏิกิริยาที่ผิดปกติของร่างกาย
ร่างกายของกลุ่มคนที่มีอาการแพ้หรือเป็นภูมิแพ้เหงื่อ มักจะเกิดการต่อต้านเหงื่อของตนเอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นปฏิกิริยาที่ผิดปกติ โดยอาจเกิดจากการทำงานของเซลล์ภูมิแพ้ที่ผิดปกติภายในร่างกาย หรือแม้กระทั่งจากระบบภูมิคุ้มกันที่มีการทำงานมากเกินไป ส่งผลให้มีความไวต่อเหงื่อภายในร่างกายเป็นพิเศษ

การรักษาโรคแพ้เหงื่อ
โรคแพ้เหงื่อไม่ใช่โรคที่มีความรุนแรงถึงชีวิต และเราสามารถบรรเทาและรักษาอาการแพ้เหงื่อได้ดังวิธีต่อไปนี้
 
1.อาบน้ำ ล้างคราบเหงื่อ ในเบื้องต้นเราอาจรักษาโรคแพ้เหงื่อได้ด้วยการชำระล้างคราบเหงื่อ อาบน้ำ หรือพยายามไม่ให้เหงื่อแห้งติดอยู่บนผิวหนังนานเกินไป ซึ่งก็จะช่วยลดอาการคันลงได้พอสมควร 
2.รักษาด้วยสารต้านฮิสตามีน ในรายที่มีอาการแพ้มาก ๆ แพทย์อาจฉีดสารต้านฮีสตามีนให้ หรือให้ยาจำพวกนี้ไปรับประทานเมื่อมีอาการแพ้ 
3.ฝึกร่างกายให้ชินต่ออาการแพ้ แพทย์หญิงสุราศี อิ่มใจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก แนะนำว่า การรักษาโรคแพ้เหงื่ออาจทำได้ด้วยวิธี Desensitization หรือการทำให้ร่างกายค่อย ๆ ชินต่ออาการแพ้จนไม่มีปฏิกิริยากับอาการแพ้อีกต่อไป โดยอาจลองฝึกให้ร่างกายอยู่ภายใต้สภาพอากาศที่ร้อน หรือปรับอุณหภูมิให้ค่อย ๆ รู้สึกอุ่นขึ้นทีละหน่อย จนร่างกายไม่มีอาการแพ้เกิดขึ้นอีก

 

แพ้เหงื่อตัวเอง ภัยสุขภาพที่มาพร้อมกันความร้อน

 

การป้องกันอาการแพ้เหงื่อ
สามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก หรือหากมีเหงื่อออกก็ควรทำความสะอาดร่างกายโดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เหงื่อแห้งติดผิวหนังเรานานเกินไป นอกจากนี้หากต้องไปในที่ที่มีฝุ่นละอองเยอะ มีสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด ควรใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด มีหน้ากากปิดปาก ใส่แว่นตากันฝุ่น ก็จะช่วยป้องกันความเสี่ยงต่ออาการแพ้ที่อาจเกิดกับผิวหนังเราได้
 
อาการแพ้เหงื่อแม้จะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง แต่ต้นตอและสาเหตุของโรคสามารถแตกแขนงออกได้หลายทาง ฉะนั้นหากพบว่าตัวเองมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับผิวหนัง โดยเฉพาะเวลาที่เหงื่อออก ทางที่ดีควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาอย่างละเอียดดีกว่าว่าเราแค่แพ้เหงื่อธรรมดา หรือมีรอยโรคผิวหนังอื่น ๆ แอบซ่อนอยู่ด้วย

 

อ้างอิงข้อมูลจาก แพทย์หญิงสุราศี อิ่มใจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก , honestdocs