วันนี้ในอดีต!! รำลึก  ๒๗ เมษา เผยภาพหาชมยาก เอกสารราชการฉบับแรกแห่งสยาม!! พระมหากรุณาธิคุณใน ร.๓ ทรงประกาศยกเลิกค้าฝิ่น

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

วันนี้ในอดีต!! รำลึก  ๒๗ เมษา เผยภาพหาชมยาก เอกสารราชการฉบับแรกแห่งสยาม!! พระมหากรุณาธิคุณใน ร.๓ ทรงประกาศยกเลิกค้าฝิ่น

                27 เมษายน พ.ศ 2382 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จ้างโรงพิมพ์หมอบรัดเลย์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน พิมพ์พระบรมราชโองการ ประกาศเรื่อง ห้ามสูบฝิ่นและค้าฝิ่น เป็นใบปลิวจำนวน 9,000 ฉบับ นับเป็นเอกสารทางราชการฉบับแรกที่ใช้วิธีการพิมพ์ด้วยตัวอักษรไทยและพิมพ์โดยโรงพิมพ์ในประเทศสยาม โดยสั่งซื้อตัวพิมพ์มาจากประเทศสิงคโปร์

 

                     นับเป็นเอกสารทางราชการที่พิมพ์ด้วยตัวพิมพ์ภาษาไทยเป็นครั้งแรกของประเทศไทย พิมพ์ที่โรงพิมพ์หมดบรัดเลย์ เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2382 จำนวน 9,000 ฉบับ อักขรวิธีและการตัดบรรทัดในที่นี้เป็นไปตามต้นฉบับทุกประการ มีความว่า

 

วันนี้ในอดีต!! รำลึก  ๒๗ เมษา เผยภาพหาชมยาก เอกสารราชการฉบับแรกแห่งสยาม!! พระมหากรุณาธิคุณใน ร.๓ ทรงประกาศยกเลิกค้าฝิ่น

 

๏ ด้วยเจ้าพญาพระคลังว่าที่สมุหพระกลาโหม รับพระราชโองการใส่เกล้าใส่กระหม่อม ทรงพระกรุณาโปรด เกล้าโปรดกระหม่อมสั่งว่า ตั้งแต่เสดจ์ขึ้นราชาภิเศกเสวยราชสมบัติ ตั้งพระไทยจะบำรุงพระบวรพุทธสาศนารักษา แผ่นดินปกครองพระบรมวงษานุวงษ ข้าทูลลอองทุลีพระบาท และราษฎรลูกค้าพานิช จะให้ทำมาหากินปราศ จากโทษ จะให้มีประโยชน์ทรัพย์สินอยู่เย็นเปนศุข์ทั่วไปโดยพระไทยตั้งต่อพระโพธิญาณ กอบไปด้วยพระมหากรุณาแก่สรรพสัตวเปนอันมาก ทรงพระราชดำริเหนว่าคนสูบฝิ่นกินฝิ่นเปนเสี้ยนหนามพระพุทธสาศนาให้แผ่นดินเกิดจุลาจลต่างๆ ฝิ่นเปนของชั่วห้ามปรามสืบต่อมาทุกแผ่นดิน โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีพระราชบริหารบัญัติแจกประกาศไปแต่ก่อนห้าทมิให้ผู้ใด ซื้อฝิ่นขายฝิ่น ฝิ่นสุกฝิ่นดิบของผู้ใดมี ให้เอามาส่งไว้ ในพระคลังซ้ายให้สิ้นเชิง กว่าจะผ่อนเอาออกไปขายเสียได้นอกประเทษ อย่าให้เอาฝิ่นไว้กับบ้านเรือนโรงร้านเรือนแพลักลอบซื้อขายแก่กัน ถ้ามิฟังมีผู้จับได้ ให้เอาฝิ่นตั้งปรับไหมเจ้าของฝิ่น ๑๐ ต่อ ฝิ่นที่จับได้นั้นโปรดให้เอาไปขายเสียนอกประเทษได้ราคาเท่าใด ก็ให้หักเงินพิไนยลงให้เจ้าของฝิ่น ให้ข้าราชการตั้งกองชำระปรับไหม โดยพระไทยจะธรมาณคนโลภที่ซ่อนฝิ่นไว้ซื้อขาย ให้เสียทรัพย์ค่าปรับไหม จะได้เข็ดหลาบและคนที่เหนแก่แผ่นดินมีกระตัญูรู้พระเดชพระคุณ สมเด็จพระพุทธิเจ้าอยู่หวัว เอาฝิ่นมาส่งฝากไว้ตามกฎหมายพระราชบัญัติก็มี ที่เปนคนพาลสันดานโลภจะเอากำไรในการซื้อฝิ่นขายฝิ่น ก็ยังลอบซื้อลอบขายอยู่จนมีผู้จับได้ต้องปรับไหมก็มากหลายราย แต่ให้ตั้งกองปรับไหมมาก็นานกว่าสิบปีแล้ว ก็ยังลักลอบรับซื้อเอาฝิ่นเข้ามาขายมากขึ้นกว่าแต่ก่อน คนสูบฝิ่นกินฝิ่นก็ชุกชุมขึ้น หาเข็ดหลาบละเว้นเสียไม่ สมเดจ์พระพุทธิเจ้าอยู่หวัวจึ่งทรงพระปรารพจะรงับตัดรอนฝิ่น จะไม่ให้มีอยู่ในแผ่นดิน และฝิ่นนี้ก็ไม่มีพืชน์ผลต้นลำอยู่ในแว่นแคว้นขอบขันทเสมา ฝิ่นนี้มาแต่นาๆ ประเทษ ไม่มีคนรับรองซื้อหามาแล้วฝิ่นก็จะสิ้น คนที่เคยสูบฝิ่นไม่มีที่ซื้อ แล้วก็จะลดหย่อนผ่อนสูบนอ้ยลงภอจะอดเสยได้บ้าง ที่คนไม่เคยสูบฝิ่นก็จะมิได้คบภากันสูบฝิ่นกินฝิ่นต่อไป และทุกวันนี้ลูกค้าพานิชในกรุงเทพพระมหานคร ที่มีสำเภาเรือไบไปค้าขายนอกประเทษยัง

 

วันนี้ในอดีต!! รำลึก  ๒๗ เมษา เผยภาพหาชมยาก เอกสารราชการฉบับแรกแห่งสยาม!! พระมหากรุณาธิคุณใน ร.๓ ทรงประกาศยกเลิกค้าฝิ่น

                  ซื้อฝิ่นซ่อนเร้นเข้ามาซื้อขายแก่กัน อีกอย่างหนึ่งลูกค้านอกประเทษรู้ว่าลูกค้าในแว่นแคว้นกรุงเทพพระมหานคร :ลอบซื้อขายฝิ่นกันได้อยู่ จะบันทุกฝิ่นมาลอบซื้อลอบขายอยู่ปลายเขตปลายแดน มีผู้รับซื้อส่งต่อกันเข้ามา ฝิ่นจึงมีเสมออยู่ในแผ่นดินไม่ขาด แล้วการลอบลักซื้อขายฝิ่นกันดังนี้ ก็ซื้อขายกันเปนเงินทั้งสิ้น เงินทองในแผ่นดินออกไปนอกประเทษเพราะค้าฝิ่นก็โดยมาก จำจะห้ามปรามจับกุมทำให้เข็ดหลาบจงได้ จึ่งมีพระราชโองการดำหรัดสั่งเจ้าพญาพระคลังว่าที่สมุหพระกลาโหม ให้สืบสวนคอยสกัดลูกค้าเจ้าของฝิ่น และผู้รับซื้อฝิ่นให้ได้ตัว ครั้นณเดือน ๔ ปีจอสำเรทธิศกเจ้าพญาพระคลังว่าที่สมุหพระกลาโหม ออกไปส่งกองทับณชเลรู้ ความว่า อ้ายจีนเรือภายเข้ามาจอดขายฝิ่นอยู่ที่สมมุขสองลำ บอกขึ้นมากราบบังคมทูลพระกรรุณาทรงทราบไต้ฝ่าละอองทุลีพระบาท โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้พญาณรงฤทธิโกษาพญาวิเสศศักดาคุมทหารปืนเมืองสมุทรปราการ ลงเรือรบออกไปติดตามจับจีนเรือภายได้ลำหนึ่งได้ฝิ่น ๒๓ ปัก อ้ายจีนเรือภายให้การว่าแวะเข้าบ้านแหลมขายฝิ่นให้ผู้มีชื่อที่บ้านแหลมแปดปัก จึ่งโปรดให้พระมหาเทพออกไปชำระจับได้อ้ายจีนผู้รับซื้อฝิ่นเปนหลายรายซัดกันต่อไป ได้ให้ข้าหลวงแยกกันไปชำระพวกซื้อฝิ่นตามหวัววเมืองฝ่ายชเลอยู่แล้ว แลในกรุงเทพพระมหานครหวัวเมืองปากไต้ฝ่ายเหนือทั้งปวง ไทจีนลูกค้าพานิชก็ยังเอาฝิ่นซ่อนเร้นไว้ลอบซื้อฃายแก่กันมีอยู่โดยมาก แต่กอ่รโปรดให้ข้าราชการ ตั้งกองชำระแต่งคนสืบเสาะจับกุมเอาฝิ่นมาตั้งปรับไหม เปนแต่ข้าราชการผู้น้อยชำระ สืบสาวจับฝิ่นหาได้ฝิ่นสิ้นไม่ ครั้งนี้สมเดจ์พระพุทธิเจ้าอยู่หวัวจะทรงชำระจึ่งโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมดำหรัศสั่งตั้งแต่พระบรมวงษานุวงษ มีกรมหลวงรักษรณเรศเปนประทาน และเจ้าพญาบดินท์เดชาที่สมุหนายกเจ้าพญาพระคลังว่าที่สมุหพระกลาโหม แลเสนาบดีข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้มีกระตัญูรู้พระเดชพระคุณช่วยรักษาแผ่นดินพร้อมกันให้ช่วยสืบสาวชำระเอาตัวเจ้าของฝิ่นแลฝิ่นให้สิ้นจงได้ ถ้าชำระได้ตัวผู้ที่เอาฝิ่นไว้ก็จะให้มีโทษหลวงโทษปรับไหมให้เข็ดหลาบ ทั้งจะให้ผู้อื่นกลัวเกรงพระราชอาชญาอาณาจักรอย่าให้บังอาจซื้อฝิ่นขายฝิ่นต่อไปอีก ฝิ่นไม่มีแล้วก็จะได้สิ้นเสี้ยนหนามแผ่นดินไปอย่างหนึ่ง แต่ยังทรงอาไลยเจ้าภาสีเจ้สัวลูกค้าวานิช ที่ได้พึ่งพระบารมีอาไศรยแผ่นดินค้าฃายหากินมีความศุขมา จะมีฝิ่นอยู่ก่อนแล้วจะเอาฝิ่นมาบอกกล่าวก็กลัวจะได้ความความผิด และอายอับประยศจะซู่ปกปิดซุ่มซ่อนฝิ่นไว้ โดยใจประมาทก็จะหาพ้นไม่ คงจะชำระสืบสาวเอาได้ก็จะต้องอาชญาได้ความพินาศฉิบหายยับเญินสูนสิ้นชื่องเสยีงไปเสียเปล่า สมเดจ็พระพุทธิเจ้าอยู่หวัวทรงพระมหากรรุณาเมตตาแก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเปนอันมาก โปรดเก้ลาโปรดกระหม่อม จะให้โอกาษแก่ผู้ซึ่งมีฝิ่นอยู่นั้น ให้เอาฝิ่นมาลุแก่โทษ จะยกโทษหลวงโทษปรับไหมพระราชทานให้เหมอืนเมื่อครั้งปีรกานพศก โจรกำเรีบลักช้างม้าโคกระบือปล้นสดมย่องเบาทรัพยสิ่งของชุกชุมจะให้ตั้งกองจับโจรก็คงได้ตัว แต่จะต้องทำโทษประหารชีวิตร เฆยี่นตีจำใส่คุกไว้ตามกฎหมาย ทรงเหนว่าโจรทั้งนี้เปนไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินจะต้องทุกข์โทษไปชั่วนี้ชั่วหน้า จึ่งโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หมายประกาษป่าวร้องราษฎรผู้ใดกระทำโจรกรรม์หยาบช้ามาแต่ก่อน ให้มาลุแก่โทษบอกความจริงกับแม่กองผู้ชำระ พวกโจรทั้งปวงรู้ศึกโทษตัวกลัวพระราชอาชญา ภากันเข้ามาลุแก่โทษเปนอันมาก โปรดให้ยกโทษพระราชทานให้ทั้งค่าฤชากระลาการก็โปรดห้ามมิให้กองชำระเรียกเอา แล้วพระราชทานพระราชโอวาทสั่งสอนให้ได้สติรู้สึกตัวจะได้ละเสียซึ่งความชั่วอันกระทำมาแต่หลัง ถ้ากลับตัวได้ตามคำโบราณว่าต้นคดปลายตรง ก็คงจะเอาความศุขได้ในชั่วนี้แลภายหน้า :โดยพระไทยกอบไปด้วยพระมหากรรุณาเมตาจะทรงสงเคราะห์ ไพร่ฟ้าประชากรให้ได้ความศุขต่อไป แลผู้ซึ่งมีฝิ่นอยู่นั้นก็เหมอืนกัน ด้วยแต่ก่อนได้ประมาทหลงเกินไปแล้ว รู้ศึกโทษตัวกลัวความผิด ก็ให้เอาฝิ่นที่มีอยู่มากนอ้ยเท่าใดให้เอาฝิ่นมาลุแก่โทษต่อเจ้าพญาทรมาเสนาบดีผู้ใหญ่ซึ่งโปรดให้เป็นแม่กองรับลุแก่โทษ ถ้าผู้ใดเอาฝิ่นมาลุแก่โทษสิ้นโดยดีแล้ว ถึงว่าแต่ก่อนจะซื้อฝิ่นขายฝิ่นมามากน้อยประการใด ก็โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม :ให้ยกโทษพระราชทานให้ทั้งโทษหลวงโทษปรับไหม หาให้มีกับผู้ที่มาลุแก่โทษไม่ สมเดจ็พระพุทธิเจ้าอยู่หวัวฃอเสียอย่างเดยีวแต่อย่าให้ซื้อฝิ่นฃายฝิ่นอีกต่อไป แลฝางพริกไทนอรมาดงาช้างเร่วกระวาน เปนของตอ้งห้ามมาแต่ก่อน ก็ได้โปรดให้ฃ้าฃายกับฃองอื่นบันดาฃองสินค้ามีอยู่ในแผ่นดิน ให้ซื้อฃายตามสมัคปราถนา หาให้ห้ามปรามไม่ จนเข้าเกลือเปนฃองสำหรับพระนคร ก็ได้ทรงผอ่นปรนให้ซื้อขายโดยพระไทยปราถนา จะ

 

 

 

วันนี้ในอดีต!! รำลึก  ๒๗ เมษา เผยภาพหาชมยาก เอกสารราชการฉบับแรกแห่งสยาม!! พระมหากรุณาธิคุณใน ร.๓ ทรงประกาศยกเลิกค้าฝิ่น

      ให้เจ้าภาสีเจ้สัวลูกค้าวานิช พึ่งพระบรมโพธิสมภาร มีทรัพย์สินบริบุรรณมั่งขั้งเปนเสฐีขึ้นจะได้งามพระนครไปภายหน้า และฝิ่นไม่เปนของสีนค้า ซึ่งจะเอาฝิ่นเปนสีนค้าซื้อขายแก่กันนั้นหาชอบไม่ จะทรงห้ามเสียให้เดจ์ขาด จึ่งโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้กรมหลวงรักษรณเรศเจ้าพญาบดินท์เดชาที่สมุหนายก :เจ้าพญาพระคลังว่าที่สมุหพระกลาโหมเสนาบดีผู้ใหญ่เปนแม่กองพร้อมดว้ยข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย ตั้งกองชำระฝิ่น ณกรุงเทพพระมหานคร โปรดให้เจ้าพญาพลเทพกับพระมหาเทพออกไปตั้งกองสืบสาวชำระฝิ่นณเมืองเพชบุรีเมืองสมุทสงครามเมืองษาครบุรีเมืองนครไชศรี ให้พญามหาอำมาตย์พญาวีสูดโกษาจะหมื่นไชยภอรจะหมื่นอินทามาตย์ออกไปตั้งชำระฝิ่นณเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเซราเมืองปราจินเมืองนครนายก ได้โปรดให้มีตราออกไปถึงเจ้าพญายมราชพญาศรีพิพัฒ ให้ชำระฝิ่นณเมืองสงขลาจับส่งเข้ามาชำระไต่สวนณกรุงเทพพระมหานคร ถ้ากองชำระณหวัวเมือง ชำระเกี่ยวข้องถึงไทจีน ณกรุงเทพพระมหานคร ก็ให้ข้าหลวงบอกหนังสือเข้ามาจะเอาตัวผู้ซึ่งเกี่ยวข้องส่งออกไปให้ชำระณหวัวเมือง ให้ข้าหลวงกองชำระ ๆ สืบสาวบันจบ ถึงกันกับกองชำระณกรุงเทพพระมหานคร :สุดแต่จะให้ชำระสืบเอาฝิ่นให้สิ้น ถ้าผู้ใดๆ ซึ่งมีอยู่ในแขวงจังหวัดกรุงเทพพระมหานคร มีฝิ่นอยู่มากน้อยเท่าใด ให้เอาฝิ่นมาลุแก่โทษให้สิ้น ถ้าผู้ใดมีฝิ่นอยู่มิได้เอาฝิ่นเข้ามาลุแก่โทษซุ่มซ่อนฝิ่นไว้ปราถนาจะค้าฃายหากินในการซื้อฝิ่นขายฝิ่นไม่เกรงกลัวพระราชอาชญา ก็เปนอกุศลผลกรรม์จะให้บังเกีดความวินาศฉิบหายจะทรงพระราชดำริให้สืบสาวชำระได้ตัวผู้ที่มีฝิ่นพิจารณาเปนสัจแล้วจะให้กระทำโทษลงพระราชอาชญาโดยสาหัฐ ควรจะประหารชีวิตก็จะให้ประหารชีวิตเสีย อย่าให้มีผู้เอาเยี่ยงอย่างซื้อฝิ่นขายฝิ่นอยู่ในแผ่นดินต่อไป ให้เจ้าเมืองปลัดยกรบัตกรมการผู้รักษาเมืองเอาตราสำหรับที่ ปิดหมายแจกไปไว้กับนายอำเภอกำนันพันนายบ้านราษฎรไทจีนลูกค้าวานิช ซึ่งตั้งบ้านตั้งเรือนตึกโรงร้านอยู่เรือแพให้สิ้นแขวงอำเภอ ให้รู้จงทั่วอย่าให้ขาดได้ตามรับสั่ง หมายมาณวันพฤหัษเดือนหกขึ้นห้าค่ำ จุลศักราช ๑๒๐๑ ปีกุณเอกศก

 

ที่มาจาก : https://th.wikisource.org/wiki/ประกาศห้ามสูบฝิ่นในสมัยรัชกาลที่_3

ภาพจาก : เพจ "รัก" ประวัติศาสตร์ไทย "Love" Thai History