เมื่อพญานาคขอกิน แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ อาริยสาวิกา ศิษย์หลวงปู่มั่น

แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ ผู้ได้คำกล่าวว่าเป็น "อาริยสาวิกา" ของสายหลวงปู่มั่น ผู้ที่หลวงปู่มั่นทำนายว่าต่อไปจะได้พระอาจารย์ดีมาแนะนำจนได้มรรคผลนิพพาน ซึ่งผู้ที่มาแนะนำในเวลาต่อมาคือ “หลวงตามหาบัว” พระอริยสงฆ์ศิษย์เอกสายหลวงปู่มั่นนั้นเอง

แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ ผู้ได้คำกล่าวว่าเป็น "อาริยสาวิกา" ของสายหลวงปู่มั่น ผู้ที่หลวงปู่มั่นทำนายว่าต่อไปจะได้พระอาจารย์ดีมาแนะนำจนได้มรรคผลนิพพาน ซึ่งผู้ที่มาแนะนำในเวลาต่อมาคือ “หลวงตามหาบัว” พระอริยสงฆ์ศิษย์เอกสายหลวงปู่มั่นนั้นเอง เมื่อคุณย่าชีแก้วละสังขาร และได้ประสบความสำเร็จเป็นพระอรหันต์เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๕ มีประจักษ์พยานแจ้งชัดเจนเมื่อกระดูกของท่านได้กลางเป็นพระธาตุสดใส สัณฐานต่างๆ เป็นการพิสูจน์แน่ชัดถึงนิพพานจริง จึงเป็นที่โสมนัสยินดีเคารพกราบไหว้อย่างสุดซึ้ง ปราศจากข้อสงสัยใด มีเรื่องเล่าเกี่ยวคุณย่าชีแก้วกับพญานาคพอจะเล่าขานต่อกันดังนี้

 

เมื่อพญานาคขอกิน แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ อาริยสาวิกา ศิษย์หลวงปู่มั่น

 

แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ มีความสามารถในการภาวนา มีความรู้เห็นพิเศษในความเป็นไปของชีวิตสัตว์โลกได้อย่างกว้างขวาง คราวที่ท่านและคณะปลีกตัวไปภาวนาที่่ถ้ำนกกระเบน พญานาคที่อาศัยอยู่ในถ้ำได้ปรากฏตัวออกมาหยอกล้อขอกินคุณย่าชีแก้ว เสียงล้ำ คุณย่าชีแก้ว เสียงล้ำ จึงกล่าวตักเตือนว่า แม่ชีทุกคนเป็นลูกพระพุทธเจ้า ถ้าอยากจะกินจริงก็ให้กินท่าน พญานาคจึงแปลงกายเป็นงูใหญ่พุ่งเข้าฉกกัด ทันทีก็ร้องขึ้นว่าร้อนจนปากจะไหม้ร้อนยิ่งกว่าไฟ จึงกลายร่างเป็นมาณพหนุ่มแสดงความอ่อนน้อมเป็นมิตรทันที

 

เมื่อพญานาคขอกิน แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ อาริยสาวิกา ศิษย์หลวงปู่มั่น

ต่อมามีนาคหนุ่มใหญ่ชอบเป่าแคนเสียงดังมาแต่ไกล คุณย่าชีแก้ว เสียงล้ำ จึงเข้าที่นั่งภาวนา เมื่อใกล้เข้ามา เขาเป่าแคนไม่เกิดเสียงดัง จึงเกิดความไม่พอใจ คิดว่าคงเป็นแม่ชีมานั่งภาวนาดับเสียงแคน คุณย่าชีแก้ว เสียงล้ำ ถามว่าจะไปไหน เขาตอบว่าจะไปเกี๊ยวสาวในบ้านโน้น แต่เปลี่ยนใจแล้วมาเกี๊ยวแม่ชีดีกว่า ท่านจึงบอกเชิงดุว่า ท่านมีศีลเป็นคู่พรหมจารีแล้วไม่ต้องการชายใด นาคหนุ่มรู้สึกสำนึกในความผิดจึงขอขมาโทษที่ได้ล่วงเกิน จากนั้น คุณย่าชีแก้ว เสียงล้ำ จึงแนะนำให้สมาทานศีลแปด แล้วก็อธิบายศีลให้ฟัง

 

เมื่อพญานาคขอกิน แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ อาริยสาวิกา ศิษย์หลวงปู่มั่น

 

ศีลข้อแรก จงละเว้นการพรากจากชีวิต จะต้องไม่ฆ่าเขา ไม่ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้อื่นฆ่าหรือทำลายเบียดเบียนเขา

ศีลข้อสอง จงละเว้นการลักขโมยหรือหยิบฉวยสิ่งของผู้อื่นที่เขาไม่ปรารถนาจะให้ตลอดจนสนับสนุนส่งเสริมผู้อื่นให้ทำด้วย ไม่แสดงพฤติกรรมหลอกลวงและทำลายทรัพย์สินผู้อื่น

ศีลข้อสาม จงละเว้นการผิดประเวณีมีสัมพันธ์ทางเพศที่ก่อให้เกิดผลกระเทือนต่อชีวิตจิตใจ

ศีลข้อสี่ จงละเว้นจากการพูดโกหกให้พูดแต่ความจริงเสมอ อย่าเสียสัจจะหรือหลอกลวงต้มตุ๋น ทั้งเป็นคำพูดและการกระทำ

ศีลข้อห้า จงละเว้นการดื่มเหล้าเครื่องดองของเมา ตลอดจนสิ่งที่กระตุ้นจิตใจให้เคลิบเคลิ้มเครื่องดองของเมา ตลอดจนสิ่งที่กระตุ้นจิตใจให้เคลิบเคลิ้มสติฟั่นเฟือน และก่อให้เกิดการตัดสินใจผิดพลาด

 

เมื่อพญานาคขอกิน แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ อาริยสาวิกา ศิษย์หลวงปู่มั่น

ศีลข้อหก จงละเว้นการกินอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว

ศีลข้อเจ็ด จงละเว้นการขับร้องรำทำเพลงเล่นดนตรี ไม่ตกแต่งด้วยเครื่องประดับ ดอกไม้ เสริมความงามด้วยสิ่งหอมระเหย และเครื่องสำอาง

ศีลข้อแปด จงละเว้นการนอนบนเตียงที่ปูที่นอนหนานิ่ม และหลีกเลี่ยงการนั่งบนที่มีการประดับที่หรูหรามีที่นั่งอ่อนนุ่ม

ถ้าสามารถดำรงรักษาการประพฤติปฏิบัติจริงจังต่อศีลทั้งหมดนี้ได้ ท่านย่อมรู้เข้าใจวิถีจิตใจในการดำเนินชีวิตได้อย่างแท้จริง

 

เมื่อพญานาคขอกิน แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ อาริยสาวิกา ศิษย์หลวงปู่มั่น

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ แม่ชีกรรมฐานบ้านห้วยทราย 

ธรรมประวัติคุณย่าชีแก้ว เสียงล้ำ สำนักชีบ้านห้วยทราย คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร