เผือกไรด้วย !!! เรืองไกร จี้รัฐบาลยกเลิกคำสั่งห้ามนั่งท้ายกระบะ อ้าง "บิ๊กป้อม" รับมีส่วนคิด จึงไม่ชอบด้วยบัญญัติกฏหมาย

ติดตามข้อมูลได้ที่ www.tnews.co.th


 ที่ปรึกษากฎหมายเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงนายกฯ จี้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.มาตรการบังคับใช้กฏหมายจราจรทางบก อ้างมิชอบในการออกคำสั่ง เหตุ ม.44 เป็นอำนาจของ "ประยุทธ์" แต่ "ประวิตร" อ้างมีส่วนออก กม.จึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติ ชี้ห้ามกระบะนั่งท้ายหรือแค๊ปละเมิดเสรีภาพ แนะให้กลับไปใช้ พ.ร.บ.จราจร แล้วผ่อนปรม หรือชะลอการใช้
          วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 14/2560 เรื่องมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ซึ่งคำสั่งดังกล่าวมีปัญหาทั้งด้านการนำไปบังคับใช้ และอาจมีปัญหาความไม่ชอบเกี่ยวกับการออกคำสั่งดังกล่าว จึงขอให้พิจารณายกเลิก โดยตนขอเสนอ
 


ว่าคำสั่งตามมาตรา 44 มีอำนาจเป็นรัฏฐาธิปัตย์ และหัวหน้าคสช.เองยังมีอำนาจนี้อยู่ ซึ่งการที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมายอมรับว่ามีส่วนกับคำสั่งดังกล่าว จึงมีข้อทักท้วงว่าการได้มาในการออกคำสั่งนี้อาจเป็นไปโดยมิชอบ
          “ซึ่งเหตุผลก็ล้อมาจากความคิดเห็นของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในเรื่องการใช้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 820 และ821 ที่จะเรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เรียกอภินิหารทางกฎหมาย อันนี้ก็เป็นตัวหนึ่งที่ขอให้ทบทวนว่าถ้าที่มาไม่ชอบโดยการออกมายอมรับของพล.อ.ประยุทธ์เอง ก็เป็นช่องทางที่นายกฯ จะยกเลิกคำสั่งนี้ได้”นายเรืองไกร กล่าว


  นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ปัญหาจากการแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 123 วรรคสอง ตามคำสั่งดังกล่าว ข้อ 2 ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้โดยสารทุกคนต้องรัดเข็มขัดนิรภัยและรถกระบะจะให้นั่งได้เฉพาะแถวหน้าโดยห้ามนั่งหรือโดยสารในท้ายกระบะหรือแค็ป ซึ่งคำสั่งที่ถือเป็นกฎหมายมาใช้บังคับนั้นอาจขัดต่อสิทธิและเสรีภาพในรัฐธรรมนูญ 2560 ตามมาได้ จากปัญหาทั้งสองประการจึงจะเสนอให้ นายกฯพิจารณาทบทวน เป็นสองแนวทาง คือ 1.ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวทั้งหมดเพราะการออกคำสั่งดังกล่าวไม่ได้มาจากความเห็นของหัวหน้า คสช.จึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ 2557 และ 2.หากจะปล่อยให้คำสั่งดังกล่าวมีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไปก็ควรแก้ไขโดยยกเลิกความตามคำสั่ง ข้อ 2 คือ ให้กลับไปใช้ข้อความเดิมของ พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 123 วรรคสอง ก่อนการแก้ไข จะเป็นประโยชน์มากกว่าการที่ไม่แก้ไข แล้วใช้วิธีผ่อนปรนหรือชะลอการบังคับใช้ ซึ่งการไม่บังคับใช้กฎหมายอาจทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมีปัญหาการละเว้นตามมาได้ แต่หากนำมาใช้ต่อไปก็จะเป็นเหตุให้ประชาชนส่วนใหญ่ที่มีรถกระบะได้รับความเดือดร้อน