เข้าหน้าร้อนทีไร คนส่วนใหญ่ก็มักจะหันไปนอนแอร์กันหมด แต่จะใช้แอร์อย่างไร ให้สามารถประหยัดค่าไฟได้ปีละประมาณ 12,500 บาท ต่อห้องนอน ซึ่งแอร์ขนาด 1 ตัน ต้องการไฟฟ้าประมาณ 1,500 วัตต์ ถ้าเปิดวันละ 8-10 ชม. ค่าไฟ 3.5 บาทต่อหน่วย ก็จะต้องเสียค่าไฟปีละ ประมาณ 19,000 บาท ดังนั้น วันนี้ เราจึงจะพาไปดูวิธีการใช้แอร์แบบประหยัดๆ กันค่ะ สบายทั้งตัว สบายทั้งกระเป๋าตังค์เลยค่ะ

1.ส่วนใหญ่วิศวกรจะแนะนำให้ตั้งอุณหภูมิอยู่ที่ 25 องศา และความชื้นสัมพัทธ์ที่ 50% / แต่เมืองไทย ควรกำหนดอุณหภูมิอยู่ที่ 27 องศา ละความชื้นสัมพัทธ์ที่ 70% เพียงแค่นี้ ค่าแอร์จะลดจาก 15,000 บาท เหลือ 10,000 บาท ทันที

 

2.คุณผู้ชมคะ สำหรับคนไทยเรา 25 องศา อาจจะหนาวเกินไป และบางคนอาจป่วยเอาด้วย บางคนถึงกับคลุมโปงมิดเลยด้วยซ้ำไป ถ้าใช้ชุดนอนโปร่งๆ ไม่ห่มผ้าหนา ตั้งอุณหภูมิอยู่ที่ 28 องศา ก็ยังได้เลย ค่าแอร์ก็จะลดลง เหลือเพียง 8,000 บาท


วิศวกรแนะ วิธีประหยัดค่าแอร์ พร้อมความเชื่อแบบผิดๆ

 

วิศวกรแนะ วิธีประหยัดค่าแอร์ พร้อมความเชื่อแบบผิดๆ

3.ถ้าตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 28-30 องศา แล้วเอาพัดลมตั้งพื้น มาเป่าแบบส่ายไปมา พัดลมนี้กินไฟเพียง 50 วัตต์ เปิด 10 ชม. ต่อวัน ตลอดปีเสียค่าไฟ 630 บาท จะลดค่าแอร์ จาก 8,000 เหลือ 2,000 เท่านั้น ซึ่งเหลือเชื่อมาก เพราะพอเลยเที่ยงคืนไปแล้ว อุณหภูมิจะต่ำกว่า 30 องศาอยู่แล้ว แอร์ก็จะหยุดไม่ทำงานบ่อยจนถึงเช้า 

 

และไม่ว่าจะหลับหรือไม่ ก็จะยังรู้สึกเย็นสบาย เพราะพัดลมจะทำงานตลอด ทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าอยู่ในอุณหภูมิอยู่ที่ 27 องศา (ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่กำลังพอดีสำหรับคนไทย ทำให้ไม่เป็นโรคที่เกิดจากความเย็นเกินไปอีกด้วย) จากเที่ยงคืนถึง 7-8 โมงเช้า เราแทบจะไม่เสียค่าแอร์เท่าไหร่เลย แต่เสียเพียงค่าพัดลมแทน ซึ่งถูกกว่ามากๆ ทั้งค่าใช้จ่ายและวิธีใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ เราสามารถเสียค่าแอร์แบบประหยัดไฟได้ถึงราวๆ 12,500 บาท ต่อปี

 

4.หรือในขณะที่กินข้าวและดูทีวีตอนหัวค่ำ ให้เข้าไปที่ห้องนอน เปิดหน้าต่างห้องนอนนิดนึง แล้วเปิดพัดลมไล่อากาศร้อนในห้องออก จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เพียงอากาศร้อนเฉยๆ แต่เป็นความร้อนที่แผ่ออกจากผนังปูน ที่อมความร้อนไว้มากจากตอนกลางวันอีกด้วย / วิธีนี้จะช่วยประหยัดแอร์ได้อีก เพิ่มความสบายจากการที่ห้องนอนจะเย็นได้เร็วขึ้นเมื่อเปิดแอร์