6 วิธี กำจัด คราบเหลืองในไมโครเวฟ ให้เหมือนใหม่

สำหรับไมโครเวฟที่แทบจะทุกบ้านต้องมี แถมยังใช้บ่อยอีกด้วยไปนานๆแล้วเกิดคราบสกปรกเหลืองๆ ทำเอาไม่กล้าเอาอาหารใส่เข้าไปเวฟเลย รู้มั้ยคะคราบเหลืองเหล่านั้นเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคทำให้ลงไปในอาหารของเรา ซึ่งไม่ดีต่อร่างกายอย่างมากเลยหละค่ะ   การทำความสะอาดไมโครเวฟควรที่จะทำทั้งด้านนอกและด้านใน

เรียกได้ว่าเป็นปัญหาของเหล่าแม่บ้าน สำหรับ"ไมโครเวฟ"ที่แทบจะทุกบ้านต้องมี แถมยังใช้บ่อยอีกด้วยไปนานๆแล้วเกิดคราบสกปรกเหลืองๆ ทำเอาไม่กล้าเอาอาหารใส่เข้าไปเวฟเลย รู้มั้ยคะคราบเหลืองเหล่านั้นเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคทำให้ลงไปในอาหารของเรา ซึ่งไม่ดีต่อร่างกายอย่างมากเลยทีเดียว  ดังนั้นการทำความสะอาดไมโครเวฟควรที่จะทำทั้งด้านนอกและด้านใน

 

ทำความสะอาด

 

บริเวณด้านนอก ถือเป็นบริเวณที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพียงนำน้ำผสมกับสบู่อ่อนๆ เช็ดบริเวณที่มีสิ่งสกปรก แต่ระวังอย่าให้น้ำซึมเข้าภายในไมโครเวฟเพราะอาจจะทำให้เสียหายได้  จากนั้นเช็ดตามด้วยผ้าสะอาดจนแห้งค่ะ
บริเวณด้านใน หากมีคราบอาหารหรือสิ่งสกปรกเกาะอยู่บริเวณภายในไมโครเวฟ จะค่อนข้างทำความสะอาดยากพอสมควร วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับดีๆในการทำความสะอาดไมโครเวฟมาฝากทุกคนถึง 6 วิธี เรียกได้ว่าใครสะดวกแบบไหนก็ทำแบบนั้นเลยนะคะ ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีวิธีไหนกันบ้าง

สั่งซื้อ คลิ๊กที่นี่ ไมโครเวฟฝัง TECNOGAS TMWB23SP

สั่งซื้อ คลิ๊กที่นี่ Tecnogas เตาอบไมโครเวฟ รุ่น TMWB 23 SP 

ไมโครเวฟ

(เบกกิ้งโซดา)

เบกกิ้งโซดา


แน่นอนว่าตัวช่วยสารพัดประโยชน์อย่าง "เบกกิ้งโซดา" ก็สามารถขจัดคราบเหลืองที่กระจายไปทั่วไมโครเวฟได้ โดยการทำความสะอาดไมโครเวฟด้วยเบกกิ้งโซดานั้น เริ่มจากผสมเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 แก้ว คนให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้สัก 5 นาที จากนั้นนำฟองน้ำมาจุ่มแล้วใช้เช็ดคราบเหลืองได้เลย แต่ถ้าหากยังมีสิ่งสกปรกติดค้างอยู่ก็ให้ใช้กระดาษทิชชูหรือผ้าเช็ดซ้ำ

(มะนาว)

มะนาว


ส่วนวิธีทำความสะอาดด้วยมะนาวนั้นให้เตรียมอุปกรณ์ ได้แก่ มะนาว 1ลูก ขนาดถ้วยที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ และผ้าสะอาด จากนั้นก็เทน้ำใส่ถ้วยประมาณครึ่งแก้ว บีบมะนาวลงไป และใส่เปลือกลงไปด้วย เสร็จแล้วให้นำเข้าไปอบด้วยความร้อนสูงประมาณ 3 นาที ทิ้งไว้อีก 5 นาที เพื่อให้ไอน้ำกระจายตัวและช่วยทำให้คราบคลายตัวลง จากนั้นก็เช็ดด้วยผ้าสะอาด แต่ถ้าหากยังมีคราบที่เช็ดไม่ออก ให้นำมุมผ้าไปจุ่มน้ำมะนาวที่เราผสมไว้แล้วนำมาขัดอีกที ไมโครเวฟก็กลับมาสะอาดเหมือนเดิมแล้ว 

 

(กระดาษทิชชูเปียก)

 

ทิชชู่เปียก


วิธีทำความสะอาดไมโครเวฟที่รวดเร็วและง่ายสุด ๆ ก็คือการใช้ทิชชู่เปียก เพราะเพียงแค่เรานำทิชชู่เปียกไปวางไว้ข้างในไมโครเวฟ แล้วอบด้วยความร้อนสูง ประมาณ 5 นาทีก็จะทำให้เราเช็ดคราบต่าง ๆ ออกได้ง่ายขึ้นแล้วค่ะ เพราะไอน้ำที่ระเหยจากทิชชูเปียกจะทำให้คราบสกปรกที่ฝังอยู่อ่อนตัวตัวลง และช่วยให้เช็ดคราบสกปรกออกได้ง่ายขึ้น จากนั้นก็ใช้ทิชชูเปียกและผ้าแห้งเช็ดตามอีกครั้งเพื่อความหมดจด
 

(น้ำส้มสายชู)

น้ำส้มสายชู


นอกจากทิชชูและเบกกิ้งโซดาแล้ว มาดูวิธีทำความสะอาดไมโครเวฟด้วยน้ำส้มสายชูกันบ้างค่ะ ซึ่งวิธีทำความสะอาดก็คไม่ยาก โดยผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำ ในอัตราส่วน 1 : 1 พอ จากนั้นนำเข้าไปอบประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้ไอน้ำกระจายและทำให้คราบอ่อนลงก่อน แล้วค่อยใช้ฟองน้ำหรือผ้าสะอาดเช็ดทำความสะอาดภายในอีกครั้ง คราบสกปรกก็จะหายเกลี้ยงโดยไม่ต้องออกแรงขัดเลย

(น้ำยาเช็ดกระจก)

น้ำยาเช็ดกระจก


 วิธีทำความสะอาดไมโครเวฟด้วยน้ำยาเช็ดกระจกจะสามารถทำความสะอาดได้ทั้งข้างในและข้างนอกไมโครเวฟเลย ก่อนอื่นให้ถอดปลั๊กไมโครเวฟออกก่อน แล้วผสมน้ำยาเช็ดกระจก 2 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน จากนั้นเริ่มเช็ดด้านในของไมโครเวฟก่อน โดยนำฟองน้ำมาจุ่มแล้วเช็ดตามคราบได้เลย อย่าลืมเช็ดด้านบน ช่องระบายอากาศ และเช็ดบริเวณใต้ถาดรองจานด้วยนะ แต่สำหรับคราบที่ฝังลึกมาก ๆ ให้นำน้ำยาไปถูทิ้งไว้ก่อนสัก 5 นาทีแล้วค่อยขัดออกค่ะ พอขัดเสร็จแล้วให้นำผ้าสะอาดมาเช็ดซ้ำ ขอย้ำว่าให้เช็ดให้สะอาด เพื่อความปลอดภัยในการใช้ไมโครเวฟครั้งต่อ ๆ ไปนะคะ ส่วนคราบเหลือก็ขจัดออกได้ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำมันมะกอกมาเช็ด จากนั้นปล่อยให้แห้ง ระหว่างนั้นก็เช็ดตัวเครื่องด้านนอกต่อได้เลย 

(น้ำยาล้างจาน)

น้ำยาล้างจาน


เราสามารถทำความสะอาดไมโครเวฟด้วยน้ำยาล้างจานได้ด้วยนะคะ วิธีการก็คือให้ผสมน้ำอุ่นและน้ำยาล้างจานลงไปในภาชนะที่นำเข้าไมโครเวฟได้ จากนั้นนำไปเวฟประมาณ 1 นาที เมื่อเครื่องเริ่มทำงาน ไอน้ำก็จะช่วยให้คราบเหลืองติดไมโครเวฟอ่อนตัวลง ซึ่งทำให้เราเช็ดคราบออกได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ หรือถ้าใครต้องการกำจัดกลิ่นคาวด้วย เราขอแนะนำให้ผสมเบกกิ้งโซดาลงไปในถ้วยด้วย

 

ไมโครเวฟ

 

 เป็นยังไงกันบ้างหละคะ ทำไม่ยากเลยใช่ไหม นอกจากยังไม่ยากแล้วยังเป็นของที่หาได้ภายในบ้านอีกด้วย แค่ทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้งแค่นี้เราก็มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่สะอาดปลอดภัยจากเชื้อโรคแล้วค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : Compactappliance, Onegoodthingbyjillee, Thekitchn และ Wikihow