- 19 เม.ย. 2560
จริงหรือไม่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ไม่เคยพูดว่าพุทธคือศาสนาของจักรวาล
เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” (๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๘) นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ ๒๐ ในฐานะผู้ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพและผลงานทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญอีกมากมาย จนทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ประจำปี ๑๙๒๑
มีเรื่องเล่ากันว่า ถึงแม้ไอน์สไตน์จะจากโลกนี้ไปโดยที่ยังไม่สามารถค้นพบคำตอบต่อคำถามบางอย่างที่ต้องการจะรู้ แต่เขาก็ได้ทิ้งคำพูดอันเป็นปริศนาที่สำคัญมากให้กับมนุษยชาติ กล่าวคือ ในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต ไอน์สไตน์ได้เริ่มสงสัยแล้วว่า “พุทธศาสนา” อาจจะเป็นศาสนาที่ให้คำตอบที่เขากำลังพยายามค้นหา และในช่วงหนึ่งปีก่อนที่ไอน์สไตน์จะเสียชีวิตนั้น มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันได้ตีพิมพ์งานเขียนชิ้นหนึ่งของเขาคือ “The Human Side” ซึ่งมีคำกล่าวทิ้งท้ายให้เป็นปริศนาแห่งโลกอนาคตไว้ว่า
“ศาสนาแห่งอนาคตจะต้องเป็นศาสนาสากล จะต้องอยู่เหนือพระเจ้าที่เป็นบุคคล จะต้องไม่ใช่คำสอนแบบสำเร็จรูปที่สอนให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว และจะต้องไม่ใช่ศาสนาแบบเทววิทยาที่ยึดถือการพึ่งพาเทพเจ้า
ศาสนาจะต้องครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตวิญญาณ โดยวางอยู่บนพื้นฐานของสำนึกทางศาสนาซึ่งเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่หยั่งเห็นว่าสรรพสิ่งนั้นเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างมีความหมาย
ถ้าหากจะมีศาสนาใดที่รับมือกับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้ ... ศาสนานั้นก็ควรเป็นพุทธศาสนา”!!
แล้วก็ปรากฏว่า คำกล่าวนี้ได้ถูกอ้างต่อ ๆ กันมา และนำไปเผยแพร่อย่างกว้างขวาง จนทำให้ชาวพุทธจำนวนมากเชื่อว่าไอน์สไตน์พูดประโยคนี้จริง ๆ และยินดีที่จะเชื่อด้วยซ้ำเมื่อมีนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกมาเป็น “พรีเซนเตอร์” ผู้ให้การรับรองว่า “พุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์” หรือ “พุทธศาสนาคือศาสนาของจักรวาล” กระทั่งหนังสือธรรมะบางเล่มก็ยังหยิบเอาประโยคนี้มาสนับสนุนความเชื่อว่า “ไอน์สไตน์ค้นพบสิ่งเดียวกับที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้” แล้วนำมาชูเป็นจุดขาย
แต่ในอีกด้านหนึ่งก็มีหลายคนตั้งคำถามว่า ไอน์สไตน์เป็นคนพูดประโยคนั้นจริงหรือไม่? และคนเหล่านั้นก็พยายามตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยการสืบค้นแหล่งที่มาตามที่มีการกล่าวอ้าง ซึ่งในที่สุดก็พบคำตอบว่า “ไอน์สไตน์ไม่เคยกล่าวไว้”!!
อย่างเช่น ในหนังสือ “The Human Side” ที่เป็นต้นตอของเรื่อง เมื่อตรวจสอบแล้วก็ไม่พบประโยคดังกล่าวอยู่ในหน้าใดของหนังสือเลย หรือแม้แต่ประโยคที่ระบุถึง “พุทธศาสนา” (Buddhism) ก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ
ในเว็บไซต์ wikiquote ก็มีการถกเถียงกันเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยเฉพาะ “จอห์น สเตเคิล” บรรณาธิการหนังสือรวบรวมงานเขียนของไอน์สไตน์ รวมถึงอีกหลายคนที่แต่งหนังสือรวมคำกล่าวของไอน์สไตน์ ก็ไม่มีใครเลยที่ยืนยันว่าไอน์สไตน์เคยพูดประโยคนี้
เมื่อเป็นเช่นนี้ เว็บไซต์ wikiquote ก็เลยจัดประโยคดังกล่าวให้อยู่ในกลุ่ม “Misattributed” ซึ่งแปลง่าย ๆ ก็หมายความว่า “คำพูดของใครไม่รู้...แล้วก็เอามายัดใส่ปากไอน์สไตน์”!!
การนำชื่อของไอน์สไตน์ไปอ้างว่าอย่างโน้นว่าอย่างนี้นั้นมีให้พบเห็นมากมายในโลกอินเทอร์เน็ต (ไม่เชื่อก็ลองค้นข้อความว่า “einstein fake quotes” หรือ “einstein never said that” ใน Google ดูได้) ซึ่งเราก็ไม่อยากจะเดาว่าคนที่ทำเช่นนั้นทำไปเพื่ออะไร หรือถ้าใครจะยืนยันว่าไอน์สไตน์พูดแบบนั้นจริง ๆ ก็ต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์กันให้กระจ่าง
ไม่ใช่ว่า รู้ทั้งรู้ว่าไอน์สไตน์ไม่เคยพูด (หรือไม่แน่ใจว่าไอน์สไตน์พูดจริงหรือไม่) แต่เห็นว่าคำพูดนั้นมันหรู ฟังดูเท่ ก็เลยเอามาจับแพะชนแกะ จนเกิดความเข้าใจผิดไปตาม ๆ กัน!!
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
------------------------------------------------------------------------------
ที่มา :
https://en.wikiquote.org/wiki/Albert_Einstein
https://en.wikipedia.org/wiki/Talk%3ABuddhism_and_science
http://press.uchicago.edu/Misc/Chicago/493121.html