พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรมเพียงพระองค์เดียวใน รัชกาลที่ 7

จากประวัติศาสตร์แห่งราชวงศ์จักรี หลายคนอาจจะเห็นได้ว่า ในรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงไม่มีพระราชโอรสและพระราชธิดา พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี (หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์)

จากประวัติศาสตร์แห่งราชวงศ์จักรี หลายคนอาจจะเห็นได้ว่า ในรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงไม่มีพระราชโอรสและพระราชธิดา พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี (หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์) เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2461 แต่ไม่มีการกล่าวถึงพระราชโอรสและพระราชธิดา เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงไม่มีรัชทายาท แต่พระองค์มีพระราชโอรสบุญธรรมคือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต

 

พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรมเพียงพระองค์เดียวใน รัชกาลที่ 7

 

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต หรือพระนามลำลองว่า เจรี่  เป็นพระโอรสองค์เล็กในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ประสูติแต่หม่อมเล็ก ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา เป็นพระราชโอรสบุญธรรมของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และเป็นต้นราชสกุล ศักดิเดชน์ ภาณุพันธ์ พระองค์ทรงมีพระเชษฐาและพระขนิษฐาร่วมมารดาคือ

1. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารำไพประภา
2. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภัสสรวงศ์ 
3. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช 
4. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้านรเศรษฐสุริยลักษณ์ 

 

พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรมเพียงพระองค์เดียวใน รัชกาลที่ 7

 

หม่อมเจ้าจิรศักดิ์สุประภาตเติบโตในพระบรมมหาราชวังจนอายุได้ 7 ปี จึงทรงย้ายมาอยู่กับพระบิดา ต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงนำพระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต มาถวายเป็นบุตรบุญธรรมใน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งไม่มีพระราชโอรสหรือพระราชธิดากับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี

 

พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรมเพียงพระองค์เดียวใน รัชกาลที่ 7

 

ด้านการศึกษาทรงเข้ารับการศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2468 เลขประจำตัวนักเรียน ท.ศ.3022 หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงทุ่มเทความรักและเอาใจใส่เหมือนเป็นพระราชโอรสแท้ๆ ทรงอุปถัมภ์ให้ไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ

 

พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรมเพียงพระองค์เดียวใน รัชกาลที่ 7

 

หลังจากนั้นพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต หมั้นกับมณี เซเนียร์ บุนนาค สุภาพสตรีลูกครึ่งไทย-อังกฤษ นักเรียนทุน ก.พ. ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ.2481 ส่วนพิธีมงคลสมรสจัดขึ้นที่สถานทูตไทยในกรุงลอนดอน โดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีทรงเป็นองค์ประธาน เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2481

 

พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรมเพียงพระองค์เดียวใน รัชกาลที่ 7

 

ต่อมาเมื่อหม่อมมณีตั้งครรภ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาพระราชทานนาม "ศักดิเดชน์" จากพระนามาภิไธย "ประชาธิปกศักดิเดชน์" เพื่อใช้เป็นชื่อราชสกุล แต่ทางรัฐบาลจอมพลแปลก พิบูลสงคราม และคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ รัชกาลที่ 8 ได้คัดค้านว่าพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต อยู่ในราชสกุล ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา อยู่แล้ว (โดยมีเหตุผลเกี่ยวกับสิทธิ์ในการสืบสันตติวงศ์และเรื่องอื่นๆ ที่สืบเนื่องจากสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว) ด้วยเหตุนี้จึงใช้ชื่อสกุลว่า "ศักดิเดชน์ ภาณุพันธ์ ณ อยุธยา" แทน

 

พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรมเพียงพระองค์เดียวใน รัชกาลที่ 7

 

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต มีพระโอรส 2 คน คือ

หม่อมราชวงศ์เดชนศักดิ์ ศักดิเดชน์ ภาณุพันธ์ สมรสกับสมคิด ศักดิเดชน์ ภาณุพันธ์ ณ อยุธยามีบุตรหนึ่งคน
- หม่อมหลวงศักดิเดชน์ ศักดิเดชน์ ภาณุพันธ์

หม่อมราชวงศ์ทินศักดิ์ ศักดิเดชน์ ภาณุพันธ์  สมรสครั้งที่สองกับศิริกาญจน์ ศักดิเดชน์ ภาณุพันธ์ ณ อยุธยา (สกุลเดิม ศรีกาญจนา) มีบุตรสองคน และบุตรบุญธรรมหนึ่งคน

- ศีกัญญา ศักดิเดชน์ ภาณุพันธ์ (บุตรจากการสมรสครั้งแรกของศิริกาญจน์)

- หม่อมหลวงศรุศักดิ์ ศักดิเดชน์ ภาณุพันธ์

- หม่อมหลวงศิริณี ศักดิเดชน์ ภาณุพันธ์

 

พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรมเพียงพระองค์เดียวใน รัชกาลที่ 7

 

สำหรับการแบ่งพระราชมรดกหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต ได้มีการแบ่งพระราชมรดกของพระองค์ ผู้ที่มีสิทธิ์ในพระราชมรดก คือ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี และ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต การแบ่งพระราชมรดกเป็นไปตามกฎหมาย คือ แบ่งกันคนละครึ่ง ภาคลูกและภาคเมีย

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต ทรงสมัครเข้าร่วมกับกองทัพอังกฤษเป็นนักบินของหน่วยงาน A.T.A. (Air Transport Auxiliary) ซึ่งเป็นหน่วยขนส่งทางอากาศของกองทัพอังกฤษ เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2485 พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต ทรงขับเครื่องบินเพื่อนำไปส่งที่ท่าเรือ เกิดหมอกลงจัด ทรงขับเครื่องบินชนภูเขา สิ้นพระชนม์ขณะพระชันษาได้ 25 ปี

 

พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรมเพียงพระองค์เดียวใน รัชกาลที่ 7

 

ภายหลังจากพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต สิ้นพระชนม์ได้ 6 เดือน หม่อมมณี ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา ก็ได้สมรสใหม่กับพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภัสสรวงศ์ ซึ่งเป็นพระเชษฐาแท้ๆของพระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต และมีพระธิดา คือ หม่อมราชวงศ์อรมณี ภาณุพันธุ์ แต่ก็หย่าร้างกันในปี พ.ศ. 2493 ต่อมาได้สมรสกับนายแพทย์ปชา สิริวรสาร และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตติยจุลจอมเกล้า เป็น คุณหญิงมณี สิริวรสาร เมื่อ พ.ศ. 2532 และเสียชีวิตเมื่อต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2542

 

พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรมเพียงพระองค์เดียวใน รัชกาลที่ 7