ขึ้นชื่อว่ามนุษย์จิตใจย่อมยากแท้หยั่งถึง บางครั้งการที่เรารู้อะไรมากก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดี และคนทุกคนใช้ว่าจะมีนิสัยใจกว้าง เพราะสำหรับบางคนก็ย่อมมีความรู้สึกที่ทนไม่ได้เมื่อเห็นใครดีกว่า

ขึ้นชื่อว่ามนุษย์จิตใจย่อมยากแท้หยั่งถึง บางครั้งการที่เรารู้อะไรมากก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดี และคนทุกคนใช้ว่าจะมีนิสัยใจกว้าง เพราะสำหรับบางคนก็ย่อมมีความรู้สึกที่ทนไม่ได้เมื่อเห็นใครดีกว่า

 

คนโบราณสอนไว้ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนใจแคบให้ ใจกว้าง หากใจกว้างไม่ได้ให้ แกล้งโง่

 

ตามหลักจิตวิทยา ได้มีการแบ่งจิตของมนุษย์ออกเป็น 3 ส่วน คือ 
1. อิด (ID) หมายถึง ตัณหา หรือ ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ เป็นสิ่งที่ยังไม่ขัดเกลา ซึ่งทำให้มนุษย์ทำทุกอย่างเพื่อความพึงพอใจ หรือทำงานตามความพึงพอใจ โดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด เปรียบเสมือนสันดานดิบของมนุษย์ ซึ่งแบ่งออกเป็นสัญชาตญาณแห่งการมีชีวิต (LIEF INSTINCT) เป็นความต้องการอาหาร ความต้องการทางเพศ ความต้องการหลีกหนีจากอันตราย และสัญชาตญาณแห่งการตาย (DEATH INSTINCT) เช่น ความต้องการก้าวร้าว หรือการทำอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น เป็นต้น
 

2. อีโก้ (EGO) หมายถึง ส่วนที่ควบคุมพฤติกรรมที่เกิดจากความต้องการของ ID โดยอาศัยกฎเกณฑ์ทางสังคม และหลักแห่งความเจริญมาช่วยในการตัดสินใจ ไม่ใช่แสดงออกมาความพึงพอใจของตนเองเพียงอย่างเดียวแต่ต้องคิดและแสดงออกอย่างมีเหตุผล 

 

คนโบราณสอนไว้ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนใจแคบให้ ใจกว้าง หากใจกว้างไม่ได้ให้ แกล้งโง่

 

3. ซุปเปอร์อีโก้ (SUPEREGO) หมายถึง มโนธรรมหรือจิต ส่วนที่ได้รับการพัฒนามาจากประสบการณ์ การอบรมสั่งสอน หรือ กระบวนการทางสังคมประกิต โดยอาศัยหลักของศีลธรรม จรรยา ขนบธรรมเนียมประเพณี และค่านิยมต่างๆในสังคมนั้น SUPEREGO จะเป็นตัวบังคับและควบคุมความคิดให้แสดงออกในลักษณะที่เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม 

นั้นหมายความว่า โครงสร้างจิตนี้ จะมีความสัมพันธ์กัน ถ้าทำงานสัมพันธ์กันดีการแสดงออกหรือบุคลิกภาพก็เหมาะสมกับตน แต่ถ้าโครงสร้างทั้ง 3 ระบบ ทำหน้าที่ขัดแย้งกัน บุคคลก็จะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ 

และวันนี้เรามีเรื่องราวของคำโบราณชาวจีนที่เคยสอนไว้ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าคนใจแคบให้ "ใจกว้าง" หากใจกว้างไม่ได้ให้ "แกล้งโง่"


แต่ก่อน มีแม่ทัพคนหนึ่งเล่นหมากล้อมเก่งมาก ไม่ค่อยมีคนเล่นชนะได้ วันหนึ่ง แม่ทัพออกรบ ผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เห็นบ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่ง มีป้ายติดว่า “เล่นหมากล้อมอันดับ 1 ของประเทศ”

แม่ทัพไม่เชื่อ จึงเข้าไปหาเจ้าของบ้านและเล่นด้วย ปรากฎว่า เจ้าของบ้านแพ้ทั้ง 3 กระดาน แม่ทัพหัวเราะ “555 แกเอาป้ายลงได้แล้ว” แล้วแม่ทัพก็ไปออกรบด้วยความดีใจไม่นาน แม่ทัพรบชนะกลับมา ผ่านมาที่เดิม ก็ยังเห็นป้ายแขวนอยู่ที่บ้านหลังเดิมแม่ทัพจึงเข้าไปหาเจ้าของบ้าน และท้าดวลอีก ปรากฎว่าครั้งนี้ แม่ทัพแพ้ทั้ง 3 กระดาน แม่ทัพประหลาดใจมาก ถามเจ้าของบ้านว่าเพราะอะไร ?

 

คนโบราณสอนไว้ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนใจแคบให้ ใจกว้าง หากใจกว้างไม่ได้ให้ แกล้งโง่

 

เจ้าของบ้านตอบว่า “ครั้งก่อน ท่านมีภาระกิจ ออกรบ ข้าน้อยจะไปลบเหลี่ยม ทำให้ท่านหมดขวัญกำลังใจไม่ได้ แต่ครั้งนี้ ท่านชนะกลับมา ข้าน้อยก็ไม่ต้องออมมือแล้ว”

คนที่เก่งจริงในโลกนี้ คือคนชนะได้ แต่ไม่จำเป็นต้องชนะ มีใจกว้างขวางพอที่จะให้

การใช้ชีวิต ก็เหมือนกัน รู้ ไม่จำเป็นต้องพูด ไม่พูด ใช่ว่าจะไม่รู้ หากคุณพูดในสิ่งที่คุณรู้ แต่เป็นเรื่องที่เจ้าของเรื่องไม่อยากให้รู้ หรือไม่คิดว่าคนอื่นจะรู้ คุณไม่ได้มิตร แต่ได้ศัตรู

 

คนโบราณสอนไว้ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนใจแคบให้ ใจกว้าง หากใจกว้างไม่ได้ให้ แกล้งโง่

 

คนทุกคนบอกว่ารับความจริงได้ ต้องการให้คุณพูดความจริง แต่พอคุณพูดแล้ว ใช่ว่าจะรับได้ทุกคน อาจจะโกรธคุณอีกต่างหากที่เรู้ความจริง ที่บอกให้คุณพูดความจริง ต้องการจะรู้ว่าคุณรู้เท่าไหน แต่ไม่ได้หมายความว่ารับความจริงได้

เมื่อรู้ว่าคุณรู้เยอะมาก เยอะกว่าที่เขาคาดไว้ เขาย่อมโกรธคุณ เพราะ “รู้ทัน” ต่อหน้าคนใจแคบ คุณต้องใจกว้าง ถ้าทำใจกว้างไม่ได้ ก็ต้องแกล้งโง่…