- 01 มี.ค. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th
ภายหลังจากกรณีการออกมาเปิดเผยของ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการ ฝ่ายสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Phra Sanitwong Charoenrattawong ระบุว่า "R.I.P ศพที่ 2 ของ ม.44" พร้อมระบุว่า "เวลา 11.29 น. ได้รับแจ้งจากผู้ป่วยโรคหอบหืด ต้องการยาพ่น ซึ่งพักอยู่ที่หลังวัด ( 58 ไร่) ซึ่งปกติจากจุดรับเรื่องถึงที่พักผู้ป่วยใช้เวลาเดินทางเลียบคลองแอล 10 นาที แต่ทางหน่วยกู้ชีพรัตนเวช ติดด่านตำรวจทหาร เพราะตัดสินใจไม่ได้ ต้องถามสอบเจ้าหน้าที่ DSI เท่านั้น หน่วยฯรัตนเวชที่รับเรื่องจึงได้ประสานงานให้รถหน่วยกู้ชีพ 1669 ให้ไปรับคนไข้แทน แต่รถ 1669 มาตามเส้นทางไม่ถูก และไม่ได้รับอนุญาตให้รับคนไข้ที่อื่น นอกจากประตู 7 เท่านั้น
อาสาสมัครรัตนเวช แจ้งว่า ต้องเสียเวลา ย้อนไปที่ประตู 7 เพื่อทำเรื่องขออนุญาต และนำทางให้รถ 1669 ไปรับผู้ป่วย เมื่อไปถึงในเวลา 12.39 น. พบผู้ป่วยได้เสียชีวิตแล้ว เสียเวลาในการติดต่อและผ่านเจ้าหน้าที่ ทั้งหมด 1 ชั่วโมง 10 นาที ระหว่างประสานงานติดต่อผู้ป่วยไม่ได้ เพราะสัญญาณโทรศัพท์ขาดๆ หายๆ
ล่าสุด ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @K5_Rescue เรื่องจริงผ่านเลนส์ หนึ่งในกู้ชีพกองอำนวยการ ที่ประจำการอยู่วัดพระธรรมกาย ออกมาโพสต์ข้อความต่อประเด็นดังกล่าว ดังต่อไปนี้...
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนสภ.คลองหลวง ได้เชิญเจ้าหน้าที่กู้ภัยของอุบัติเหตุฉุกเฉิน 1669 มาสอบปากคำ โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ขั้นตอนหลังรับแจ้งไม่ได้ล่าช้าและไม่ได้หลงทาง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการปิดกั้นพื้นที่ให้ทีมกู้ชีพเข้าไปช่วยเหลือ ขณะเดียวกันย้ำว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการด้วยความเป็นกลาง ช่วยเหลือทางการแพทย์ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พระสงฆ์ และศิษย์วัดพระธรรมกาย ซึ่งการตัดสัญญาณโทรศัพท์ก็อาจทำให้มีส่วนในขั้นตอนการโทรศัพท์ติดต่อขอความช่วยเหลือล่าช้าได้
เรียบเรียง อติ
ขอบคุณ ทวิตเตอร์ @K5_Rescue เรื่องจริงผ่านเลนส์