ซีเรีย ผนึก รัสเซีย ยึดคืนเมืองสำคัญจากกบฏ ฝั่งสหรัฐ ร้องยูเอ็น กล่าวหา ซีเรีย รัสเซีย เป็นอาชญากรสงคราม (ชมคลิป)

ซีเรีย ผนึก รัสเซีย ยึดคืนเมืองสำคัญจากกบฏ ฝั่งสหรัฐ ร้องยูเอ็น กล่าวหา ซีเรีย รัสเซีย เป็นอาชญากรสงคราม (ชมคลิป)

กองกำลังรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรยึดคืนเมืองและหมู่บ้านหลายแห่งจากกลุ่มกบฏในภาคตะวันออกของประเทศ      โดยการรุกคืบของรัฐบาลเกิดขึ้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัดฮามา ซึ่งรัฐบาลซีเรียได้รับการสนับสนุนจากองทัพอากาศรัสเซียและนักรบอิหร่าน เลบานอน และอิรักครองความได้เปรียบในเมืองอเลปโป สมรภูมิแห่งสำคัญของซีเรีย โดยได้โอบล้อมพื้นที่กบฏในเมืองทางตอนเหนือแห่งนี้มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

     

       กบฏในจังหวัดฮามาซึ่งอยู่ถัดลงมาทางใต้ยึดเมืองและหมู่บ้านหลายแห่งจากรัฐบาลหลังจากเปิดฉากการโจมตีเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมแต่กองกำลังรัฐบาลยึดคืนพื้นที่เหล่านั้นได้หลายแห่งในวันเสาร์ ที่ผ่านมา ในการโจมตีซึ่งทำให้พวกเขาครองความได้เปรียบในตอนเหนือของฮามา

 

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อ ต้องการให้มีการสืบสวนอาชญากรรมสงครามต่อปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ถล่มอเลปโปอย่างดุเดือด โดยกล่าวหาซีเรียและพันธมิตรอย่างรัสเซีย กำลังข่มขวัญพลเรือนภายในเมืองที่ถูกทำลายล้างแห่งนี้

     

       นายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความเห็นดังกล่าวก่อนหน้าการหารือเกี่ยวกับร่างมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลซีเรียภายใต้การสนับสนุนของรัสเซีย หยุดโจมตีเมืองอเลปโป

     

 

       สองสัปดาห์แล้ว ที่กองกำลังของประธานาธิบดี บาชาร์อัล-อัสซาด เดินหน้าจู่โจมอเลปโป   ซึ่งเมืองอเลปโป ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของซีเรีย ถูกล้างผลาญในสงครามกลางเมือง ที่เช่นฆ่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 300,000 ศพ นับตั้งแต่มันเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม 2011ทั้งนี้ปัจจุบันยังมีชาวบ้านอย่างน้อย 250,000 คนที่ยังอยู่ในทางตะวันออกของอเลปโป พื้นที่ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏและถูกปิดล้อมมานานหลายเดือน และตอนนี้ต้องเผชิญการโจมตีอย่างอากาศอย่างดุเดือด โดยบางครั้งยังเป็นการทิ้งบอมบ์ครั้งหนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

     ทางด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เริ่มต้นประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับสงครามดังกล่าวหารือกันมานานราว 1 สัปดาห์ เกี่ยวกับมติเรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงที่ร่างโดยฝรั่งเศส ทั้งนี้ฌอง-มาร์ค เอโรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศสตัฟฟาน เด มิสตูรา ทูตพิเศษด้านซีเรียของยูเอ็น เตือนว่าอเลปโปอาจถูกทำลายล้างโดยสิ้นเชิงในช่วงสิ้นปี พร้อมกันนั้นยังได้เรียกร้องรัฐบาลซีเรียและรัสเซียระงับการโจมตีหากว่าพวกนักรบจากกลุ่มอัล-นุสราฟรอนต์ ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น ฟาเตห์อัล-ชาม ฟรอนต์ ยอมออกจากเมือง ด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียก็ระบุชัด ว่า เขาจะสนับสนุนแผนของยูเอ็น สำหรับเปิดทางให้กลุ่มก๊กญิฮาดดังกล่าวออกจากอเลปโป หากว่ากลุ่มกบฏอื่น ๆ ตัดขาดความสัมพันธ์กับกลุ่มนี้

ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) อภิปรายและลงมติใน 2 ญัตติเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามในซีเรีย เมื่อวันเสาร์ โดยมติแรกเสนอโดยฝรั่งเศส ว่าด้วยการให้กองทัพซีเรียและรัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารในจังหวัดอเลปโป พร้อมทั้งถอนกำลังทหารและสรรพาวุธออกจากพื้นที่ ได้รับเสียงสนับสนุน 11 เสียงจากที่ประชุม ในขณะที่จีนและแองโกลางดออกเสียง แต่ข้อมติมีอันตกไปเนื่องจากรัสเซียซึ่งเป็นสมาชิกถาวรใช้สิทธิ์วีโต้ โดยมีเวเนซุเอลาร่วมคัดค้าน

 

ส่วนมติที่สองเสนอโดยรัสเซียซึ่งมีสาระสำคัญคือเป็นการคัดค้านมติของฝรั่งเศส แต่ไม่ผ่านเช่นกันเนื่องจากได้รับเสียงคัดค้านมากถึง 9 เสียง ในจำนวนนี้รวมสมาชิกถาวร 3 ประเทศ คือสหรัฐ สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส งดออกเสียง 2 เสียงคือแองโกลาและอุรุกวัย และได้รับเสียงสนับสนุน 4 เสียงคือจากรัสเซียเอง จีน เวเนซุเอลาและอียิปต์

หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายวิทาลี เชอร์กิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวขอบคุณสมาชิกทั้ง 15 ประเทศที่เข้าร่วมใช้สิทธิ์อย่างพร้อมเพรียงตามกฎ แม้บรรยากาศเป็นไปอย่างกระอักกระอ่วน เนื่องจากต่างฝ่ายต่างทราบดีอยู่แล้ว ว่าญัตติที่ตัวเองเสนอจะไม่ ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศเดียวที่ออกเสียงในญัตติเรื่องซีเรียเป็นไปในทางเดียวกับรัสเซียทุกครั้ง

การติดตามไล่ล่ากลุ่มกบฏ และ กลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย ก็ยังดำเนินการต่อเนื่องและหนักหน่วง แม้สหรัฐจะอ้างว่า เป็นการเข่นฆ่าพลเรือน แต่สหรัฐเองนั้นกลับไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ที่บ่งบอกว่า กำลังติดตามกลุ่มก่อการร้ายที่ตนเองเคยกล่าวอ้าง ได้ผลสำเร็จ แต่เมื่อโดยอีกฝากฝั่งหนึ่งนั้นดำเนินการขุดรากถอนโคน สหรัฐกลับเป็นเดือนเป็นแค้นแทน หรือว่าเพราะสหรัฐอยู่เบื้องหลังกลุ่มก่อการร้ายนั้นจริง  ถึงแม้สหรัฐจะพยายามให้รัสเซียยุติบทบาทในซีเรียแต่ล่าสุดปรากฎว่า     รัฐสภารัสเซียได้เห็นชอบข้อตกลงฉบับหนึ่งที่ทำกับรัฐบาลซีเรีย ในการประจำการกองกำลังของประเทศในซีเรียอย่างไม่มีกำหนดความเคลื่อนไหวดังกล่าว ถูกมองในฐานะเป็นเครื่องยืนยันว่ากองกำลังรัสเซียจะประจำการในซีเรียในระยะยาว ดังนั้นเวลานี้ คงไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดยั้งรัสเซีย และ ซีเรีย ในการกู้คืนประเทศจากกลุ่มกบฏ และ กลุ่มก่อการร้ายได้อีกแล้ว แต่สิ่งที่ต้องดูว่า แล้วสหรัฐ จะมีทีท่าอย่างไรกับเรื่องดังกล่าว