- 09 ก.ค. 2562
ในปัจจุบัน ด้ายแดง เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ไม่ว่าในเรื่องของแฟชั่นและรวมไปถึงเรื่องของความเชื่อ ที่เชื่อว่า หนุ่มสาวที่โชคชะตากำหนดให้มาคู่กัน จะมีเชือกสีแดงที่มองไม่เห็นผูกอยู่ที่ข้อเท้าของแต่ละฝ่าย ซึ่งเป็นเรื่องของโชคชะตา นอกจากนี้ยังเป็นคงามเชื่อในเรื่องของการสมหวังในความรักนั่นเอง
ในปัจจุบัน ด้ายแดง เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ไม่ว่าในเรื่องของแฟชั่นและรวมไปถึงเรื่องของความเชื่อ ที่เชื่อว่า หนุ่มสาวที่โชคชะตากำหนดให้มาคู่กัน จะมีเชือกสีแดงที่มองไม่เห็นผูกอยู่ที่ข้อเท้าของแต่ละฝ่าย ซึ่งเป็นเรื่องของโชคชะตา นอกจากนี้ยังเป็นคงามเชื่อในเรื่องของการสมหวังในความรักนั่นเอง
เรื่องเล่าตำนานของด้ายแดงนั้น เป็นเรื่องเด็กผู้ชายที่กำลังเดินกลับบ้านในเวลากลางคืน ระหว่างทางกลับบ้านได้พบกับชายแก่คนหนึ่ง ชายแก่ได้บอกกับเด็กชายว่า เด็กชายได้ถูกกำหนดให้เป็นคู่แท้กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง โดยมีด้ายแดงแห่งโชคชะตาผูกระหว่างทั้งสองคน
หลังจากนั้นชายแก่ได้พาเด็กชายคนนั้นไปดูเด็กผู้หญิงคนนั้น ซึ่งจะเป้นเจ้าสาวในอนาคตของเขา แต่ด้วยความเป็นเด็กและไม่สนใจในเรื่องของความรัก เด็กชายจึงได้ขว้างก้อนหินใส่เด็กผู้หญิงแล้ววิ่งหนีไป
และในเวลาต่อมาเมื่อเด็กชายคนนั้น โตเป็นหนุ่มและกำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน ซึ่งพ่อแม่เป็นคนจัดการให้ ในคืนวันแต่งงาน เมื่อถึงเวลาเข้าหอายหนุ่มได้เปิดผ้าคลุมออกแล้วพบว่า เจ้าสาวของเขาเป็นผู้หญิงที่งดงามมาก แต่เธอมีเครื่องประดับชิ้นหนึ่งติดอยู่บริเวณคิ้ว ชายหนุ่มจึงถามสาเหตุที่เจ้าสาวของเขาต้องติดเครื่องประดับชิ้นนี้
เธอได้เล่าว่า เมื่อตอนเด็ก มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งขว้างก้อนหินใส่เธอ ทำให้เธอมีแผลบริเวณคิ้วติตวมาตั้งแต่ตอนนั้น เมื่อชายหนุ่มได้ฟังดังนั้น จึงได้รู้ว่า เจ้าสาวของเขาคือเด็กผู้หญิงที่ชายแก่คนนั้นได้บอกว่าเป็นคู่แท้ของเขาและผูกพันกันด้วยด้ายแดงแห่งโชคชะตา ตั้งแต่เขาทั้งสองยังเป็นเด็ก