“จอร์จ โซรอส”อุดหนุนประชาไท ประเทศไทยเสี่ยงอะไร

เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับกรณีที่จอร์จ โซรอส ออกมาสนับสนุนเงินทุนให้กับประชาไทยและองค์กรทางด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยนั้น จัดว่าเป็นชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตย ตามที่หม่อมหลวงปลื้มว่าเอาไว้หรือไม่

เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับกรณีที่จอร์จ โซรอส ออกมาสนับสนุนเงินทุนให้กับประชาไทยและองค์กรทางด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยนั้น จัดว่าเป็นชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตย ตามที่หม่อมหลวงปลื้มว่าเอาไว้หรือไม่

หรือจะเป็นความเสี่ยงของประเทศไทยเหมือนกับเมื่อครั้งวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 อันเกิดขึ้นมาจากฝีมือของจอร์จ โซรอส จนสร้างหายนะให้กับประเทศชาติ ชนิดไม่สามารถประเมิณค่าได้เลย

จอร์จ โซรอส เดิมชื่อ จอร์จี ชวาร์ตซ์ (ฮังการี: György Schwartz) นักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายฮังการี เป็นนักวิเคราะห์ค่าเงิน นักลงทุนหุ้น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานบริษัท Soros Fund Management และสถาบัน Open Society Institute

นิตยสาร ฟอร์บส์ ได้จัดให้ จอร์จ โซรอส อยู่ในอันดับที่ 35ของบุคคลที่รวยที่สุดในโลก มีทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาได้บริจาคเงิน 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อการกุศลตั้งแต่ ค.ศ. 1979 เป็นต้นมา

โซรอสเคยเป็นสมาชิกในคณะกรรมการของ Council on Foreign Relations และยังเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้ง Center for American Progress ปัจจุบันจอร์จ โซรอส ก็ยังคงมีตัวแทนในคณะกรรมการอยู่ แม้ว่าตัวเขาเองจะคิดว่าเป็นการกล่าวชมยกยอกันมากเกินไป แต่ชาวรัสเซียและชาวตะวันตกก็มองว่าการสนับสนุนทางการเงินและการจัดการของเขา เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ Georgia’s Rose ประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา

อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้เขียนถึงจอร์จ โซรอส หลังจากที่เขาออกหนังสือ The Alchemy of Finance เมื่อปี ค.ศ. 2003 ว่า จอร์จ โซรอส ได้สร้างความโดดเด่นในด้านที่เขาเป็นผู้วิเคราะห์มาก โซรอสนับได้ว่าเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล และเป็นที่รู้กันในความฉลาดหลักแหลมของเขา เพราะโซรอสจะถอนตัวเมื่อยังอยู่ในจุดที่มีความได้เปรียบ การกระทำของโซรอสได้เพิ่มแรงกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายประเทศให้กลายเป็นประเทศที่สนับสนุนสังคมเปิด

นอกจากโซรอสจะส่งเสริมเสรีทางการค้าแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือการที่ปรับให้ประชาชนเปิดรับความคิดใหม่ๆ ให้ประชนของประเทศนั้นๆ ยอมรับฟังแนวคิดและการกระทำที่แตกต่างออกไป

นอกจากข้อมูลที่ปรากฎออกมาล่าสุดตามที่รายงานไปนั้นย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 ในเฟซบุ๊คที่มีชื่อว่า Thanong Fanclub ได้วิเคราะห์พร้อมกับแฉพฤติกรรมทางด้านการเงินของจอร์จ โซรอสเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า

หลังจากที่ตลาดหุ้นจีนโดนถล่มในช่วงที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์Financial Newsของจีนระบุว่า Morgan Stanley และพวกกองทุนฝรั่งเป็นตัวจุดปะทุการทุบหุ้นจีน อาจารย์มหาวิทยาลัยจีน5คนลงนามร่วมในจดหมาย กล่าวหาว่าพลังตลาดที่ชั่วร้ายกำลังทำลายตลาดหุ้นจีน โดยเรียกร้องให้ทางการจีนตรวจสอบผู้ที่อยู่เบื้องหลังการดั๊มหุ้นจีนอย่างรุนแรง รวมทั้งให้เก็บภาษีแสตมป์กับพวกที่ขายหุ้นหนักๆ มีการเปรียบเทียบการถล่มตลาดหุ้นจีนเหมือนกับที่นายโซรอสเคยถล่มค่าเงินบาทและเงินเอเซียในวิกฤติต้มยำกุ้งในปี1997

เรื่องเลวร้ายต่างๆในโลก นายโซโรสอยู่เบื้องหลังทั้งนั้นเพราะว่าเขาเป็นตัวแทนของพวกนายแบงค์ (international bankers)ที่คุมWall Street ที่ฮั้วกันปั่นและทุบตลาดการเงินทั่วโลกเป็นเวลายาวนาน โดยที่รัฐบาลประเทศต่างๆยอมเล่นเกมWall Street เพราะว่าผู้เล่นรายใหญ่ที่ติดต่อสัมพันธ์กับแก๊งWall Streetได้ประโยชน์ ส่วนแมงเม่าเหมือนคนติดการพนันต้องเข้าบ่อน แม้รู้ว่าจะเสียเงิน แต่ก็อยากจะเล่น อยากจะเสี่ยงโชค เมื่อเปิดตลาดเงินตลาดทุนให้Wall Streetก็ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของนายโซรอสโดยปริยายที่ใช้อำนาจเหนื่อระบบการเงินเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน เศรษฐกิจและที่สำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ของพวกนายแบงค์ระหว่างประเทศที่คอยชักใยให้โลกป่วน

วิกฤติยูเครนมีรอยนิ้วมือของนายโซรอสชัดเจนว่า เขาก็เป็นคนก่อเพื่อยั่วยุให้รัสเซียก่อสงคราม รัฐบาลยูเครนภายใต้การนำของนายPetro Porochenko เป็นเพียงหุ้นกระบอกให้เขาชักเล่น มีคนแฮ๊คอีเมล์ของผู้นำยูเครน และพบจดหมายโต้ตอบระหว่างนายโซรอสและPorochenkoในลักษณะการเสนอแนะระหว่างนายกับบ่าวแบบสุภาพ

นายโซรอสยกหูโทรศัพท์คุยกับรัฐมนตรีคลังสหรัฐ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ รวมทั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องพูดถึงผู้นำในยุโรป เขาเป็นผู้ไฟแนนซ์ให้พรรคเดโมแครทเป็นหลัก และเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินให้คลินตันและโอบามาให้เป็นประธานาธิบดี นางฮิลลารี่ คลินตันก็เป็นเด็กของโซรอส

ไอซิสก็น่าจะเป็นฝีมือของนายโซรอสที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ไอซิสเป็นโนมินีไปล้มรัฐบาลซีเรียและอิรัค เพื่อกรุยทางให้สหรัฐกลับเข้าไปทำสงครามในตะวันออกกลาง โดยที่อิสราเอลนั่งกระดิกเท้าได้ประโยชน์

ย้อนกลับมาเรื่องหุ้นจีนที่โดนWall Streetปั่นแล้วก็ถล่ม แม้ทางการจีนจะมีกฎระเบียบเคร่งครัดจำกัดการลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นจีน เพราะจีนรู้ดีว่าเปิดการเงินให้Wall Streetเมื่อใด เกมก็จะอยู่ในมือWall Street ส่วนประเทศไทยไม่ต้องพูด ระดับวางนโยบายประเทศจากบนลงล่างยอมยกระบบการเงินให้Wall Streetไปตั้งนานแล้วเพื่อแลกกับเศษดอลล่าร์

แต่มิวายที่ Wall Streetจะแทรกซึมเข้าไปในจีนได้ ผ่านshaldow banking หรือระบบธนาคารเงาที่มีการตั้งบริษัทกระดาษขึ้นมาเพื่อระดมเงินและเอาไปปล่อยให้บริษัทจีน หรือรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อการลงทุนที่เกินตัว หรือเกินเพดานที่แบงค์ปล่อยกู้ได้ เพราะว่าทางการจีนมีกฎระเบียบจำกัดอยู่ อย่างว่าก็ต้องมีคนจีนที่ทั้งโลภและหลงให้ความร่วมมือ ทำให้ระบบธนาคารเงาของจีนโตถึง$20ล้านล้าน เอาไปไฟแนนซ์อสังหาฯรวมทั้งตลาดหุ้น ในส่วนนี้เป็นเงินดอลล่าร์ของWall Streetที่เล็ดลอดเข้าไปมาก

อาชีพหลักของ Wall Streetคือปล่อยเครดิตให้ประเทศที่เป็นเหยื่อให้เป็นฟองสบู่ แล้วก็มีทีมพีอาร์คอยเขียนเชียร์หุ้น เชียร์เศรษฐกิจของเหยื่อสร้างสะตอรี่โอกาสและอนาคตที่สวยหรู วันดีคืนดี Wall Street จะตระโกนบอกว่าไฟกำลังไหม้ ตลาดเป็นฟองสบู่แล้ว ให้รีบถอนการลงทุน เท่านั้นเอง Wall Streetก็ชักเงินกลับ พวกนักลงทุนแมงเม่าอื่นๆ หนีออกประตูเดียวไม่ทัน เหยียบกันตายหน้าประตู ประเทศที่ตกเป็นเหยื่อเครดิตหรือการปั่นฟองสบู่จะพินาศพังทะลาย แล้วWall Street กลับเข้ามาช๊อปปิ๊งของถูก ยึดกิจการสำคัญๆเข้าไปในพอร์ต แล้วเล่นเกมปั่นฟองสบู่รอบใหม่ที่อาจจะใช้เวลา7ปี 10ปีหรือ 20ปีแล้วแต่วงโคจร แต่เหยื่อจะไม่เข็ดเพราะว่าผู้บริหารประเทศและพวกนักการเงินอาชีพได้ประโยชน์เข้าก่อนออกก่อน

ช่วงกลางเดือนมิถุนายน กองทุนฝรั่งนำโดยแก๊งWall Streetดั๊มขายหุ้นจีน$7,000ล้านในสัปดาห์เดียว เท่านั้นเองก็ทำให้ตลาดหุ้นจีนที่ถูกปั่นให้เป็นฟองสบู่150%ในช่วงหนึ่งปีกว่าๆที่ผ่านมามีรอยร้าว หลังจากนั้นพวกนักลงทุนอื่นๆพากันเทขาย พวกแมงเม่าออกไม่ทันตายกันเป็นแถวเพราะว่าเล่นมาร์จิ้นกันเกือบทั้งนั้น คือกู้เงินมาเล่นหุ้น พอหุ้นตก30%ภายในช่วงเวลาแค่3สัปดาห์ ทำให้มูลค่ารวมของตลาดหายไป$3.7ล้านล้าน พวกแมงเม่าโดนบังคับขายพอร์ตการลงทุน และต้องหาเงินมาใช้หนี้ในส่วนที่ขาดทุน

โซรอสต้องทำลายระบบการเงินและเศรษฐกิจจีนให้อ่อนแอก่อน ก่อนที่สหรัฐจะหาเรื่องในทะเลจีนใต้เพื่อก่อสงครามกับจีนเพื่อสกัดไม่ให้จีนผงาดทางการจีนไม่โง่รู้ตัวว่าพลาดไปแล้ว แต่ยังกลับตัวทัน คือหยุดการซื้อขายของบริษัทจดทะเบียน1,400กว่าแห่งเพื่อไม้ให้โดนแรงขาย ให้โปลิสไปดูว่าใครทำซอร์ตเซลล์หรือขายหุ้นล่วงหน้าโดยไม่มีหุ้นในมือ แต่ที่สำคัญที่สุด คือมาตรการห้ามผู้ถือหุ้นเกิน5%บริษัทขายหุ้นออกไป พวกที่ไม่รู้เรื่องจะด่าหรือโจมตีจีนว่าไม่เล่นตามกลไกตลาด ทั้งๆที่Wall Street ไม่เคยเล่นตามกลไกตลาด เพราะว่าตัวเองเป็นกลไกเสียเอง อยากทำอะไรก็ทำตามใจชอบ

เล่นมาตรการห้ามขายนี้ ทำให้จอร์จ โซรอสและกองทุนฝรั่งถึงกับกระอักเลือด เพราะว่ากองทุนฝรั่งหมุนไปตลาดต่างๆทั่วโลก พอจีนบล๊อคไม่ให้ขาย กองทุนฝรั่งก็ติดในหุ้นจีน ขายออกมาไม่ได้ ตัวเองก็เล่นมาร์จิ้น ทำให้หมุนเงินหมุนพอร์ตไม่ได้ รอวันตาย ส่วนจีนจัดตั้งกองทุน$500,000ล้านเตรียมช้อนซื้อของถูก เวลาปลดล๊อคห้ามเทรดหุ้นแล้ว พวกกองทุนฝรั่งจะรีบคายหุ้นออกมา กลายเป็นอ้อยเข้าปากช้าง

สิ่งที่จีนทำเหมือนกับที่นายกมาเลย์ที่สั่งบล๊อคตลาดแลกเปลี่ยนเพื่อป้องกันการโจมตีเงินริงกิตโดยนายโซรอสและพวกเฮดจ์ฟันด์ แต่ไทยเล่นตามกลไกตลาดจนนาทีสุดท้าย จึงกลายเป็น ต้มยำกุ้งต้องเข้าโปรแกรมไอเอ็มเอ็ฟ

 

ได้ข่าวนายโซรอส โดนรัสเซียแบนไม่ให้เข้าประเทศเพราะว่ามีส่วนถล่มเงินรูเบิ้ล และก่อวิกฤติยูเครนให้ร้ายรัสเซียวิชามารนี้ทางผู้บริหารการเงินประเทศไทยต้องเตรียมตัวงัดออกมาใช้ ต้องเรียนรู้จากจีนว่าเล่นตีโต้กลับอย่างไร เพราะว่าอีกไม่นาน พ่อมดโซรอสจะมาเยือนไทยอีกครั้ง

พิจารณาจากบทวิเคราะห์ที่มีการอ้างอิงข้อมูลทางด้านสถานการณ์เอาไว้อย่างละเอียด ก่อนที่ท้ายสุดจะมีการเตือนมาถึงประเทศไทยอีกครั้งว่าต้องเตรียมการรับมือถ้าหากไม่อยากซ้ำรอยเหมือนวิกฤตต้มยำกุ้ง

อีกทั้งการที่โซรอสอยู่เบื้องหลังสนับสนุนทางการเงินเว็ปไซต์ประชาไทและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่างๆในประเทศไทย ก็ต้องจับตามองเช่นเดียวกันว่ามีเป้าประสงค์อะไรแอบแฝงหรือไม่