"โดนัลด์ ทรัมป์" ขอบคุณ "ปูติน" ที่ไม่บ้าตาม "โอบามา" พร้อมชื่นชม "โคตรฉลาด"

สำนักข่าวเอเอฟพี ได้รายงานว่า เคลลีแอน คอนเวย์ ที่ปรึกษาระดับอาวุโสของว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประณามประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ตัดสินในคว่ำบาตรรัสเซีย หลังจากทีทางด้านผู้นำคนนี้ ได้ออกมาตรการลงโทษรัสเซีย ต่อการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยขีดเส้นตายให้ผู้ปฏิบัติการข่าวกรองที่ประจำอยู่ ณ สถานทูตรัสเซียในวอชิงตันและสถานกุงสุลในซานฟรานซิสโก ออกจากประเทศภายใน 72 ชั่วโมง และคว่ำบาตรหน่วยงานข่าวกรองภายในกับหน่วยข่าวกรองของกองทัพรัสเซีย
      
     

       ในปี 2011 จอร์จ ดับเบิลยู.บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ได้ขับไล่ทูตรัสเซีย 50 คน หลังการจับกุม โรเบิร์ต แฮนเซน เจ้าหน้าที่พิเศษของเอฟบีไอ ซึ่งเป็นสายลับให้กับรัสเซียมานานกว่า 15 ปี
       
       เอฟบีไอและซีไอเอ สรุปว่าหน่วยงานข่าวกรองต่างๆของรัสเซียควบคุมการเจาระบบและแฉข้อมูลอีเมลองค์กรต่างๆของพรรคเดโมแครต ภายใต้คำสั่งจากรัฐบาลรัสเซีย เพื่อเอื้อประโยชน์แก่การหาเสียงของทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์
       
    

ทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรที่บารัค โอบามา กำหนดต่อรัสเซีย โดยเรียกร้องให้ประเทศเดินหน้าต่อไป และ ก็ย้ำว่า ตนเองจะเข้าพบกับหัวหน้าประชาคมข่าวกรองในสัปดาห์หน้า เพื่ออัพเดทข้อเท็จจริงของสถานการณ์
       


นอกจากนั้นแล้ว โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯยกย่องวลาดิเมียร์ ปูติน ว่าเป็นคนที่เป็นคนฉลาดอย่างยิ่ง ที่ไม่เร่งรีบตอบโต้สหรัฐฯ ภายใต้การนำของบารัค โอบามา      "ยืดเวลา เป็นความเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยม ผมรู้ดีมาตลอดว่าเขาเป็นคนที่ฉลาดมาก!" เขาระบุในทวิตเตอร์
       
       

แถลงการณ์ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ว่าแน่นอนรัสเซียมีความชอบธรรม ในการตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ  ที่ขับนักการทูตชาวรัสเซีย 35 คนนอกประเทศ ภายใน 72 ชั่วโมง และสั่งปิดอาคาร 2 แห่งในนครนิวยอร์กและรัฐแมริแลนด์ ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลรัสเซียบนแผ่นดินสหรัฐฯ  

 

แต่ทางด้านรัสเซียจะไม่ตามเกมด้วยการใช้วิธีการแบบเดียวกัน ดังที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอมา นั่นคือการขับนักการทูตชาวอเมริกันในจำนวนที่เท่ากัน และการสั่งปิดหรือห้ามเจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐฯ เข้าถึงสถานที่อีก 2 แห่ง ซึ่งจะเป็นกลยุทธ์การตอบโต้ในแบบสงครามเย็น โดยจะมุ่งมั่นฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดต่อไป ภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนปิดท้ายด้วยการอวยพรปีใหม่ให้แก่บารัค โอบามาและครอบครัว

 

ทางด้านมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวตำหนิรายงานของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ซึ่งระบุโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลรัสเซีย สั่งปิดโรงเรียนอังกฤษ-อเมริกัน ที่เปิดสำหรับบุตรหลานของเจ้าหน้าที่การทูตจากสหรัฐฯ แคนาดา และสหราชอาณาจักร เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

ซึ่งทางด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย  เสนอให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ขับนักการทูตชาวอเมริกัน 31 คนจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมอสโก และอีก 4 คนจากสถานกงสุลสหรัฐฯ ประจำนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยหากได้รับการอนุมัติภายในวันนี้ นักการทูตชาวอเมริกันทั้ง 35 คนต้องเดินทางออกจากรัสเซียพร้อมครอบครัว "ภายใน 48 ชั่วโมง" หรือภายในวันที่ 1 ม.ค. 2560 

 

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ ยังได้เสนอให้ ทางด้านผู้นำรัสเซีย  สั่งห้ามนักการทูตชาวอเมริกันและครอบครัวเข้าไปใช้บ้านพักตากอากาศ ที่เมืองเซเรบริยานี บอร์ ชานกรุงมอสโก และการใช้บริการโกดังสินค้าที่ตั้งอยู่บนถนนโดรอซห์นายา ในกรุงมอสโกด้วย หลังรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งปิดอาคาร 2 แห่งที่เป็นทรัพย์สินของรัสเซีย ในนครนิวยอร์กและรัฐแมริแลนด์

 

จำนวนนักการทูตของสหรัฐฯ ที่ทางด้าน รมว.ต่างประเทศรัสเซีย เสนอ ให้เดินทางออกจาก กรุงมอสโก นั้นเท่ากับที่ทางสหรัฐฯ ดำนเนินการ ให้ออกจากสหรัฐฯ ภายใน 72 ชั่วโมง  ตามมาตรการคว่ำบาตรของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งต้องการ ลงโทษ รัสเซีย ด้วยการกล่าวหาว่าโจมตีทางไซเบอร์เพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกัน ชนะนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนของพรรคเดโมแครต

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์